ผู้ถูกดำเนินคดี
ข้อหา
หมายเลขคดี
  • พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14
  • Facebook
  • หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ (มาตรา 112)

ผู้กล่าวหา
  • เจษฎา ทันแก้ว (ประชาชน)
ผู้ถูกดำเนินคดี

ข้อหา

  • พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14
  • Facebook
  • หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ (มาตรา 112)

หมายเลขคดี

ผู้กล่าวหา
  • เจษฎา ทันแก้ว

ความสำคัญของคดี

"เพนกวิน" พริษฐ์ ชิวารักษ์ นักศึกษาและนักกิจกรรม ถูกเจษฎา ทันแก้ว อดีตการ์ด กปปส. เข้าแจ้งความที่ สภ.สันทราย เชียงใหม่ ให้ดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 กรณีโพสต์ถึงปัญหาของ พ.ร.บ.จัดระเบียบทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ฯ โดยยกตัวอย่างการพยายามจะเอาพระแก้วมรกตไปขายในสมัย ร.7 โดยกล่าวหาว่า ข้อความดังกล่าวกระทบกระเทือนความรู้สึกประชาชน และอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคง

กรณีนี้สะท้อนให้เห็นปัญหาของมาตรา 112 ที่ถูกตีความอย่างกว้างขวาง ขยายครอบคลุมไปถึงอดีตกษัตริย์ ทั้งที่ไม่ได้บัญญัติไว้ในกฎหมาย ซึ่งขัดต่อหลักกฎหมายอาญาที่ต้องตีความอย่างเคร่งครัด อีกทั้งการที่กฎหมายเปิดช่องให้ใครก็ได้เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษ ไม่จำเป็นต้องเป็นบุคคลที่กฎหมายคุ้มครอง ทำให้มาตรา 112 ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการปิดปากฝ่ายเห็นต่างทางการเมือง กระทบต่อเสรีภาพการแสดงออกของประชาชนเป็นอย่างยิ่ง

พฤติการณ์ของคดีตามเอกสารคดี

เมื่อวันที่ 28 พ.ย. 2563 นายเจษฎา ทันแก้ว ผู้กล่าวหาได้เปิดโทรศัพท์และอ่านเพจเฟซบุ๊กชื่อ “เพนกวิน-พริษฐ์ ชิวารักษ์ Parit Chiwarak” ซึ่งเปิดเป็นสาธารณะ ลงข้อความว่า “ในสมัยรัชกาลที่ 7 เมื่อพระองค์สละราชสมบัติไปก็พยายาม จะเอาพระแก้วมรกต(ซึ่งเป็นสมบัติชาติ) ไปขาย และถ้าเราไม่แก้ พ.ร.บ.จัดระเบียบทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เหตุการณ์นี้ก็อาจจะเกิดขึ้นถ้ารัชกาลที่ 10 สละราชสมบัติ”

ข้อความข้างต้นเป็นการตีความคลาดเคลื่อน บิดเบือนจากข่าวหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ วันที่ 22 มกราคม 2475 เพราะข่าวดังกล่าวไม่ได้ชี้ยืนยันชัดเจน ไม่มีใครสามารถรับรู้ได้ ทั้งข้อความนี้ยังกระทบกระเทือนต่อความรู้สึกของประชาชนอันจะนําไปสู่ความไม่พอใจ และอาจส่งผลกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรได้

(อ้างอิง: บันทีกการแจ้งข้อกล่าวหา เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ลงวันที่ 18 ก.พ. 2564)

ความคืบหน้าของคดี

  • ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ พนักงานสอบสวน สภ.สันทราย จ.เชียงใหม่ เข้าแจ้งข้อกล่าวหาแก่ “เพนกวิน” พริษฐ์ ชิวารักษ์ ในข้อหา “หมิ่นประมาทกษัตริย์” มาตรา 112 แห่งประมวลกฎหมายอาญา และข้อหาตามมาตรา 14 ของพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 โพสต์ถึงการนำพระแก้วมรกตไปขายตั้งแต่สมัย ร.7

    ก่อนหน้านี้พริษฐ์ได้รับหมายจาก สภ.สันทราย ลงวันที่ 26 ม.ค. 2564 และได้กำหนดนัดหมายไปรับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 11 ก.พ. 2564 แต่พริษฐ์นถูกคุมขังเพราะไม่ได้รับการประกันตัวในคดี 19กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร ทำให้พนักงานสอบสวนมาแจ้งข้อกล่าวหาภายในเรือนจำ

    พ.ต.ท.ชติกร ศรีเมือง รองผู้กำกับ (สอบสวน) สภ.สันทราย แจ้งพฤติการณ์คดีโดยสรุปว่า เมื่อวันที่ 28 พ.ย. 2563 นายเจษฎา ทันแก้ว ผู้กล่าวหาได้เปิดโทรศัพท์และอ่านเพจเฟซบุ๊กชื่อ “เพนกวิน-พริษฐ์ ชิวารักษ์ Parit Chiwarak” ซึ่งเปิดเป็นสาธารณะ ลงข้อความว่า “ในสมัยรัชกาลที่ 7 เมื่อพระองค์สละราชสมบัติไปก็พยายาม จะเอาพระแก้วมรกต(ซึ่งเป็นสมบัติชาติ) ไปขาย และถ้าเราไม่แก้ พ.ร.บ.จัดระเบียบทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เหตุการณ์นี้ก็อาจจะเกิดขึ้นถ้ารัชกาลที่ 10 สละราชสมบัติ”

    บันทึกแจ้งข้อกล่าวหาระบุว่า ข้อความข้างต้นเป็นการตีความคลาดเคลื่อน บิดเบือนจากข่าวหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ วันที่ 22 มกราคม 2475 เพราะข่าวดังกล่าวไม่ได้ชี้ยืนยันชัดเจน ไม่มีใครสามารถรับรู้ได้ ทั้งข้อความนี้ยังกระทบกระเทือนต่อความรู้สึกของประชาชนอันจะนําไปสู่ความไม่พอใจ และอาจส่งผลกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรได้

    พริษฐ์ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และจะให้การเพิ่มเติมเป็นหนังสือภายใน 30 วัน

    (อ้างอิง: บันทีกการแจ้งข้อกล่าวหา เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ลงวันที่ 18 ก.พ. 2564 และ https://tlhr2014.com/archives/26129)
  • พริษฐ์เดินทางเข้าพบพักงานสอบสวนตามนัดหมาย ในนัดส่งตัวพร้อมสำนวนการสอบสวนให้พนักงานอัยการจังหวัดเชียงใหม่ อัยการนัดฟังคำสั่งวันที่ 5 พ.ค. 2565 เวลา 09.00 น.
  • อัยการยังไม่มีคำสั่ง เลื่อนนัดเป็นวันที่ 6 มิ.ย. 2565 เวลา 09.00 น.
  • อัยการยังไม่มีคำสั่ง เลื่อนนัดเป็นวันที่ 6 ก.ค. 2565 เวลา 09.00 น.

ชั้นสอบสวน

ผู้ถูกดำเนินคดี :
พริษฐ์ ชิวารักษ์

การอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว
-

แหล่งที่มา : กรณีที่ศูนย์ทนายความฯ ติดตามสัมภาษณ์