ผู้ถูกดำเนินคดี
ข้อหา
หมายเลขคดี
- หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ (มาตรา 112)
ดำ อ.1214/2565
ผู้กล่าวหา
- พ.ต.ท.ศรีพิงค์ ไหวยะ สว.สส.สภ.เมืองเชียงใหม่ (ตำรวจ)
- หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ (มาตรา 112)
ดำ อ.1214/2565
ผู้กล่าวหา
- พ.ต.ท.ศรีพิงค์ ไหวยะ สว.สส.สภ.เมืองเชียงใหม่ (ตำรวจ)
ผู้ถูกดำเนินคดี
ข้อหา
- หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ (มาตรา 112)
หมายเลขคดี
ดำ อ.1214/2565
ผู้กล่าวหา
- พ.ต.ท.ศรีพิงค์ ไหวยะ สว.สส.สภ.เมืองเชียงใหม่
ข้อหา
- หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ (มาตรา 112)
หมายเลขคดี
ดำ อ.1214/2565
ผู้กล่าวหา
- พ.ต.ท.ศรีพิงค์ ไหวยะ สว.สส.สภ.เมืองเชียงใหม่
ความสำคัญของคดี
“เกด” (นามสมมติ) และ "ยุ้ย" (นามสมมติ) 2 นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ถูกดำเนินคดีในข้อหา "หมิ่นประมาทกษัตริย์" ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จากเหตุชูป้ายข้อความระหว่างร่วมการชุมนุมคาร์ม็อบ “ด่วนนครพิงค์เจียงใหม่ ไล่ขึดประยุทธ์” เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2564 โดยถูกกล่าวหาว่า ข้อความในป้ายมีลักษณะดูหมิ่น หมิ่นประมาท รัชกาลที่ 10
กรณีดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาการตีความประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่มีอัตราโทษจำคุกสูงสุดถึง 15 ปี แต่กลับถูกตีความอย่างกว้าง กระทบต่อสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกโดยสงบของประชาชน
กรณีดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาการตีความประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่มีอัตราโทษจำคุกสูงสุดถึง 15 ปี แต่กลับถูกตีความอย่างกว้าง กระทบต่อสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกโดยสงบของประชาชน
พฤติการณ์ของคดีตามเอกสารคดี
ชินวัตร เนือยทอง พนักงานอัยการจังหวัดเชียงใหม่ บรรยายฟ้องมีสาระสำคัญสรุปได้ว่า
เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2564 จำเลยทั้งสองร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น และแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ ด้วยการนำแผ่นฟิวเจอร์บอร์ด สีขาว จำนวน 1 แผ่น มีข้อความเขียนสื่อถึงพระมหากษัตริย์ในรัชกาลปัจจุบัน มาชูในขณะมีชุมนุมทางการเมือง
การกระทำแสดงให้เห็นเจตนาของจำเลยทั้งสองในการดูหมิ่น ให้ร้าย ลดทอนคุณค่าสถาบันพระมหากษัตริย์ และเป็นการจาบจ้วง ล่วงเกิน ดูหมิ่น ใส่ความ หมิ่นประมาทและแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ในรัชกาลปัจจุบัน โดยประการที่น่าจะทำให้เสื่อมเสียพระเกียรติ ถูกดูหมิ่น เกลียดชัง ทั้งนี้โดยจำเลยมีเจตนาทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นศูนย์รวมของศรัทธาและเคารพบูชาของประชาชนชาวไทย ทำให้ประชาชนเสื่อมศรัทธา ไม่เคารพต่อพระมหากษัตริย์ซึ่งอยู่ในฐานะผู้ใดจะละเมิดไม่ได้ และเป็นการกระทำด้วยวิธีอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายของรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต
(อ้างอิง: คำฟ้อง ศาลจังหวัดเชียงใหม่ คดีหมายเลขดำที่ อ.1214/2565 ลงวันที่ 15 ก.ย. 2565)
เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2564 จำเลยทั้งสองร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น และแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ ด้วยการนำแผ่นฟิวเจอร์บอร์ด สีขาว จำนวน 1 แผ่น มีข้อความเขียนสื่อถึงพระมหากษัตริย์ในรัชกาลปัจจุบัน มาชูในขณะมีชุมนุมทางการเมือง
การกระทำแสดงให้เห็นเจตนาของจำเลยทั้งสองในการดูหมิ่น ให้ร้าย ลดทอนคุณค่าสถาบันพระมหากษัตริย์ และเป็นการจาบจ้วง ล่วงเกิน ดูหมิ่น ใส่ความ หมิ่นประมาทและแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ในรัชกาลปัจจุบัน โดยประการที่น่าจะทำให้เสื่อมเสียพระเกียรติ ถูกดูหมิ่น เกลียดชัง ทั้งนี้โดยจำเลยมีเจตนาทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นศูนย์รวมของศรัทธาและเคารพบูชาของประชาชนชาวไทย ทำให้ประชาชนเสื่อมศรัทธา ไม่เคารพต่อพระมหากษัตริย์ซึ่งอยู่ในฐานะผู้ใดจะละเมิดไม่ได้ และเป็นการกระทำด้วยวิธีอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายของรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต
(อ้างอิง: คำฟ้อง ศาลจังหวัดเชียงใหม่ คดีหมายเลขดำที่ อ.1214/2565 ลงวันที่ 15 ก.ย. 2565)
ความคืบหน้าของคดี
-
วันที่: 02-09-2021นัด: แจ้งข้อกล่าวหาที่สถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ “เกด” (นามสมมติ) อายุ 20 ปี นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา “หมิ่นประมาท ดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ฯ” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เหตุจากถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ชูป้ายที่มีข้อความหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ ในงานชุมนุมคาร์ม็อบ “ด่วนนครพิงค์เจียงใหม่ ไล่ขึดประยุทธ์” ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2564
เนื่องด้วย “เกด” ได้รับหมายเรียกผู้ต้องหา ลงวันที่ 4 ส.ค. 2564 มี พ.ต.ท.ศรีพิงค์ ไหวยะ เป็นผู้กล่าวหา โดยให้ “เกด” ไปที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ เพื่อพบ พ.ต.ท.ทนงศักดิ์ จันทร์เจือแก้ว พนักงานสอบสวน
ในขณะเดียวกัน “ยุ้ย” (นามสมมติ) อายุ 21 ปี นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อนของเกดที่เดินทางเข้าร่วมกิจกรรมคาร์ม็อบด้วยกัน ได้ถูกพนักงานสอบสวนโทรแจ้งให้เข้าพบเพื่อสอบปากคำเป็นพยานในคดี จึงขอนัดเข้าพบพนักงานสอบสวนในวันเวลาเดียวกัน
เวลา 10.00 น. พ.ต.ท.ทนงศักดิ์ จันทร์เจือแก้ว พนักงานสอบสวนเจ้าของสำนวนคดี ได้เชิญให้ยุ้ยเข้าสอบปากคำในฐานะพยานก่อน
เวลา 11.30 น. “เกด” พร้อมด้วยทนายความได้เข้าพบ พ.ต.ท.ทนงศักดิ์ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา พนักงานสอบสวนได้แจ้งให้ผู้ต้องหาทราบถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกระทําที่ถูกกล่าวหา โดยสรุปดังต่อไปนี้
เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2564 เวลาประมาณ 18.26 น. ขณะผู้กล่าวหากับพวกแฝงตัวอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุมที่มาประท้วงแสดงออกทางการเมือง บริเวณหน้าลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์และบริเวณแยกหน้าโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย พบ “เกด” ยืนชูป้ายที่ถูกกล่าวหาว่ามีข้อความหมิ่นพระมหากษัตริย์
ผู้กล่าวหากับพวกจึงได้ทำการสืบสวนและพบว่าก่อนที่กลุ่มบุคคลดังกล่าวจะมายืนชูป้าย ได้มีการชูออกนอกรถ ขณะที่นั่งรถยนต์ขับขี่มาทางถนนพระปกเกล้า ก่อนที่จะมาจอดที่บริเวณแยกถนนหน้าโรงเรียนยุพราช ผู้ต้องหาได้ลงมาจากรถยนต์และยืนชูป้ายที่มีข้อความดังกล่าวบริเวณที่เกิดเหตุ ส่วน “ยุ้ย” ยืนชูสามนิ้วอยู่ด้านข้าง ผู้กล่าวหากับพวกได้ถ่ายภาพและจัดทำรายงานเสนอผู้บังคับบัญชา และร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดี
พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหา “หมิ่นประมาท ดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ฯ” โดย “เกด” ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยจะให้การเพิ่มเติมเป็นหนังสือภายใน ภายในวันที่ 2 ต.ค. 2564 ผู้ต้องหาได้ลงลายมือชื่อในบันทึกรับทราบข้อกล่าวหาและบันทึกประจำวัน พิมพ์ลายนิ้วมือเพื่อตรวจสอบประวัติอาชญากรรม
หลังการสอบปากคำ พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกผู้ต้องหาให้กับ “เกด” และ “ยุ้ย” เพื่อให้เข้ามาพบพนักงานสอบสวนอีกครั้ง เนื่องจากหลังจากสอบปากคำพยานเสร็จเรียบร้อยแล้ว ปรากฏข้อเท็จจริงว่า “ยุ้ย” มีส่วนเกี่ยวข้องกับป้ายดังกล่าว ทางตำรวจจึงจะแจ้งข้อกล่าวหาต่อ “ยุ้ย” ในคดีนี้ด้วยในภายหลัง
ก่อนที่พนักงานสอบสวนจะปล่อยตัว “เกด” ไปโดยไม่มีการควบคุมตัวไว้
(อ้างอิง: บันทึกแจ้งข้อกล่าวหา สภ.เมืองเชียงใหม่ ลงวันที่ 2 ก.ย. 2564 และ https://tlhr2014.com/archives/34440) -
วันที่: 17-09-2021นัด: แจ้งข้อกล่าวหา“ยุ้ย” เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา “หมิ่นประมาท ดูหมิ่นพระมหากษัตริย์” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ทำให้คดีนี้มีผู้ถูกดำเนินคดีรวม 2 คน
หลังรับทราบข้อกล่าวหา พนักงานสอบสวนปล่อยตัว “ยุ้ย” ไปโดยไม่มีการควบคุมตัวไว้
(อ้างอิง: บันทึกแจ้งข้อกล่าว สภ.เมืองเชียงใหม่ ลงวันที่ 17 ก.ย. 2564) -
วันที่: 30-06-2022นัด: ส่งตัวให้อัยการพนักงานสอบสวนนัดหมายเกดและยุ้ยส่งตัวและสำนวนคดีให้กับพนักงานอัยการจังหวัดเชียงใหม่
-
วันที่: 15-09-2022นัด: ยื่นฟ้องพนักงานอัยการจังหวัดเชียงใหม่นัดหมายเกดและยุ้ยฟังคำสั่งในคดี เกดและยุ้ยเข้ารายงานตัวที่สำนักงานอัยการจังหวัดเชียงใหม่ตามนัด เจ้าหน้าที่แจ้งว่า อัยการมีคำสั่งฟ้องคดีทั้งสองคน ก่อนนำตัวไปยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดเชียงใหม่
คำฟ้องของ ชินวัตร เนือยทอง พนักงานอัยการจังหวัดเชียงใหม่ มีสาระสำคัญสรุปได้ว่า เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2564 จำเลยทั้งสองร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น และแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ ด้วยการนำแผ่นฟิวเจอร์บอร์ด สีขาว จำนวน 1 แผ่น มีข้อความเขียนสื่อถึงพระมหากษัตริย์ในรัชกาลปัจจุบัน มาชูในขณะมีชุมนุมทางการเมือง
การกระทำแสดงให้เห็นเจตนาของจำเลยทั้งสองในการดูหมิ่น ให้ร้าย ลดทอนคุณค่าสถาบันพระมหากษัตริย์ และเป็นการจาบจ้วง ล่วงเกิน ดูหมิ่น ใส่ความ หมิ่นประมาทและแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ในรัชกาลปัจจุบัน โดยประการที่น่าจะทำให้เสื่อมเสียพระเกียรติ ถูกดูหมิ่น เกลียดชัง ทั้งนี้โดยจำเลยมีเจตนาทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นศูนย์รวมของศรัทธาและเคารพบูชาของประชาชนชาวไทย ทำให้ประชาชนเสื่อมศรัทธา ไม่เคารพต่อพระมหากษัตริย์ซึ่งอยู่ในฐานะผู้ใดจะละเมิดไม่ได้ และเป็นการกระทำด้วยวิธีอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายของรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต
เจ้าหน้าที่ตำรวจยึดป้ายฟิวเจอร์บอร์ดสีขาวจำนวน 1 แผ่นจากจำเลยทั้งสองเป็นของกลาง
ทั้งนี้ท้ายฟ้องระบุว่า หากจำเลยทั้งสองยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ขอให้อยู่ในดุลยพินิจของศาล
หลังศาลจังหวัดเชียงใหม่รับฟ้อง ขณะทนายความได้ยื่นขอปล่อยตัวชั่วคราว ทั้งสองคนได้ถูกควบคุมตัวที่ห้องขังใต้ถุนศาลตั้งแต่เวลาประมาณ 10.00 น. จนถึงเวลา 18.00 น. เศษ
ก่อนที่ศาลจะมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว โดยใช้หลักทรัพย์ประกันเป็นเงินจำนวนคนละ 150,000 บาท รวมจำเลยทั้งสองเป็นเงินจำนวน 300,000 บาท ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากกองทุนราษฎรประสงค์ ศาลยังกำหนดเงื่อนไขห้ามจำเลยทั้งสองกระทำการในลักษณะเช่นเดียวกันกับความผิดในคดีนี้อีก ขณะที่กำหนดวันนัดพร้อมคดีต่อไปวันที่ 31 ต.ค. 2565
(อ้างอิง: คำฟ้อง ศาลจังหวัดเชียงใหม่ คดีหมายเลขดำที่ อ.1214/2565 ลงวันที่ 15 ก.ย. 2565 และ https://tlhr2014.com/archives/48487) -
วันที่: 31-10-2022นัด: พร้อมเพื่อสอบคำให้การศาลสอบถามคำให้การของจำเลยทั้งสอง ทั้ง “เกด” และ “ยุ้ย” ขอเวลาในการปรึกษากับครอบครัวในการตัดสินใจทางคดี ศาลจึงอนุญาตให้เลื่อนวันนัดพร้อมไปเป็นวันที่ 28 พ.ย. 2565 เวลา 09.00 น.
-
วันที่: 28-11-2022นัด: พร้อมศาลถามคำให้การของจำเลยทั้งสองอีกครั้ง ทั้งเกดและยุ้ยตัดสินใจให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ทนายจำเลยขอยื่นคำแถลงประกอบคำรับสารภาพภายใน 30 วัน ศาลมีคำสั่งให้พนักงานคุมประพฤติสืบเสาะและพินิจจำเลยเพื่อประกอบการพิจารณาพิพากษาก่อนนัดฟังคำพิพากษา และกำหนดนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 30 ม.ค. 2566 เวลา 10.00 น.
-
วันที่: 30-01-2023นัด: ฟังคำพิพากษาศาลอ่านรายงานการสืบเสาะโดยสรุปให้เกดและยุ้ยฟัง และสอบถามว่า จะคัดค้านรายงานดังกล่าวหรือไม่ เมื่อจำเลยทั้งสองไม่คัดค้าน ศาลแจ้งว่า เนื่องจากเพิ่งได้รับรายการการสืบเสาะ ประกอบกับต้องส่งร่างคำพิพากษาให้อธิบดีผู้พิพากษาภาค 5 ตรวจก่อนอ่าน จึงให้เลื่อนฟังคำพิพากษาไปเป็นวันที่ 2 มี.ค. 2566 เวลา 10.00 น.
-
วันที่: 02-03-2023นัด: ฟังคำพิพากษาเวลา 09.00 น. ณ ห้องพิจารณาคดีที่ 10 ศาลได้อ่านคำพิพากษาโดยสรุปเพียงสั้นๆ ว่า
พิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ลงโทษจำคุก 3 ปี รับสารภาพมีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี 6 เดือน แต่เมื่อพิเคราะห์จากรายงานสืบเสาะของจำเลย ประกอบกับคำแถลงประกอบคำรับสารภาพ จำเลยทั้งสองไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน และยังเป็นนักศึกษาอยู่ โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี
หลังจากอ่านคำพิพากษาแล้วศาลได้อธิบายให้เกดและยุ้ยฟังว่า การรอการลงโทษนี้ หมายถึง การพิพากษาว่าจำเลยมีความผิด แต่ศาลจะไม่นำไปติดคุก เพื่อให้โอกาสจำเลยกลับคืนสู่สังคม และตักเตือนว่าอย่าไปกระทำความผิดอาญาอื่นในช่วงเวลา 2 ปีนี้ มิฉะนั้นโทษ 1 ปี 6 เดือน อาจนำมาลงโทษได้
(อ้างอิง: https://tlhr2014.com/archives/54025)
สถานะ การอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว หรือ ผลการพิพากษา
ชั้นสอบสวน
ผู้ถูกดำเนินคดี :
"เกด" (นามสมมติ)
การอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว
-
ผู้ถูกดำเนินคดี :
“ยุ้ย” (นามสมมติ)
การอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว
-
ศาลชั้นต้น
ผู้ถูกดำเนินคดี :
"เกด" (นามสมมติ)
ผลการพิพากษา
ลงโทษ
การอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว
อนุญาต
พิพากษาวันที่ :
02-03-2023
ผู้ถูกดำเนินคดี :
“ยุ้ย” (นามสมมติ)
ผลการพิพากษา
ลงโทษ
การอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว
อนุญาต
พิพากษาวันที่ :
02-03-2023
แหล่งที่มา : กรณีที่ศูนย์ทนายความฯ ติดตามสัมภาษณ์