ผู้ถูกดำเนินคดี
ข้อหา
หมายเลขคดี
- พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14
- อื่นๆ (ไต่สวนชันสูตรพลิกศพ, เลิกจ้าง(คดีแรงงาน), แจ้งความเท็จ, ซ่อนเร้นพยานหลักฐาน)
- หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ (มาตรา 112)
ดำ อ.429/2565
ผู้กล่าวหา
- นพดล พรหมภาสิต เลขาธิการ ศชอ. (ประชาชน)
ผู้ถูกดำเนินคดี
ข้อหา
- พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14
- หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ (มาตรา 112)
- อื่นๆ (ไต่สวนชันสูตรพลิกศพ, เลิกจ้าง(คดีแรงงาน), แจ้งความเท็จ, ซ่อนเร้นพยานหลักฐาน)
หมายเลขคดี
ดำ อ.429/2565
ผู้กล่าวหา
- นพดล พรหมภาสิต เลขาธิการ ศชอ.
ความสำคัญของคดี
"วารุณี" (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ซึ่งมีอาการป่วยเป็นโรคอารมณ์สองขั้ว ถูกตำรวจ ปอท.เข้าจับกุมที่บ้านพักในจังหวัดพิษณุโลก ตามหมายจับศาลอาญา และถูกดำเนินคดีในข้อกล่าวหา หมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ และเหยียดหยามศาสนา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, 206 รวมทั้งข้อหาตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 โดยวารุณีถูกกล่าวหาว่า เป็นผู้โพสต์ข้อความ “แก้วมรกต X Sirivannavari Bangkok” พร้อมภาพรัชกาลที่ 10 เปลี่ยนเครื่องทรง ‘พระแก้วมรกต’ เป็นชุดกระโปรงยาวสีม่วง มีสุนัขนั่งอยู่ด้านข้าง หลังนพดล พรหมภาสิต จาก ศชอ.เข้าแจ้งความ
กรณีนี้เป็นอีกกรณีที่มาตรา 112 ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการกลั่นแกล้งบุคคลอื่น โดยการนำไปตีความอย่างกว้างขวางเกินกว่าเจตนารมณ์ของกฎหมาย จนกระทบต่อสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชน
กรณีนี้เป็นอีกกรณีที่มาตรา 112 ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการกลั่นแกล้งบุคคลอื่น โดยการนำไปตีความอย่างกว้างขวางเกินกว่าเจตนารมณ์ของกฎหมาย จนกระทบต่อสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชน
พฤติการณ์ของคดีตามเอกสารคดี
ภัทรวรรณ ประภากรณ์ พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 4 บรรยายคำฟ้องมีใจความโดยสรุปว่า
ขณะเกิดเหตุ ประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข รัชกาลที่ 10 ทรงเป็นกษัตริย์รัชกาลปัจจุบัน ดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ ตามมาตรา 6 ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 และมีพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต) เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง ประดิษฐานอยู่ ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เป็นที่เคารพสักการะในทางพุทธศาสนาของประชาชนชาวไทย พระมหากษัตริย์ราชวงศ์จักรีทุกพระองค์ทรงประกอบพระราชพิธีเปลี่ยนเครื่องทรงพระแก้วมรกตเป็นประจําทุกปี ปีละ 3 ครั้งตามฤดูกาล เป็นโบราณราชประเพณีที่ปฏิบัติสืบเนื่องมาจนถึงรัชกาลปัจจุบัน
เมื่อวันที่ 23 พ.ย. 2564 จําเลยได้ดูหมิ่น หมิ่นประมาท หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ด้วยการโพสต์ภาพและข้อความลงในบัญชีเฟชบุ๊กส่วนตัวและตั้งค่าการเข้าถึงเป็นสาธารณะ
โดยจำเลยได้โพสต์ข้อความว่า “แก้วมรกต X Sirivannavari Bangkok” ประกอบภาพของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวขณะทรงประกอบพิธีเปลี่ยนเครื่องทรงฤดูหนาวของพระแก้วมรกต โดยมีการตัดต่อหรือดัดแปลงภาพเป็นภาพพระแก้วมรกตสวมใส่เครื่องทรงเป็นชุดราตรียาวสีม่วงแทนเครื่องทรงฤดูหนาว และมีภาพสุนัขผูกโบสีม่วงนั่งอยู่ด้านข้างพระแก้วมรกต
ข้อความและภาพดังกล่าว ทําให้บุคคลทั่วไปที่ได้พบเห็นเข้าใจว่า พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงนําเครื่องแต่งกายสุภาพสตรีลักษณะเป็นชุดราตรีกระโปรงยาวสีม่วงมาเปลี่ยนเป็นเครื่องทรงฤดูหนาวของพระแก้วมรกต พร้อมกับมีสุนัขนั่งอยู่ด้านข้าง ในขณะทรงประกอบพระราชพิธีเปลี่ยนเครื่องทรงพระแก้วมรกต อันเป็นพระพุทธรูปวัตถุที่เคารพสักการะในพุทธศาสนาของประชาชนชาวไทย โดยเครื่องแต่งกายสุภาพสตรีดังกล่าว เป็นฉลองพระองค์ที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีนารีรัตนราชกัญญา พระราชธิดาในรัชกาลที่ 10 ทรงออกแบบไว้เป็นโอต์กูตูร์หมายเลข 10 ของแบรนด์ “Sirivannavari Couture”
ภาพและข้อความดังกล่าวเป็นข้อมูลอันเป็นเท็จและเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร เป็นการหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายรัชกาลที่ 10 โดยมีเจตนาเพื่อให้เสื่อมเสียพระเกียรติยศ ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง ทําให้ดูตลกขบขันและถูกด้อยค่าต่อประชาชน และเป็นการแสดงความไม่เคารพสักการะต่อวัตถุและสถานที่ทางศาสนา เป็นการกระทําที่ไม่สมควรและไม่เคารพต่อพระแก้วมรกต อันเป็นพระพุทธรูปที่เคารพสักการะในทางศาสนาพุทธของประชาชนชาวไทย อันเป็นการเหยียดหยามศาสนา
(อ้างอิง: คำฟ้อง ศาลอาญา คดีหมายเลขดำที่ อ.429/2565 ลงวันที่ 24 ก.พ. 2565)
ขณะเกิดเหตุ ประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข รัชกาลที่ 10 ทรงเป็นกษัตริย์รัชกาลปัจจุบัน ดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ ตามมาตรา 6 ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 และมีพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต) เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง ประดิษฐานอยู่ ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เป็นที่เคารพสักการะในทางพุทธศาสนาของประชาชนชาวไทย พระมหากษัตริย์ราชวงศ์จักรีทุกพระองค์ทรงประกอบพระราชพิธีเปลี่ยนเครื่องทรงพระแก้วมรกตเป็นประจําทุกปี ปีละ 3 ครั้งตามฤดูกาล เป็นโบราณราชประเพณีที่ปฏิบัติสืบเนื่องมาจนถึงรัชกาลปัจจุบัน
เมื่อวันที่ 23 พ.ย. 2564 จําเลยได้ดูหมิ่น หมิ่นประมาท หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ด้วยการโพสต์ภาพและข้อความลงในบัญชีเฟชบุ๊กส่วนตัวและตั้งค่าการเข้าถึงเป็นสาธารณะ
โดยจำเลยได้โพสต์ข้อความว่า “แก้วมรกต X Sirivannavari Bangkok” ประกอบภาพของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวขณะทรงประกอบพิธีเปลี่ยนเครื่องทรงฤดูหนาวของพระแก้วมรกต โดยมีการตัดต่อหรือดัดแปลงภาพเป็นภาพพระแก้วมรกตสวมใส่เครื่องทรงเป็นชุดราตรียาวสีม่วงแทนเครื่องทรงฤดูหนาว และมีภาพสุนัขผูกโบสีม่วงนั่งอยู่ด้านข้างพระแก้วมรกต
ข้อความและภาพดังกล่าว ทําให้บุคคลทั่วไปที่ได้พบเห็นเข้าใจว่า พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงนําเครื่องแต่งกายสุภาพสตรีลักษณะเป็นชุดราตรีกระโปรงยาวสีม่วงมาเปลี่ยนเป็นเครื่องทรงฤดูหนาวของพระแก้วมรกต พร้อมกับมีสุนัขนั่งอยู่ด้านข้าง ในขณะทรงประกอบพระราชพิธีเปลี่ยนเครื่องทรงพระแก้วมรกต อันเป็นพระพุทธรูปวัตถุที่เคารพสักการะในพุทธศาสนาของประชาชนชาวไทย โดยเครื่องแต่งกายสุภาพสตรีดังกล่าว เป็นฉลองพระองค์ที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีนารีรัตนราชกัญญา พระราชธิดาในรัชกาลที่ 10 ทรงออกแบบไว้เป็นโอต์กูตูร์หมายเลข 10 ของแบรนด์ “Sirivannavari Couture”
ภาพและข้อความดังกล่าวเป็นข้อมูลอันเป็นเท็จและเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร เป็นการหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายรัชกาลที่ 10 โดยมีเจตนาเพื่อให้เสื่อมเสียพระเกียรติยศ ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง ทําให้ดูตลกขบขันและถูกด้อยค่าต่อประชาชน และเป็นการแสดงความไม่เคารพสักการะต่อวัตถุและสถานที่ทางศาสนา เป็นการกระทําที่ไม่สมควรและไม่เคารพต่อพระแก้วมรกต อันเป็นพระพุทธรูปที่เคารพสักการะในทางศาสนาพุทธของประชาชนชาวไทย อันเป็นการเหยียดหยามศาสนา
(อ้างอิง: คำฟ้อง ศาลอาญา คดีหมายเลขดำที่ อ.429/2565 ลงวันที่ 24 ก.พ. 2565)
ความคืบหน้าของคดี
-
วันที่: 02-12-2021นัด: จับกุมตามหมายจับเวลาประมาณ 07.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เข้าจับกุม ‘วารุณี’ (สงวนนามสกุล) วัย 30 ปี ที่บ้านพักในจังหวัดพิษณุโลก ตามหมายจับศาลอาญาที่ 2047/2564 ลงวันที่ 1 ธ.ค. 2564 ในข้อกล่าวหาหลักตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยเธอไม่เคยได้รับหมายเรียกมาก่อน จากนั้นควบคุมตัวไปสอบปากคำที่ บก.ปอท. ในกรุงเทพฯ
ทั้งนี้ พฤติการณ์ที่เธอถูกกล่าวหานั้นถูกระบุว่ามาจากการโพสต์เฟซบุ๊กภาพรัชกาลที่ 10 เปลี่ยนเครื่องทรง ‘พระแก้วมรกต’ เป็นชุดกระโปรงยาวสีม่วงและใส่ภาพสุนัข โดยมีนพดล พรหมภาสิต จากศูนย์ช่วยเหลือทางกฎหมายผู้ถูกล่วงละเมิดทางสังคมออนไลน์ (ศชอ.) เป็นผู้แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน บก.ปอท. เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
ในบันทึกแจ้งข้อกล่าวหา กล่าวโดยสรุปว่า เมื่อวันที่ 24 พ.ย. 2564 นพดลได้เปิดเฟซบุ๊กพบบัญชีเฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ข้อความว่า “แก้วมรกต XSirivannavari Bangkok” โดยมีภาพประกอบเป็นพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ขณะเปลี่ยนเครื่องทรงพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต)
นพดลอ้างว่า โพสต์ข้อความดังกล่าวได้มีลักษณะผิดแปลกไปจากเดิม มีการตัดต่อเครื่องทรงพระแก้วมรกตไปเป็นชุดสุภาพสตรียาวสีม่วง พร้อมกับมีรูปภาพสุนัขประกอบในภาพด้วย ในลักษณะที่ต้องการให้พระมหากษัตริย์เสื่อมเสียพระเกียรติยศ ชื่อเสียง ทําให้ดูตลกขบขัน ถูกด้อยค่าต่อประชาชน ซึ่งโพสต์ดังกล่าวนั้นเป็นการใช้ถ้อยคําหยาบคาย ไม่เหมาะสม ข้อความและภาพตามโพสต์นั้น เป็นการสร้างความเข้าใจผิดอันอาจทําให้กระทบต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นสถาบันหลักของประเทศ อาจกระทบต่อความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร และเหยียดหยามศาสนา
นพดลยังได้อ้างเปรียบเทียบว่า ชุดสุภาพสตรียาวสีม่วงในภาพที่อ้างว่าถูกตัดต่อดังกล่าวนั้นเป็นชุดโอต์กูตูร์ หมายเลข 10 ของแบรนด์ Sirivannavari Couture ที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เป็นผู้ออกแบบและเคยฉลองพระองค์ชุดดังกล่าวเพื่อร่วมงานโว้ก กาลา 2020 ของนิตยสาร VOGUE Thailand ที่โรงแรมคาเพลลา กรุงเทพฯ ด้วย
พนักงานสอบสวนระบุว่า มีหลักฐานพอเชื่อได้ว่า วารุณีเป็นผู้โพสต์ข้อความผ่านบัญชีเฟซบุ๊กดังกล่าว จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่วารุณีทั้งหมด 3 ข้อหาด้วยกัน ดังนี้
1. หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สําเร็จราชการแทนพระองค์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
2. นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3)
3. กระทําด้วยประการใดๆ แก่วัตถุหรือสถานอันเป็นที่เคารพในทางศาสนาของหมู่ชนใด อันเป็นการเหยียดหยามศาสนา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 206
ทั้งนี้ ในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนวารุณีได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การเพิ่มเติมว่า ต้องการให้พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกนายนพดลมาให้การเพิ่มเติม และอธิบายในคำกล่าวโทษที่กล่าวหาในคดีนี้ว่าข้อความส่วนไหนหรือประโยคใดเป็นการหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อองค์พระมหากษัตริย์
ขณะเดียวกัน เธอยังถูกตำรวจที่จับกุมตรวจยึดโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก อย่างละ 1 เครื่องด้วย หลังเสร็จกระบวนการทั้งหมดในช่วงค่ำ ตำรวจได้นำตัววารุณีไปคุมขังที่ สน.ทุ่งสองห้อง
ทั้งนี้ พบว่าผู้กล่าวหาในคดีนี้ คือ นพดล พรหมภาสิต เป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษในคดีมาตรา 112 ไว้อย่างน้อย 7 คดี อาทิ กล่าวหา ‘โตโต้’ ปิยรัฐ จงเทพ จากเหตุโพสต์เฟซบุ๊กพาดพิงถึงการใช้ภาษีของพระมหากษัตริย์ หรือ กล่าวหา ‘เพนกวิน’ พริษฐ์ ชิวารักษ์ จากเหตุโพสต์ 2 ข้อความในเฟซบุ๊ก
(อ้างอิง: บันทึกการจับกุมและบันทึกการแจ้งข้อกล่าวหา กก.3 บก.ปอท. ลงวันที่ 2 ธ.ค. 2564 และ https://tlhr2014.com/archives/38572) -
วันที่: 03-12-2021นัด: ฝากขังเวลา 09.00 น. พนักงานสอบสวน บก.ปอท. ได้ยื่นขอฝากขังวารุณีต่อศาลอาญา ผ่านวิธีวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ โดยอ้างว่าการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบพยานเพิ่มเติมอีก 7 ปาก และรอผลตรวจประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหา
จากนั้นทนายความได้ยื่นคำร้องขอประกันตัววารุณี โดยระบุเหตุผลหลักเกี่ยวกับอาการป่วยอารมณ์สองขั้วของวารุณี ซึ่งความจำเป็นที่จะต้องเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง และเสนอวางหลักทรัพย์เป็นเงินสด 100,000 บาท จากกองทุนราษฎรประสงค์
ต่อมา ศาลอาญามีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราววารุณี โดยให้วางหลักทรัพย์เป็นเงิน 100,000 บาท และให้มารายงานตัวต่อศาลในวันที่ 20 ม.ค. 2565 -
วันที่: 24-02-2022นัด: ยื่นฟ้องที่ศาลอาญา พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 4 ได้ยื่นฟ้องวารุณี ในฐานความผิด “หมิ่นประมาทกษัตริย์” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, “นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคง” ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 และ “เหยียดหยามศาสนา” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 206 กล่าวหาว่า วารุณีเป็นผู้โพสต์ข้อความและภาพรัชกาลที่ 10 ขณะเปลี่ยนเครื่องทรง “พระแก้วมรกต” เป็นชุดกระโปรงยาวสีม่วง และใส่ภาพสุนัข โดยระบุว่า ภาพและข้อความดังกล่าวเป็นข้อมูลอันเป็นเท็จ มีเจตนาเพื่อให้เสื่อมเสียพระเกียรติยศ ดูตลกขบขัน และเป็นการเหยียดหยามศาสนา
(อ้างอิง: คำฟ้อง ศาลอาญา คดีหมายเลขดำที่ อ.429/2565 ลงวันที่ 24 ก.พ. 2565 และ https://tlhr2014.com/archives/41984) -
วันที่: 25-02-2022นัด: รายงานตัวต่อศาล (รับทราบฟ้อง)วารุณีเข้ารายงานตัวต่อศาลตามสัญญาประกัน และรับทราบว่าอัยการยื่นฟ้องแล้ว จากนั้นทนายความได้ยื่นประกันตัววารุณีระหว่างพิจารณาคดี โดยศาลได้ให้ประกันโดยใช้หลักทรัพย์เดิมในชั้นสอบสวน เป็นเงินสดจำนวน 100,000 บาท จากกองทุนราษฎรประสงค์ และนัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 11 เม.ย. 2565
(อ้างอิง: https://tlhr2014.com/archives/41984) -
วันที่: 11-04-2022นัด: นัดตรวจพยานหลักฐานวารุณีเดินทางไปศาลพร้อมผู้รับมอบฉันทะทนายจำเลย โดยทนายจำเลยมีคำร้องขอเลื่อนคดีเนื่องจากติดว่าความที่ศาลอื่น ศาลจึงเลื่อนนัดพร้อมสอบคำให้การ ตรวจพยาน และกำหนดวันนัดสืบพยาน ไปเป็นวันที่ 23 พ.ค. 2565 เวลา 09.00 น.
-
วันที่: 23-05-2022นัด: นัดตรวจพยานหลักฐาน
-
วันที่: 02-05-2023นัด: สืบพยานโจทก์คดีนี้เดิมมีกำหนดนัดสืบพยานในวันที่ 2-3, 9-10 พ.ค. 2566 ในวันแรกของการสืบพยาน วารุณีตัดสินใจให้การรับสารภาพตามข้อกล่าวหา โดยทนายจำเลยได้แถลงต่อศาลถึงอาการป่วยอารมณ์สองขั้วของวารุณี ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการรักษาจากจิตแพทย์อย่างต่อเนื่อง ศาลจึงให้งดการสืบพยาน และมีคำสั่งให้สืบเสาะและพินิจพฤติการณ์ของจำเลย ก่อนนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 28 มิ.ย. 2566
-
วันที่: 28-06-2023นัด: ฟังคำพิพากษาผู้พิพากษาที่ออกนั่งพิจารณาอ่านคำพิพากษาในคดีนี้ สามารถสรุปได้ดังนี้
เห็นว่า จำเลยให้การรับสารภาพ จากรายงานการสืบเสาะของพนักงานคุมประพฤติ ไม่ปรากฎข้อเสียหายใดมาก พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามมาตรา 112, มาตรา 206 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ลงโทษบทหนักที่สุด คือ มาตรา 112 จำคุก 3 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษลงกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี 6 เดือน
พิเคราะห์พฤติการณ์ในคดีเห็นว่า จำเลยกระทำความผิดต่อพระมหากษัตริย์อันเป็นที่เคารพสักการะ รัฐธรรมนูญไทยบัญญัติว่า พระมหากษัตริย์ดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ การกระทำของจำเลยกระทบต่อความรู้สึกประชาชน จำเลยมีเหตุสุขภาพจิต ไม่เป็นเหตุให้รอการลงโทษได้ ให้ริบคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือของกลาง
หลังศาลมีคำพิพากษา วารุณีถูกเจ้าหน้าที่ศาลเข้ามาควบคุมตัวลงไปที่ห้องขังใต้ถุนศาลในทันที ก่อนที่ทนายความจะยื่นขอประกันตัวระหว่างอุทธรณ์
เวลา 16.48 น. ศาลอาญามีคำสั่งส่งคำร้องขอประกันตัวให้ศาลอุทธรณ์พิจารณา ซึ่งต้องใช้ระยะเวลา 2-3 วัน ทำให้ในวันนี้ วารุณีถูกนำตัวไปควบคุมยังทัณฑสถานหญิงกลาง -
วันที่: 03-07-2023นัด: ฟังคำสั่งศาลอุทธรณ์พิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหาและพฤติการณ์แห่งคดีแล้วข้อหามีอัตราโทษสูง จำเลยให้การรับสารภาพ ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกมีเหตุอันควรเชื่อว่าจำเลยจะหลบหนีประกอบกับศาลอุทธรณ์เคยไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวจำเลยในระหว่างอุทธรณ์มาแล้ว และเหตุตามคำร้องไม่มีเหตุที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิมส่วนที่จำเลยอ้างว่าเจ็บป่วยนั้น กรมราชทัณฑ์สามารถดูแลจัดการให้ได้ตามพระราชบัญญัติราชทัณฑ์พ.ศ. 2560 มาตรา 55 จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวจำเลยในระหว่างอุทธรณ์ให้ยกคำร้อง
-
วันที่: 07-07-2023นัด: ยื่นประกันตัวครั้งที่ 2พิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหา และพฤติการณ์แห่งคดีแล้ว ข้อหามีอัตราโทษสูง จำเลยให้การรับสารภาพ ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุก มีเหตุอันควรเชื่อว่าจำเลยจะหลบหนี ประกอบกับศาลอุทธรณ์เคยไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยในระหว่างอุทธรณ์มาแล้วหลายครั้ง และเหตุตามคำร้องไม่มีเหตุที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม ส่วนที่จำเลยอ้างว่าเจ็บป่วยนั้น กรมราชทัณฑ์สามารถดูแลจัดการให้ได้ตามพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ. 2560 มาตรา 55 จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยในระหว่างอุทธรณ์ ให้ยกคำร้อง
สถานะ การอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว หรือ ผลการพิพากษา
ชั้นสอบสวน
ผู้ถูกดำเนินคดี :
วารุณี (สงวนนามสกุล)
การอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว
อนุญาต
ศาลชั้นต้น
ผู้ถูกดำเนินคดี :
วารุณี (สงวนนามสกุล)
ผลการพิพากษา
ลงโทษ
การอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว
อนุญาต
พิพากษาวันที่ :
28-06-2023
ศาลอุทธรณ์
ผู้ถูกดำเนินคดี :
วารุณี (สงวนนามสกุล)
ผลการพิพากษา
-
การอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว
ไม่อนุญาต
แหล่งที่มา : กรณีที่ศูนย์ทนายความฯ ติดตามสัมภาษณ์