ผู้ถูกดำเนินคดี
ข้อหา
หมายเลขคดี
  • พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14
  • Facebook
  • หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ (มาตรา 112)
ดำ อ.202/2565
แดง อ.1392/2566

ผู้กล่าวหา
  • วริษนันท์ ศรีบวรธนกิตติ์ แอดมินเพจ “เชียร์ลุง" (ประชาชน)
ผู้ถูกดำเนินคดี

ข้อหา

  • พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14
  • Facebook
  • หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ (มาตรา 112)

หมายเลขคดี

ดำ อ.202/2565
แดง อ.1392/2566
ผู้กล่าวหา
  • วริษนันท์ ศรีบวรธนกิตติ์ แอดมินเพจ “เชียร์ลุง"

ความสำคัญของคดี

สุภิสรา (สงวนนามสกุล) หญิงวัย 28 ปี ถูกตำรวจ ปอท. เข้าจับกุมที่บ้านพักตามหมายจับศาลอาญา ในข้อหา หมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ และข้อหาตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ หลังแอดมินเพจ “เชียร์ลุง” แจ้งความให้ดำเนินคดี กรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กโพสต์ข้อความพร้อมภาพรัชกาลที่ 10 ในทำนองหมิ่นประมาท จำนวน 4 โพสต์ ในช่วงวันที่ 6-7 ม.ค. 2564 ชั้นจับกุมและชั้นสอบสวน สุภิสราให้การรับสารภาพ โดยไม่มีทนายความเข้าร่วม ขณะที่พ่อให้การพร้อมยื่นประวัติการรักษาว่า สุภิสราเป็นผู้ป่วยจิตเวช อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวน บก.ปอท. และอัยการมีคำสั่งฟ้องสุภิสราในที่สุด

กรณีนี้นอกจากสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาของมาตรา 112 ที่เปิดโอกาสให้บุคคลใดก็ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษแม้ไม่ได้เป็นผู้เสียหาย ทำให้ข้อหาดังกล่าวถูกใช้เป็นเครื่องมือในการกลั่นแกล้งบุคคลอื่น ยังสะท้อนให้เห็นปัญหาของเจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรมที่ทำหน้าที่พิสูจน์ความผิดของผู้ต้องหาเท่านั้น โดยไม่ได้ทำหน้าที่พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของผู้ถูกกล่าวหาเลย

พฤติการณ์ของคดีตามเอกสารคดี

อานนท์ ปราการรัตน์ พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 4 บรรยายคำฟ้องมีใจความโดยสรุปว่า

ในคดีนี้จําเลยได้กระทําความผิดต่อกฎหมายหลายกรรมต่างกัน กล่าวคือ เมื่อวันที่ 6-7 ม.ค. 2564 จำเลยได้โพสต์ข้อความพร้อมลงพระบรมฉายาลักษณ์ของรัชกาลที่ 10 ลงในเฟซบุ๊กของจำเลย จำนวน 4 โพสต์ ทั้งนี้ ในโพสต์ที่ 4 ว่า จำเลยได้โพสต์ข้อความประกอบกับภาพรัชกาลที่ 10 ที่มี “การตัดต่อ” เครื่องทรงของรัชกาลที่ 10 ให้เป็นชุดที่ไม่สุภาพและไม่เหมาะสม และมีการเพิ่มเติมรอยสัก โดยปรากฏภาพในเอกสารแนบท้ายคำฟ้อง เป็นภาพรัชกาลที่่ 10 ในชุดเสื้อครอปท็อปสีดำ และเจ้าคุณพระสินีนาฏฯ ในชุดเสื้อครอปท็อปสีขาว

ข้อความพร้อมภาพที่จำเลยโพสต์นั้นเพื่อให้ประชาชนทั่วไปที่พบเห็นเข้าใจได้ว่า เป็นการด่ารัชกาลที่ 10 ด้วยการเปรียบเทียบว่า เป็นบุคคลที่มักมากในกามารมณ์ หมกมุ่นในเรื่องกาม เป็นการดูหมิ่น เหยียดหยามพระมหากษัตริย์ที่ทรงเป็นประมุขทรงดํารงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ โดยประการที่น่าจะทําให้พระมหากษัตริย์ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง

ทั้งเป็นการปลุกปั่นทําให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิดและจูงใจให้ต่อต้านสถาบันพระมหากษัตริย์ จนอาจนํามาซึ่งความเกลียดชัง ก่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือความกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ถึงขนาดออกมาล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน โดยจําเลยรู้อยู่แล้วว่าข้อมูลที่จําเลยโพสต์นั้น เป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร

(อ้างอิง: คำฟ้อง ศาลอาญา คดีหมายเลขดำที่ อ.202/2565 ลงวันที่ 28 ม.ค. 2565)

ความคืบหน้าของคดี

  • เวลาประมาณ 11.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เข้าจับกุม สุภิสรา (สงวนนามสกุล) จากบ้านพัก ตามหมายจับศาลอาญาที่ 617/2564 ลงวันที่ 30 มี.ค. 2564 ในข้อกล่าวหา หมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และข้อหาตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(3) ก่อนนำตัวไปทำบันทึกการจับกุมที่ สน.ดอนเมือง จากนั้นส่งตัวไปที่ ปอท. เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาและสอบปากคำ

    ทั้งนี้ พฤติการณ์ที่เธอถูกกล่าวหานั้นถูกระบุว่ามาจากการโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวพาดพิงรัชกาลที่ 10 โดยคดีนี้มี วริษนันท์ ศรีบวรธนกิตติ์ แอดมินแฟนเพจ “เชียร์ลุง” เป็นผู้แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน บก.ปอท. เมื่อเดือนมกราคม 2564

    ชั้นจับกุมและชั้นสอบสวน สุภิสราได้ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยไม่มีทนายความเข้าร่วม พ่อซึ่งติดตามไปด้วย ได้ให้การด้วยว่าสุภิสราเป็นผู้ป่วยจิตเวช เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลมาแล้ว 2 รอบ ก่อนเกิดเหตุก็เพิ่งเข้าการรักษาที่โรงพยาบาลมา 3 เดือน พร้อมกับยื่นเอกสารแสดงการเข้ารักษาในโรงพยาบาลจิตเวชเป็นหลักฐานประกอบการพิจารณาดำเนินคดีของพนักงานสอบสวน

    ก่อนที่พ่อของสุภิสราจะได้โทรศัพท์แจ้งเรื่องเข้ามายังศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เพื่อขอความช่วยเหลือทางกฎหมาย อีกทั้งเจ้าหน้าที่ได้ขอเข้าถึงข้อมูลในโทรศัพท์ โดยไม่มีหมายศาลแต่อย่างใด ซึ่งสุภิสราและพ่อได้อนุญาตให้เข้าถึง

    หลังเสร็จกระบวนการทั้งหมดในช่วงค่ำ ตำรวจได้นำตัวสุภิสราไปคุมขังที่ สน.ทุ่งสองห้อง

    (อ้างอิง: บันทึกการจับกุม สน.ดอนเมือง ลงวันที่ 18 พ.ย. 2564 และ https://tlhr2014.com/archives/38106)
  • ตำรวจนำตัวสุภิสรากลับไปที่ บก.ปอท. โดยพนักงานสอบสวนได้ยื่นคำร้องขอฝากขังสุภิสราต่อศาลอาญาผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ด้านทนายความได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างการสอบสวน ระบุว่า สุภิสรามีประวัติการรักษาโรคจิตเภทอยู่ที่โรงพยาบาลศรีธัญญา จำเป็นต้องกินยาและได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง การถูกคุมขังไว้จะส่งผลกระทบต่อการรักษาตัวของผู้ต้องหา ทำให้ผู้ต้องหาและครอบครัวได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างยิ่ง

    ต่อมาเวลา 16.27 น. ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ฝากขังสุภิสราไว้ตามคำขอของพนักงานสอบสวน แต่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวในวงเงินประกัน 90,000 บาท ซึ่งทนายความได้ใช้เงินจากกองทุนราษฎรประสงค์วางเป็นหลักประกัน ศาลนัดรายงานตัวอีกครั้งในวันที่ 6 ม.ค. 2565 เวลา 08.30 น.

    ทั้งนี้ จากการติดตามของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน พบว่าผู้กล่าวหาในคดีนี้ คือ วริษนันท์ เป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษในคดีมาตรา 112 ไว้อีกอย่างน้อย 2 คดี คือ คดีของ จตุพร แซ่อึง นักกิจกรรมจากกลุ่มบุรีรัมย์ปลดแอก และสายน้ำ นักกิจกรรมเยาวชนอายุ 16 ปี จากกรณีแต่งชุดไทย และชุดครอปท็อปร่วมเดินแฟชั่นโชว์ในกิจกรรม #ภาษีกู ที่สีลม เพื่อวิพากษ์วิจารณ์การใช้จ่ายงบประมาณของกระทรวงพาณิชย์ในการจัดแสดงสินค้าแนวใหม่ในต่างประเทศสำหรับแบรนด์ Sirivannavari

    (อ้างอิง: คำร้องขอปล่อยตัวชั่งคราว ศาลอาญา ลงวันที่ 19 พ.ย. 2564 และ https://tlhr2014.com/archives/38106)
  • สุภิสราเดินทางไปรายงานตัวต่อศาลตามนัด แต่อัยการยังไม่ยื่นฟ้อง ศาลนัดรายงานตัวอีกครั้งวันที่ 18 ม.ค. 2565
  • สุภิสราเดินทางไปรายงานตัวต่อศาลตามนัด แต่อัยการยังไม่ยื่นฟ้อง ศาลนัดรายงานตัวอีกครั้งวันที่ 31 ม.ค. 2565
  • พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องสุภิสรา ในข้อหา “หมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคง ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 กล่าวหาว่าโพสต์เฟซบุ๊กที่มีภาพและข้อความในทำนองหมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ จำนวน 4 โพสต์ ในช่วงวันที่ 6-7 ม.ค. 2564

    แม้ว่าในชั้นสอบสวน พ่อของสุภิสราได้ให้การว่า สุภิสราเป็นผู้ป่วยจิตเวช ซึ่งเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลมาแล้ว 2 รอบ พร้อมกับยื่นเอกสารแสดงการเข้ารักษาในโรงพยาบาลจิตเวชเป็นหลักฐาน แต่พนักงานสอบสวน บก.ปอท. และอัยการมีคำสั่งฟ้องสุภิสราในที่สุด

    ท้ายคำฟ้องพนักงานอัยการยังได้คัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราวจำเลยระหว่างพิจารณาคดี โดยอ้างเหตุว่าเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง เกรงว่าจำเลยจะหลบหนี

    (อ้างอิง: คำฟ้อง ศาลอาญา คดีหมายเลขดำที่ อ.202/2565 ลงวันที่ 28 ม.ค. 2565 และ https://tlhr2014.com/archives/40199)
  • สุภิสราเข้ารายงานตัวตามสัญญาประกัน ภายหลังรับทราบว่าอัยการยื่นฟ้องแล้ว ทนายความได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างพิจารณาคดี โดยศาลอาญามีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวโดยใช้หลักประกันเดิมในชั้นสอบสวน เป็นเงินสดจำนวน 90,000 บาท จากกองทุนราษฎรประสงค์ และได้นัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 4 เม.ย. 2565 เวลา 09.00 น.

    จากการติดตามของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน มีผู้ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 ตั้งแต่หลังการชุมนุมเยาวชนปลดแอกเมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2563 อย่างน้อย 3 ราย ซึ่งมีอาการทางจิตเวช

    (อ้างอิง: https://tlhr2014.com/archives/40199)
  • นัดสืบพยานโจทก์ในวันที่ 9, 29 มี.ค. 2566 และสืบพยานจำเลยในวันที่ 29, 30 มี.ค. 2566
  • ก่อนเริ่มสืบพยาน สุภิสราแถลงขอถอนคำให้การเดิมที่ปฏิเสธ และให้การใหม่เป็นเป็นรับสารภาพตามที่โจทก์ฟ้อง ศาลมีคำสั่งให้พนักงานคุมประพฤติสืบเสาะและพินิจจำเลยในทุกประเด็น รวมถึงสอบถามข้อเท็จจริงและความเห็นจากแพทย์ผู้ทำการรักษาจำเลย รายงานต่อศาลภายใน 20 วัน ก่อนนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 27 เม.ย. 2566 เวลา 09.00 น.

    (อ้างอิง: รายงานกระบวนพิจารณา ศาลอาญา คดีหมายเลขดำที่ อ.202/2565 ลงวันที่ 9 มี.ค. 2566)
  • ศาลแจ้งคู่ความว่า เนื่องจากรายงานการสืบเสาะที่พนักงานคุมประพฤติรายงานต่อศาลนั้นยังไม่ครอบคลุมประเด็นอาการป่วยและประวัติการรักษาของจำเลย ศาลจึงให้พนักงานคุมประพฤติดำเนินการสืบเสาะเพิ่มเติมในประเด็นดังกล่าว รายงานต่อศาลภายใน 20 วัน และให้เลื่อนฟังคำพิพากษาไปเป็นวันที่ 26 พ.ค. 2566 เวลา 09.00 น.
  • ศาลอ่านคำพิพากษาระบุว่า จำเลยมีความผิดตามฟ้อง จำคุกกรรมละ 3 ปี จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกกรรมละ 1 ปี 6 เดือน รวมจำคุก 4 ปี 24 เดือน จากรายงานสืบเสาะของแพทย์ระบุว่า ช่วงเวลาใกล้เคียงเวลาเกิดเหตุ จำเลยมีอาการป่วยทางจิตในระดับสูง ควบคุมตนเองไม่ได้ จึงให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี คุมประพฤติมีกำหนด 1 ปี

ชั้นสอบสวน

ผู้ถูกดำเนินคดี :
สุภิสรา (สงวนนามสกุล)

การอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว
อนุญาต

ศาลชั้นต้น

ผู้ถูกดำเนินคดี :
สุภิสรา (สงวนนามสกุล)

ผลการพิพากษา
ลงโทษ
การอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว
อนุญาต
พิพากษาวันที่ : 26-05-2023

แหล่งที่มา : กรณีที่ศูนย์ทนายความฯ ติดตามสัมภาษณ์