ผู้ถูกดำเนินคดี
ข้อหา
หมายเลขคดี
- พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14
- หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ (มาตรา 112)
ดำ อ.683/2565
ผู้กล่าวหา
- มณีรัตน์ เลาวเลิศ (ประชาชน)
ผู้ถูกดำเนินคดี
ข้อหา
- พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14
- หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ (มาตรา 112)
หมายเลขคดี
ดำ อ.683/2565
ผู้กล่าวหา
- มณีรัตน์ เลาวเลิศ
ความสำคัญของคดี
“ไอซ์” รักชนก ศรีนอก สมาชิกกลุ่ม “คลับเฮ้าส์เพื่อประชาธิปไตย” วัย 27 ปี ถูกดำเนินคดีในข้อหา “หมิ่นประมาทกษัตริย์” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และข้อหาตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ หลังมณีรัตน์ เลาวเลิศ ประชาชนชาวจังหวัดสมุทรสาคร เข้าแจ้งความที่ บก.ปอท.ให้ดำเนินคดีผู้ใช้ทวิตเตอร์บัญชีชื่อ "ไอซ์" ซึ่งทวิตข้อความวิจารณ์รัฐบาลเรื่องการผูกขาดวัคซีนโควิด-19 พร้อมติดแท็ก #28กรกฎาร่วมใจใส่ชุดดํา และรีทวีตข้อความพร้อมภาพถ่ายป้ายข้อความในการชุมนุม #16ตุลาไปแยกปทุมวัน ปี 2563 ซึ่งแสดงความไม่พอใจต่อกษัตริย์
เป็นอีกกรณีที่สะท้อนปัญหาของมาตรา 112 ที่เปิดโอกาสให้บุคคลใดก็ได้เป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ ทำให้กระทบต่อเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชน
เป็นอีกกรณีที่สะท้อนปัญหาของมาตรา 112 ที่เปิดโอกาสให้บุคคลใดก็ได้เป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ ทำให้กระทบต่อเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชน
พฤติการณ์ของคดีตามเอกสารคดี
พ.ต.ท.ธงชัย อิทธินิติกุล พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 10 บรรยายฟ้องมีใจความว่า
ขณะเกิดเหตุ ประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข รัชกาลที่ 10 เป็นกษัตริย์รัชกาลปัจจุบัน ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ โดยจำเลยได้ทำผิดรวม 2 กรรม กล่าวคือ
1. เมื่อวันที่ 28 ก.ค. 2564 จำเลยได้ดูหมิ่น หมิ่นประมาท หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายรัชกาลที่ 10 โดยการทวิตข้อความในบัญชีทวิตเตอร์ของจำเลย กล่าวพาดพิงว่า รัฐบาลพยายามผูกขาดการผลิตวัคซีนป้องกันโควิด-19 ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับสถาบันกษัตริย์ เป็นการเล่นการเมืองบนวิกฤตชีวิตประชาชน ผลสุดท้ายคนที่ได้รับผลกระทบก็คือประชาชน โดยมีแฮชแท็ก #28กรกฎาร่วมใจใส่ชุดดำ
ในโพสต์ดังกล่าวยังมีการแนบรูปภาพของรัชกาลที่ 10 ประกอบข้อความ “ทรราช (คำนาม) TYRANT ; ผู้ปกครองที่ใช้อำนาจสร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้ที่อยู่ใต้การปกครอง" ทำให้เข้าใจความหมายได้ว่า รัชกาลที่ 10 เป็นผู้ปกครองบ้านเมืองที่ทำให้ประชาชนเดือดร้อน อันเป็นการนําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคง
2. ระหว่างวันที่ 18 ก.ค. – 9 ส.ค. 2564 จำเลยได้ดูหมิ่น หมิ่นประมาท หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายรัชกาลที่ 10 โดยการรีทวิตข้อความจากบัญชีทวิตเตอร์อื่น มีเนื้อหาระบุว่า ประชาชนจะไม่เป็นไทจนกว่าจะกำจัดกลุ่มศักดินาได้ ซึ่งทวิตประกอบกับข้อความจากบัญชีทวิตเตอร์ชื่อ นิรนาม มีเนื้อหาคล้ายกัน พร้อมแฮชแท็ก #ม็อบ16ตุลา #16ตุลาไปแยกปทุมวัน ทำให้เข้าใจความหมายได้ว่า เป็นการแสดงความอาฆาตมาดร้ายไม่เคารพสักการะรัชกาลที่ 10 อันเป็นการเผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคง
(อ้างอิง: คำฟ้อง ศาลอาญา คดีหมายเลขดำที่ อ.683/2565 ลงวันที่ 23 มี.ค. 2565)
ขณะเกิดเหตุ ประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข รัชกาลที่ 10 เป็นกษัตริย์รัชกาลปัจจุบัน ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ โดยจำเลยได้ทำผิดรวม 2 กรรม กล่าวคือ
1. เมื่อวันที่ 28 ก.ค. 2564 จำเลยได้ดูหมิ่น หมิ่นประมาท หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายรัชกาลที่ 10 โดยการทวิตข้อความในบัญชีทวิตเตอร์ของจำเลย กล่าวพาดพิงว่า รัฐบาลพยายามผูกขาดการผลิตวัคซีนป้องกันโควิด-19 ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับสถาบันกษัตริย์ เป็นการเล่นการเมืองบนวิกฤตชีวิตประชาชน ผลสุดท้ายคนที่ได้รับผลกระทบก็คือประชาชน โดยมีแฮชแท็ก #28กรกฎาร่วมใจใส่ชุดดำ
ในโพสต์ดังกล่าวยังมีการแนบรูปภาพของรัชกาลที่ 10 ประกอบข้อความ “ทรราช (คำนาม) TYRANT ; ผู้ปกครองที่ใช้อำนาจสร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้ที่อยู่ใต้การปกครอง" ทำให้เข้าใจความหมายได้ว่า รัชกาลที่ 10 เป็นผู้ปกครองบ้านเมืองที่ทำให้ประชาชนเดือดร้อน อันเป็นการนําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคง
2. ระหว่างวันที่ 18 ก.ค. – 9 ส.ค. 2564 จำเลยได้ดูหมิ่น หมิ่นประมาท หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายรัชกาลที่ 10 โดยการรีทวิตข้อความจากบัญชีทวิตเตอร์อื่น มีเนื้อหาระบุว่า ประชาชนจะไม่เป็นไทจนกว่าจะกำจัดกลุ่มศักดินาได้ ซึ่งทวิตประกอบกับข้อความจากบัญชีทวิตเตอร์ชื่อ นิรนาม มีเนื้อหาคล้ายกัน พร้อมแฮชแท็ก #ม็อบ16ตุลา #16ตุลาไปแยกปทุมวัน ทำให้เข้าใจความหมายได้ว่า เป็นการแสดงความอาฆาตมาดร้ายไม่เคารพสักการะรัชกาลที่ 10 อันเป็นการเผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคง
(อ้างอิง: คำฟ้อง ศาลอาญา คดีหมายเลขดำที่ อ.683/2565 ลงวันที่ 23 มี.ค. 2565)
ความคืบหน้าของคดี
-
วันที่: 29-09-2021นัด: แจ้งข้อกล่าวหารักชนก ศรีนอก สมาชิกกลุ่ม “คลับเฮ้าส์เพื่อประชาธิปไตย” เดินทางไปที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ตามหมายเรียก ซึ่งระบุว่าผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษในคดีนี้ คือ “มณีรัตน์ เลาวเลิศ”
คณะพนักงานสอบสวน ได้แก่ พ.ต.ท.ณัฐพนธ์ สุวรรณรงค์ สารวัตร (สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. และ ร.ต.อ.หญิงณัฐชยา วงศ์รุจิไพโรจน์ รองสารวัตร (สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. แจ้งพฤติการณ์ที่กล่าวหาในคดี มีเนื้อความโดยสรุปว่า เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 2564 ผู้กล่าวหาได้มาพบพนักงานสอบสวนเพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดําเนินคดีกับผู้ใช้บัญชีทวิตเตอร์ชื่อ “ไอซ์” หรือ @nanaicez กรณีพบบัญชีทวิตเตอร์ดังกล่าวโพสต์ข้อความและรูปภาพ จํานวน 2 โพสต์ ซึ่งผู้กล่าวหาเห็นว่าเข้าข่าย “หมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ” ดังนี้
1. เมื่อวันที่ 28 ก.ค. 2564 เวลาประมาณ 00.44 น. “ไอซ์” ได้โพสต์ข้อความว่า “พูดตรงๆนะ ที่พวกเราต้องมาเจอวิกฤตวัคซีนแบบทุกวันนี้ เริ่มต้นก็เพราะรัฐบาลผูกขาดวัคซีนเพื่อหาซีนให้เจ้า สร้างวาทะกรรมของขวัญจากพ่อต่างๆ เล่นการเมืองบนวิกฤตชีวิตของประชาชน ผลสุดท้ายคนที่ซวยที่สุดคือประชาชน #28กรกฎาร่วมใจใส่ชุดดํา” ประกอบรูปภาพป้ายที่มีมือยื่นถือป้ายข้อความเทียบเคียงซุ้มเฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ 10 ข้อความว่า “ทรราช (คํานาม) TYRANT ; ผู้ปกครองบ้านเมืองที่ใช้อํานาจสร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้ที่อยู่ใต้การปกครอง”
2. เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2564 เวลาประมาณ 19.58 น. “ไอซ์” รีทวีตข้อความจากบัญชีทวิตเตอร์หนึ่ง มีเนื้อความสื่อถึงความไม่พอใจต่อกษัตริย์ โดยบัญชีทวิตเตอร์ดังกล่าวนั้นได้รีทวิตพร้อมโค้ดข้อความของผู้ใช้บัญชีทวิตเตอร์อีกรายหนึ่ง ใช้ชื่อ “นิรนาม” ซึ่งทวิตข้อความ พร้อมภาพถ่ายป้ายข้อความที่มีใจความเช่นเดียวกัน ซึ่งสื่อถึงความไม่พอใจต่อกษัตริย์ ตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค. 2563
จากการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่น่าเชื่อว่า ผู้ใช้บัญชีทวิตเตอร์ชื่อ “ไอซ์” คือ รักชนก จึงแจ้งข้อกล่าวหาดังนี้
โพสต์ที่ 1 เข้าข่ายความผิดฐาน “หมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ “นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงฯ” ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(3)
โพสต์ที่ 2 เข้าข่ายความผิดฐาน “หมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ” และ “เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงฯ” ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(5)
ชั้นสอบสวน รักชนกให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยจะให้การเป็นหนังสือภายในวันที่ 29 ต.ค. 2564 หลังเสร็จกระบวนการ พนักงานสอบสวนได้ปล่อยตัวรักชนกไป เนื่องจากได้มาปรากฏตัวต่อหน้าพนักงานสอบสวนตามนัดหมาย มิได้มีพฤติการณ์หลบหนี พนักงานสอบสวนจึงไม่มีเหตุให้ควบคุมตัว
(อ้างอิง: บันทึกแจ้งข้อกล่าวหา กก.3 บก.ปอท. ลงวันที่ 29 ก.ย. 2564 และ https://tlhr2014.com/archives/35828) -
วันที่: 12-01-2022นัด: ส่งตัวให้อัยการรักชนกเดินทางไปตามที่พนักงานสอบสวนมีหมายเรียกเพื่อส่งตัวพร้อมสำนวนการสอบสวนให้พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 10 อัยการนัดฟังคำสั่งในวันที่ 25 ม.ค. 2565
-
วันที่: 25-01-2022นัด: ฟังคำสั่งอัยการอัยการยังไม่มีคำสั่ง เลื่อนนัดไปเป็นวันที่ 23 ก.พ. 2565
-
วันที่: 23-02-2022นัด: ฟังคำสั่งอัยการอัยการยังไม่มีคำสั่ง เลื่อนนัดไปเป็นวันที่ 23 มี.ค. 2565
-
วันที่: 23-03-2022นัด: ฟังคำสั่งอัยการ (ฟ้อง)รักชนกเดินทางไปฟังคำสั่งอัยการที่สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 10 ตามนัด พนักงานอัยการได้มีคำสั่งฟ้อง ในฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 และให้รักชนกไปที่ศาลอาญาเพื่อยื่นฟ้อง
หลังศาลรับฟ้อง ทนายความได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นพิจารณา ต่อมา ศาลมีคำสั่งอนุญาต กำหนดหลักทรัพย์ประกันเป็นเงิน 100,000 บาท โดยใช้เงินจากกองทุนราษฎรประสงค์ ทั้งมีเงื่อนไขห้ามจำเลยกระทำการหรือเข้าร่วมกิจกรรมใดๆ ในลักษณะทำนองเดียวกับการกระทำที่ถูกกล่าวหา และให้มารายงานตัวต่อศาลทุก 30 วัน จนกว่าศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น ศาลยังได้กำหนดวันนัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 25 เม.ย. 2565 เวลา 13.30 น.
(อ้างอิง: คำฟ้อง ศาลอาญา คดีหมายเลขดำที่ อ.683/2565 ลงวันที่ 23 มี.ค. 2565 และ https://tlhr2014.com/archives/41867) -
วันที่: 25-04-2022นัด: ตรวจพยานหลักฐาน
สถานะ การอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว หรือ ผลการพิพากษา
ชั้นสอบสวน
ผู้ถูกดำเนินคดี :
รักชนก ศรีนอก
การอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว
-
ศาลชั้นต้น
ผู้ถูกดำเนินคดี :
รักชนก ศรีนอก
ผลการพิพากษา
-
การอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว
อนุญาต
แหล่งที่มา : กรณีที่ศูนย์ทนายความฯ ติดตามสัมภาษณ์