สรุปความสำคัญ

"เพนกวิน" พริษฐ์ ชิวารักษ์ นักศึกษา และอานนท์ นำภา ทนายความสิทธิมนุษยชน ถูกดำเนินคดีในข้อหา "หมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ" และ "ยุยงปลุกปั่น" ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ 116 จากการปราศรัยระหว่างการชุมนุม #กูสั่งให้มึงอยู่ใต้รัฐธรรมนูญ ของกลุ่มราษฏร ที่หน้ารัฐสภา เกียกกาย เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 2563 เพื่อติดตามการลงมติรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนที่ยื่นต่อสภา โดยมีสมชาย อิสระ และประดิษฐ์ ต้นจาน เป็นผู้แจ้งความ

กรณีดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาของประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่มีโทษจำคุกสูงสุดถึง 15 ปี แต่กลับเปิดโอกาสให้บุคคลใดก็ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษแม้ไม่ได้เป็นผู้เสียหาย ทำให้ข้อกล่าวหาดังกล่าวถูกใช้เป็นเครื่องมือในการกลั่นแกล้งบุคคลอื่น ทั้งยังมีการตีความขยายขอบเขตการกระทำที่เป็นความผิดออกไป ซึ่งขัดต่อหลักกฎหมายอาญาที่ต้องตีความอย่างเคร่งครัดเนื่องจากมีบทลงโทษที่กระทบต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน

ข้อมูลการละเมิด

  • ผู้ถูกละเมิด
    • อานนท์ นำภา
  • ประเด็นการละเมิดสิทธิ
    • เสรีภาพการแสดงออก
    • เสรีภาพในการชุมนุม
    • สิทธิในกระบวนการยุติธรรม
  • รูปแบบการละเมิดสิทธิ
    • การเรียกรายงานตัว / ปรับทัศนคติ
  • ผู้ละเมิด
    • ตำรวจ
 
  • ผู้ถูกละเมิด
    • พริษฐ์ ชิวารักษ์
  • ประเด็นการละเมิดสิทธิ
    • เสรีภาพการแสดงออก
    • เสรีภาพในการชุมนุม
    • สิทธิในกระบวนการยุติธรรม
  • รูปแบบการละเมิดสิทธิ
    • การเรียกรายงานตัว / ปรับทัศนคติ
  • ผู้ละเมิด
    • ตำรวจ
 
  • ผู้ถูกละเมิด
    • พริษฐ์ ชิวารักษ์
  • ประเด็นการละเมิดสิทธิ
    • เสรีภาพการแสดงออก
    • สิทธิในกระบวนการยุติธรรม
  • ผู้ละเมิด
    • ตำรวจ

พฤติการณ์การละเมิด

14 ธ.ค. 2563 เวลา 10.00 น. ที่ สน.บางโพ อานนท์ นำภา ทนายความสิทธิมนุษยชน เข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกจากกรณีการชุมนุม #กูสั่งให้มึงอยู่ใต้รัฐธรรมนูญ หรือ #ม็อบ17พฤศจิกา หน้ารัฐสภาเกียกกาย เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 2563

ก่อนหน้านี้ คณะราษฎรได้ประกาศการชุมนุมหน้ารัฐสภาเกียกกาย เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 2563 ซึ่งเป็นวันเดียวกันกับการประชุมสภาฯ เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยหนึ่งในนั้นมีร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนเสนอโดย iLaw และมีประชาชนเข้าชื่อกว่า 100,732 รายชื่อ ผู้ชุมนุมได้มีการเรียกร้องให้รัฐสภารับร่างรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่รัฐเข้าสลายการชุมนุมด้วยการฉีดน้ำผสมสารเคมี และยิงแก๊สน้ำตาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เวลา 14.22 น. จนถึง 19.22 น. ทั้งที่ยังไม่มีความรุนแรงอันจะเป็นเหตุอันเพียงพอให้เจ้าหน้าที่เข้าสลายการชุมนุม ต่อมา เวทีได้ประกาศยกเลิกการชุมนุมตั้งแต่เวลา 21.00 น. หลังผู้ชุมนุมสามารถเข้าปักหลักที่หน้ารัฐสภาได้ไม่กี่ชั่วโมง

ภายหลังการชุมนุม สน.บางโพ ดำเนินคดีผู้ชุมนุมแยกเป็น 2 คดี ได้แก่ คดีจากการไม่แจ้งการชุมนุม ตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะฯ และคดีจากการปราศรัย ซึ่งมีผู้กล่าวหาว่าเข้าองค์ประกอบความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 “หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์”

พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาอานนท์ทั้งสองคดี และบรรยายพฤติการณ์ที่อานนท์ถูกกล่าวหาโดยสรุป ดังนี้

เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 2563 เวลาประมาณ 15.00 น. พริษฐ์ ชิวารักษ์, วีรวิชญ์ รุ่งเรืองศิริผล, ภาณุพงศ์ จาดนอก, อานนท์ นําภา, ชลธิชา แจ้งเร็ว และเอกชัย หงส์กังวาน แกนนำกลุ่มราษฎร 63 ได้นำมวลชนเข้ามาชุมนุมที่บริเวณหน้ารัฐสภาและบริเวณใกล้เคียง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อชุมนุมกดดันสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ให้รับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญใหม่ การชุมนุมครั้งนี้ถือเป็นการแสดงออกต่อประชาชนทั่วไปและสามารถให้บุคคลอื่นเข้าร่วมได้จึงจัดเป็นการชุมนุมสาธารณะ จากการตรวจสอบพบว่า ไม่มีการแจ้งการชุมนุมต่อผู้รับแจ้งแต่อย่างใด

ต่อมา เวลาประมาณ 20.40 น. อานนท์ นําภา ได้ขึ้นเวทีปราศรัยว่ารัฐสภาเป็นของราษฎร ไม่ได้จำกัดแค่สมาชิกผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา หรือสถาบันพระมหากษัตริย์เท่านั้น พร้อมพูดย้ำว่า ประชาชนนั้นต้องการปฏิรูป ไม่ใช่การปฏิวัติอย่างที่มีคนกล่าวหา ทั้งย้ำว่า ไม่ใช่กลุ่มล้มเจ้าอย่างที่ใส่ร้าย

อานนท์ยังพูดถึงกรณีเจ้าหน้าที่รัฐสลายการชุมนุมของกลุ่มคณะราษฎรตั้งแต่ช่วงเที่ยงเปรียบเทียบกับที่ช่วงเช้ากลุ่มไทยภักดีสามารถเดินทางมาที่รัฐสภาได้อย่างง่ายดาย และขอเสียงปรบมือให้ผู้บาดเจ็บจากการสลายการชุมนุมที่กำลังพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ก่อนประกาศนัดหมายการชุมนุมวันที่ 18 พ.ย. 2563 ที่แยกราษฎรประสงค์

อานนท์ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาทั้ง 2 คดี ก่อนพนักงานสอบสวนปล่อยตัว

18 ธ.ค. 2563 "เพนกวิน" พริษฐ์ ชิวารักษ์ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาจากการชุมนุมที่หน้ารัฐสภา เกียกกาย เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 2563 อีกคน

พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาพริษฐ์รวม 2 คดี เช่นกัน ได้แก่ คดีจากการไม่แจ้งการชุมนุม ตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะฯ และคดีจากการปราศรัย ในข้อหา “กระทําให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือ วิธีอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทําภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็น หรือติชม โดยสุจริต เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 และ “มั่วสุม กันตั้งแต่ 10 คน ขึ้นไป ใช้กําลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กําลังประทุษร้าย หรือกระทําการอย่างหนึ่งอย่างใด ให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215

หลังรับทราบข้อกล่าวหาเพนกวินให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยพริษฐ์ไม่ลงชื่อในบันทึกการแจ้งข้อกล่าวหาทั้งสองคดี ก่อนพนักงานสอบสวนปล่อยตัว

ทั้งอานนท์และเพนกวินยังถูกออกหมายเรียกให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติมอีกครั้ง นอกจากนี้ในวันที่ 12 พ.ย. 2564 ขณะเพนกวินถูกคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ในคดีอื่นโดยไม่ได้รับการประกันตัว พนักงานสอบสวน สน.บางโพ ได้เข้าแจ้งข้อกล่าวหา “หมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ” ตามมาตรา 112 เพิ่มเติมอีก หลังประดิษฐ์ ต้นจาน เข้าแจ้งความร้องทุกข์

(อ้างอิง: บันทึกแจ้งข้อกล่าวหา สน.บางโพ ลงวันที่ 14 ธ.ค. 2563 และ https://tlhr2014.com/archives/23968)

ภูมิหลัง

  • พริษฐ์ ชิวารักษ์
    อดีตเลขาธิการกลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไท
  • อานนท์ นำภา
    จบการศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ปี 2551 เริ่มเป็นทนายความด้านสิทธิมนุษยชน ปี 2553 ก่อตั้งสำนักงานทนายความราษฎรประสงค์ เพื่อให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน นอกจากนี้ยังเป็นทนายความในเครือข่ายของศูนย์ข้อมูลประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากการสลายการชุมนุม (ศปช.) สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน และศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน

แหล่งที่มา : กรณีที่ศูนย์ทนายความฯ ติดตามสัมภาษณ์