สรุปความสำคัญ

“ยาใจ” ทรงพล สนธิรักษ์ บัณฑิตคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และนักกิจกรรมกลุ่ม “ทะลุฟ้า” ถูกดำเนินคดีในข้อกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(3) จากการชู 3 นิ้ว ต่อหน้าพระเทพฯ ในพิธีรับปริญญาเมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2565 และการให้สัมภาษณ์ในเพจ “ทะลุ มข” และ “The Isaan Record” ภายหลังจากนั้น โดยมี กมล กิจกสิวัฒน์ ผู้สมัคร สส. จังหวัดขอนแก่น เขต 1 ของพรรคไทยภักดี ในการเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ค. 2566 เป็นผู้กล่าวหา

กรณีดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาการตีความประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่มีอัตราโทษจำคุกสูงสุดถึง 15 ปี แต่กลับถูกตีความอย่างกว้าง ซึ่งขัดต่อหลักกฎหมายอาญาที่ต้องตีความอย่างเคร่งครัด เนื่องจากมีบทลงโทษที่กระทบต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน

ข้อมูลการละเมิด

  • ผู้ถูกละเมิด
    • ทรงพล สนธิรักษ์
  • ประเด็นการละเมิดสิทธิ
    • เสรีภาพการแสดงออก
    • สิทธิในกระบวนการยุติธรรม
  • รูปแบบการละเมิดสิทธิ
    • การเรียกรายงานตัว / ปรับทัศนคติ
  • ผู้ละเมิด
    • ตำรวจ

พฤติการณ์การละเมิด

19 พ.ค. 2566 “ยาใจ” ทรงพล สนธิรักษ์ บัณฑิตคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และนักกิจกรรมกลุ่ม “ทะลุฟ้า” พร้อมเพื่อนกิจกรรมและทนายความ เดินทางไปที่ สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อเข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(3) ตามที่ พ.ต.ท.ศุภฤกษ์ สุวรรณราช รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองขอนแก่น ออกหมายเรียก

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2565 เพจ “ทะลุฟ้า” ได้โพสต์ข้อความและภาพ ระบุว่า “ยาใจ-ทะลุฟ้าแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ชูสามนิ้ว ระหว่างเข้าพิธีรับปริญญา ณ หอกาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น”

ต่อมา วันที่ 21 เม.ย. 2566 ทรงพลได้รับหมายเรียกผู้ต้องหาดังกล่าว ซึ่งเขาคาดว่า น่าจะมีเหตุจากการแสดงออกของเขาในครั้งนั้น ทั้งนี้ หมายเรียกระบุว่า คดีนี้มี กมล กิจกสิวัฒน์ เป็นผู้กล่าวหา โดยมีข้อมูลว่า ในการเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ค. 2566 กมลเป็นผู้สมัคร สส. จังหวัดขอนแก่น เขต 1 ของพรรคไทยภักดี ก่อนหน้านี้เป็นตัวแทนกลุ่มคนขอนแก่นปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ รวมทั้งเคยเป็น ประธาน กปปส.ขอนแก่น ด้วย

ที่ห้องสอบสวน ชั้น 3 สภ.เมืองขอนแก่น คณะพนักงานสอบสวนตามคําสั่งตํารวจภูธรจังหวัดขอนแก่นที่ 127/2566 ได้แจ้งพฤติการณ์และข้อกล่าวหาในคดีนี้ให้ทรงพลทราบ โดยมีทนายความและผู้ไว้วางใจอีก 2 คน เข้าร่วมรับฟัง ส่วนเพื่อนคนอื่น ๆ ตำรวจให้นั่งรออยู่ชั้นล่าง ขณะแจ้งข้อกล่าวหาเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งได้ใช้โทรศัพท์บันทึกวีดิโอไว้ด้วย

ทั้งนี้ พฤติการณ์ที่ตำรวจแจ้ง นอกจากการชู 3 นิ้วในพิธีรับปริญญาแล้ว ยังอ้างถึงการให้สัมภาษณ์ในเพจ “ทะลุ มข” และ “The Isaan Record” รวมถึงการเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มต่าง ๆ ในช่วงปี 63 และ 64

จากนั้น คณะพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า การกระทําดังกล่าวเป็นความผิดฐาน “หมิ่นประมาท ดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย พระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สําเร็จราชการแทนพระองค์ และนําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่ง ข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร”

ทรงพลให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยรับว่า เขาได้แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ด้วยการชู 3 นิ้ว ตามที่พนักงานสอบสวนแจ้งจริง แต่การกระทำดังกล่าวไม่ได้เป็นความผิดใน 2 ข้อหา ตามที่ถูกกล่าวหา และจะให้การเพิ่มเติมเป็นเอกสารภายในวันที่ 30 มิ.ย. 2566 ภายหลังสแกนลายนิ้วมือเพื่อตรวจสอบประวัติอาชญากรรม พนักงานสอบสวนก็ปล่อยทรงพลกลับ ไม่ได้มีการควบคุมตัวไว้

ทรงพล บัณฑิตหมาด ๆ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการเตรียมตัวสอบใบอนุญาตเป็นทนายความ ก่อนหน้าถูกดำเนินคดีในคดีนี้ เขาให้สัมภาษณ์ The Isaan Record ถึงการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ครั้งนั้น ซึ่งตำรวจก็นำเอาเนื้อหาการให้สัมภาษณ์มาเป็นส่วนหนึ่งของพฤติการณ์คดี “เท่าที่เขาดูเขาก็พยายามให้เราผิด ถูกดําเนินคดี ถ้าพูดถึง 112 มันก็ไม่เข้าข่าย พอเราเรียนกฎหมาย เราก็รู้สึกว่า เชื่อมั่นว่าสิ่งที่ทําไม่ผิดกฎหมายแน่นอน หลักๆ ของผม อยากให้เห็นความเท่าเทียมของคนในสังคมไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึงสวัสดิการต่างๆ ต้องมีการปรับและปฏิรูป…”

(อ้างอิง: บันทึกแจ้งข้อกล่าวหา สภ.เมืองขอนแก่น ลงวันที่ 19 พ.ค. 2566 และ https://tlhr2014.com/archives/56177)

แหล่งที่มา : กรณีที่ศูนย์ทนายความฯ ติดตามสัมภาษณ์