ผู้ถูกดำเนินคดี
ข้อหา
หมายเลขคดี
  • การชุมนุม
  • พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะฯ 2558
  • อื่นๆ

ผู้กล่าวหา
  • พ.ต.อ.วีรภัสส์ ห้วยหงษ์ทอง ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ (ตำรวจ)
ผู้ถูกดำเนินคดี

ข้อหา

  • การชุมนุม
  • พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะฯ 2558
  • อื่นๆ

หมายเลขคดี

ผู้กล่าวหา
  • พ.ต.อ.วีรภัสส์ ห้วยหงษ์ทอง ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์

ความสำคัญของคดี

นายกฤษฐ์หิรัญ เลิศอุฤทธิ์ภักดี ผู้ริเริ่มจัดกิจกรรม "วิ่ง.ไล่.ลุง #จังหวัดนครสวรรค์" ถูกดำเนินคดีใน 3 ข้อหา ได้แก่ ไม่แจ้งการชุมนุมตาม พ.ร.บ.การชุมนุมฯ, ขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน และกีดขวางการจราจร หลังเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2563 มีการจัดกิจกรรมวิ่งไล่ลุงที่บริเวณถนนริมเขื่อนเจ้าพระยา ซึ่งมีนายกฤษฐ์หิรัญ และผู้เข้าร่วมกิจกรรมประมาณ 300 คน สวมเสื้อวิ่งไล่ลุง พร้อมป้ายติดตามหน้าอก ห้อยคอ แสดงออกทางการเมืองในลักษณะไม่พอใจการบริการงานของนายกฯ แต่ก่อนออกวิ่ง ตำรวจได้นำคำสั่งห้ามชุมนุมสาธารณะมาให้ผู้จัด อ้างว่า ไม่มีการแจ้งการชุมนุม แต่ในที่สุดกิจกรรมก็สามารถดำเนินต่อไปได้จนสิ้นสุด กฤษฐ์หิรัญ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยยืนยันว่าการจัดกิจกรรมวิ่งไล่ลุงไม่ใช่การชุมนุม

พฤติการณ์ของคดีตามเอกสารคดี

คำฟ้องของโจทก์บรรยายโดยสรุปกล่าวหาว่า

“จำเลยได้จัดให้มีการชุมนุมสาธารณะและมีแกนนำอีกหลายคน โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กเชิญชวนให้คนมาร่วมชุมนุม เมื่อวันที่ 12 ม.ค. 63 บริเวณริมเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดนครสวรรค์ โดยไม่มีการแจ้งการชุมนุมต่อผู้รับแจ้งไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง ต่อมาเมื่อพ.ต.อ.วีรภัสส์ ห้วยหงษ์ทอง หัวหน้าสถานีตํารวจภูธรเมืองนครสวรรค์ ได้มีคําสั่งให้จําเลยเลิกการชุมนุมสาธารณะที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จําเลยทราบคำสั่งและไม่ปฏิบัติตามได้ดำเนินการชุมนุมต่อไป นอกจากนี้จำเลยยังได้บังอาจนำผู้ชุมนุมราว 115 คน ร่วมกันวิ่งและเดินเป็นขบวนบนถนน โดยมีการร่วมกันทํากิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ด้วยการชูสามนิ้ว ที่หมายถึง สันติภาพ เสรีภาพ และภราดรภาพ ต่อเนื่องกันไปตามเส้นทางและมีการหยุดรวมตัวกันถ่ายภาพและตะโกนว่า ‘ประชาธิปไตยจงเจริญ’”

จากพฤติการณ์ดังกล่าว อัยการคดีศาลแขวงนครสวรรค์เห็นว่าเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย ได้แก่ ไม่แจ้งการชุมนุม ตามพ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558, ข้อหาขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 368, ข้อหาก่อความเดือดร้อนรำคาญ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 397 และข้อหากีดขวางการจราจร ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522

(อ้างอิง: คำฟ้อง ศาลแขวงนครสวรรค์ คดีหมายเลขดำที่ อ.2647/2563 ลงวันที่ 23 ธ.ค. 2563)

ความคืบหน้าของคดี

  • เวลา 10.20 น. ที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ นายกฤษฐ์หิรัญ เลิศอุฤทธิ์ภักดี ผู้ถูกกล่าวหาว่าจัดงานวิ่งไล่ลุงใน จ.นครสวรรค์ พร้อมทนายความ ได้เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหา หลังจากได้รับหมายเรียกในข้อกล่าวหาไม่แจ้งการชุมนุม เมื่อวันที่ 17 ม.ค. 2563 จากกรณีการโพสต์เฟซบุ๊กเชิญชวนประชาชนไปงานวิ่งไล่ลุง บริเวณที่ถนนริมเขื่อนเจ้าพระยา จ.นครสวรรค์ ในวันที่ 12 ม.ค. 2563

    ในวันนี้ ทางพนักงานสอบสวน ร.ต.อ.ชัยวัฒน์ ทิพยโสตถิ ได้แจ้งข้อกล่าวหานายกฤษฐ์หิรัญถึง 3 ข้อหา ได้แก่ ข้อหาตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 ในมาตรา 10 เรื่องการจัดให้มีการชุมนุมสาธารณะ โดยไม่แจ้งการชุมนุมต่อเจ้าหน้าที่ผู้รับแจ้ง ก่อนเริ่มชุมนุมไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง, ข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 368 ขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนั้นโดยไม่มีเหตุหรือข้อแก้ตัวอันควร และข้อหาตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 108 ร่วมกันเดินเป็นขบวนในลักษณะที่เป็นการกีดขวางการจราจรและทำให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญ

    ในบันทึกแจ้งข้อกล่าวหาได้ระบุว่า เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. 2562 ผู้ต้องหาได้ประกาศเชิญชวนให้ประชาชนทั่วไป ร่วมกิจกรรมทางเพจเฟซบุ๊กชื่อ “วิ่งเพื่อประชาธิปไตย” โดยลงข้อความว่า #วิ่ง . ไล่ . ลุง# นครสวรรค์ # เปิดเป็นสาธารณะซึ่งประชาชนทั่วไปเข้าถึงได้ โดยเป็นกิจกรรมที่แสดงออกทางการเมือง นอกจากนี้ ยังมีการจัดทำเสื้อยืดสีขาว สกรีนข้อความ “วิ่งไล่ลุง” เพื่อจำหน่ายให้ผู้มาเข้าร่วมสวมใส่

    ต่อมาเมื่อมีกิจกรรมวันที่ 12 ม.ค. 2563 ผู้ต้องหาไม่ได้แจ้งการชุมนุมสาธารณะตามกฎหมาย ซึ่งผู้กำกับการ สภ.เมืองนครสวรรค์ พ.ต.อ.วีรภัสส์ ห้วยหงษ์ทอง ในฐานะผู้รับแจ้งตามกฎหมาย ได้นำคำสั่งห้ามชุมนุมสาธารณะไปแจ้งให้ผู้ต้องหาทราบ แต่ผู้ต้องหาไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง

    หลังจากรับทราบข้อกล่าวหากฤษฐ์หิรัญให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และจะให้การเพิ่มเติมเป็นลายลักษณ์อักษรในภายหลัง

    (อ้างอิง: บันทึกแจ้งข้อกล่าวหา สภ.เมืองนครสวรรค์ ลงวันที่ 23 มกราคม 2563 และ https://www.tlhr2014.com/?p=15615)
  • ที่สำนักงานอัยการคดีศาลแขวงนครสวรรค์ พนักงานสอบสวนส่งตัวกฤษฐ์หิรัญพร้อมสำนวนการสอบสวนให้อัยการ โดยอัยการนัดฟังคำสั่งฟ้อง ในวันที่ 21 ก.พ. 63 เวลา 10.00 น.

    (อ้างอิง: https://www.tlhr2014.com/?p=16051)
  • เวลา 10.00 น. นายกฤษฐ์หิรัญ เข้าพบพนักงานอัยการคดีศาลแขวงนครสวรรค์ เพื่อฟังคำสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้อง โดยในวันนี้อัยการได้มีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนเพิ่มเติม จึงยังไม่มีผลการพิจารณาสั่งคดี และอัยการนัดฟังคำสั่งอีกครั้งในวันที่ 30 มี.ค. 63 เวลา 10.00 น.

    (อ้างอิง: https://www.tlhr2014.com/?p=16113)
  • อัยการยังไม่มีผลการพิจารณาสั่งคดี จึงให้เลื่อนไปฟังคำสั่งในวันที่ 22 พ.ค. 63
  • เนื่องจากพนักงานอัยการเพิ่งได้ร้บผลการสอบสวนเพิ่มเติมจากพนักงานสอบสวน จึงให้เลื่อนนัดฟังคำสั่งออกไปก่อน เป็นวันที่ 19 มิ.ย. 2563 เวลา 10.00 น.
  • ได้รับแจ้งจากพนักงานอัยการว่าเพิ่งได้รับสำนวนการสอบสวนเพิ่มเติมจึงยังไม่สามารถมีคำสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องได้ ให้เลื่อนนัดฟังคำสั่งออกไปเป็นวันที่ 29 ก.ค. 2563 เวลา 10.00 น.
  • พนักงานอัยการแจ้งว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการสอบสวนเพิ่มเติม จึงให้เลื่อนนัดฟังคำสั่งออกไปเป็นวันที่ 21 ส.ค. 2563 เวลา 10.00 น.
  • พนักงานอัยการแจ้งว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการสอบสวนเพิ่มเติม จึงให้เลื่อนนัดฟังคำสั่งออกไปเป็นวันที่ 22 ก.ย. 2563 เวลา 10.00 น. นับเป็นการเลื่อนฟังคำสั่งเป็นครั้งที่ 6
  • พนักงานอัยการยังไม่มีผลการพิจารณาสั่งคดี จึงให้เลื่อนนัดฟังคำสั่งออกไปเป็นวันที่ 15 ต.ค. 2563 เวลา 10.00 น. นับเป็นการเลื่อนฟังคำสั่งเป็นครั้งที่ 7
  • พนักงานอัยการยังไม่มีผลการพิจารณาสั่งคดี เลื่อนนัดฟังคำสั่งออกไปเป็นวันที่ 23 ธ.ค. 2563
  • ที่ศาลแขวงนครสวรรค์ พนักงานอัยการคดีศาลแขวงนครสวรรค์ยื่นฟ้องนายกฤษฐ์หิรัญ เลิศอุฤทธิ์ภักดี ด้วย 4 ข้อกล่าวหา ได้แก่ ไม่แจ้งการชุมนุม, ขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน, ก่อความเดือดร้อนรำคาญ และกีดขวางการจราจร โดยศาลได้รับฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำที่ 2647/2563

    คำฟ้องของโจทก์ได้บรรยายฟ้องโดยสรุปกล่าวหาว่า “จำเลยได้จัดให้มีการชุมนุมสาธารณะและมีแกนนำอีกหลายคน โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กเชิญชวนให้คนมาร่วมชุมนุม เมื่อวันที่ 12 ม.ค. 63 บริเวณริมเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดนครสวรรค์ โดยไม่มีการแจ้งการชุมนุมต่อผู้รับแจ้งไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง ต่อมาเมื่อพ.ต.อ.วีรภัสส์ ห้วยหงษ์ทอง หัวหน้าสถานีตํารวจภูธรเมืองนครสวรรค์ ได้มีคําสั่งให้จําเลยเลิกการชุมนุมสาธารณะที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จําเลยทราบคำสั่งและไม่ปฏิบัติตามได้ดำเนินการชุมนุมต่อไป นอกจากนี้จำเลยยังได้บังอาจนำผู้ชุมนุมราว 115 คน ร่วมกันวิ่งและเดินเป็นขบวนบนถนน โดยมีการร่วมกันทํากิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ด้วยการชูสามนิ้ว ที่หมายถึง สันติภาพ เสรีภาพ และภราดรภาพ ต่อเนื่องกันไปตามเส้นทางและมีการหยุดรวมตัวกันถ่ายภาพและตะโกนว่า ‘ประชาธิปไตยจงเจริญ’”

    จากพฤติการณ์ดังกล่าว อัยการคดีศาลแขวงนครสวรรค์เห็นว่าเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย ได้แก่ ไม่แจ้งการชุมนุม ตามพ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558, ข้อหาขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 368, ข้อหาก่อความเดือดร้อนรำคาญ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 397 และข้อหากีดขวางการจราจร ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522

    ด้านจำเลยเมื่อได้ทราบคำฟ้องของพนักงานอัยการแขวงแล้วได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และทนายความได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวโดยไม่มีหลักประกันต่อศาล โดยระบุว่าข้อกล่าวหาตาม พ.ร.บ.ชุมนุมฯ นั้นมีเพียงโทษปรับ ไม่มีโทษจำคุก อีกทั้งความผิดอื่นๆ เป็นเพียงความผิดลหุโทษซึ่งมีอัตราเล็กน้อย ประกอบกับจำเลยประกอบอาชีพสุจริตอยู่ในจังหวัดนครสวรรค์มาหลายปี ไม่คิดจะหลบหนี และพร้อมต่อสู้คดีถึงที่สุด

    เมื่อศาลแขวงนครสวรรค์ได้พิจารณาคำร้องขอปล่อยตัวของจำเลยแล้ว ได้อนุญาตให้ปล่อยตัวจำเลยโดยไม่ต้องมีหลักประกัน ก่อนจะกำหนดนัดหมายถามคำให้การและตรวจพยานหลักฐานต่อไป ในวันที่ 2 ก.พ. 2564 เวลา 09.00 น.

    (อ้างอิง: คำฟ้อง ศาลแขวงนครสวรรค์ คดีหมายเลขดำที่ อ.2647/2563 ลงวันที่ 23 ธ.ค. 2563 และ https://tlhr2014.com/?p=24388)
  • จำเลยให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และได้ยื่นคำให้การและบัญชีระบุพยานต่อศาลเพื่อต่อสู้คดี โจทก์แถลงขอสืบพยานบุคคลทั้งสิ้นจำนวน 8 ปาก จำเลยแถลงขอสืบพยานทั้งสิ้นจำนวน 3 ปาก ใช้เวลาสืบพยานทั้งสิ้น 3 นัด ในวันที่ 14-16 ก.ย. 2565

ชั้นสอบสวน

ผู้ถูกดำเนินคดี :
นายกฤษฐ์หิรัญ เลิศอุฤทธิ์ภักดี

การอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว
-

แหล่งที่มา : กรณีที่ศูนย์ทนายความฯ ติดตามสัมภาษณ์