สรุปความสำคัญ

“ดลพร” (นามสมมติ) ชาวพังงาวัย 25 ปี ถูกตำรวจ สภ.เมืองกระบี่ ออกหมายเรียกไปให้ปากคำในฐานะพยาน แต่กลับถูกแจ้งข้อกล่าวหาตามมาตรา 112 กรณีถูก ทรงชัย เนียมหอม แกนนำกลุ่มประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบัน กล่าวหาจากการไปคอมเมนต์ใต้โพสต์เรื่องซุ้มเฉลิมพระเกียรติในกลุ่ม “รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส-ตลาดหลวง” เมื่อวันที่ 10 ม.ค. 2566

ทั้งนี้ จากการติดตามของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน พบว่า แกนนำกลุ่มประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบันได้แจ้งความคดีมาตรา 112 จำนวนมากไว้ในพื้นที่จังหวัดทางภาคใต้โดยกระจายไปในหลายสถานีตำรวจ โดยส่วนใหญ่ผู้ถูกกล่าวหาเป็นประชาชนทั่วไป ไม่ได้อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ถูกแจ้งความ ทำให้แต่ละคนมีภาระและค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปต่อสู้คดี

กรณีดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาของประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่มีโทษจำคุกสูงสุดถึง 15 ปี แต่กลับเปิดโอกาสให้บุคคลใดก็ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษแม้ไม่ได้เป็นผู้เสียหาย ทำให้ข้อกล่าวหาดังกล่าวถูกใช้เป็นเครื่องมือในการกลั่นแกล้งบุคคลอื่น กระทบต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน

ข้อมูลการละเมิด

  • ผู้ถูกละเมิด
    • "ดลพร" (นามสมมติ)
  • ประเด็นการละเมิดสิทธิ
    • เสรีภาพการแสดงออก
    • สิทธิในกระบวนการยุติธรรม
  • รูปแบบการละเมิดสิทธิ
    • การเรียกรายงานตัว / ปรับทัศนคติ
    • จับกุม / ควบคุมตัว
  • ผู้ละเมิด
    • ตำรวจ

พฤติการณ์การละเมิด

27 ก.พ. 2566 “ดลพร” (นามสมมติ) ประชาชนวัย 25 ปี เดินทางไปพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกระบี่ หลังได้รับหมายเรียกพยานครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 17 ก.พ. 2566 ซึ่งส่งไปที่บ้านที่จังหวัดพังงา ระบุว่าเป็นคดีเกี่ยวกับการหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ โดยมี ทรงชัย เนียมหอม ซึ่งสังกัดอยู่กลุ่มประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบัน เป็นผู้กล่าวหา และให้เขาไปพบ พ.ต.ท.ประพันธ์ หนูชัยแก้ว พนักงานสอบสวน เพื่อสอบปากคำในวันที่ 24 ก.พ. 2568

ซึ่งดลพรติดต่อตำรวจขอเลื่อนนัดเป็นวันที่ 27 ก.พ. 2566 โดยตำรวจบอกว่าเป็นการเรียกไปสอบถามในฐานะพยาน เขาจึงไม่ได้ติดต่อทนายความไปร่วมด้วย ทั้งกังวลเรื่องการมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับคดีต่างๆ จึงตัดสินใจไปพบกับตำรวจเองก่อน โดยมีแม่ของเขาเดินทางไปเป็นเพื่อน

หลัง พ.ต.ท.ประพันธ์ สอบถามดลพรเบื้องต้นว่า เป็นผู้ใช้เฟซบุ๊กตามเอกสารที่ให้ดูหรือไม่แล้ว พ.ต.ท.ประพันธ์ ก็บอกว่าจะแจ้งข้อกล่าวหากับเขาทันที โดยเขาไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจมาก่อน ตำรวจเพียงระบุว่าอนุญาตให้แม่ของเขาร่วมรับฟังการแจ้งข้อกล่าวหาและสอบสวน แต่ไม่ได้ระบุให้ติดต่อทนายความมาร่วม แม้บันทึกการแจ้งข้อกล่าวหาจะระบุว่า ผู้ต้องหามีสิทธิที่จะพบและปรึกษาทนายความก็ตาม

พ.ต.ท.ประพันธ์ แจ้งพฤติการณ์คดีที่กล่าวหามีสาระสำคัญโดยสรุปว่า เมื่อวันที่ 10 ม.ค. 2566 ทรงชัย เนียมหอม ผู้กล่าวหา ได้เข้าไปดูเฟซบุ๊กในกลุ่ม “รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส-ตลาดหลวง” โดยแม้กลุ่มดังกล่าวเป็นกลุ่มปิด แต่มีสมาชิกกลุ่มสูงกว่า 2 ล้านบัญชี การโพสต์เผยแพร่ข้อความใด ๆ ลงในกลุ่ม จะมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายอื่นจำนวนมากได้รับการแจ้งเตือน และเข้าไปดูการอัพเดทข้อมูลของสมาชิกกลุ่ม ประกอบกับกลุ่มเฟซบุ๊กดังกล่าวเป็นที่ทราบอย่างกว้างขวางว่าขึ้นชื่อในด้านการยุยงปลุกปั่นสังคม การเผยแพร่ข่าวบิดเบือน และการเผยแพร่ข้อมูลหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์

ผู้กล่าวหาอ้างว่าได้พบผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง นำรูปภาพถ่ายซุ้มเฉลิมพระเกียรติ อันปรากฏพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 9, พระพันปีหลวง, รัชกาลที่ 10, พระราชินีสุทิดา ซึ่งติดตั้งตรงข้ามพระราชวังดุสิต ระบุข้อความประกอบในลักษณะตั้งคำถามต่อประโยชน์ของการติดตั้งซุ้มดังกล่าว ก่อนพบผู้ใช้เฟซบุ๊กอีกรายเข้ามาแสดงความคิดเห็นใต้โพสต์ว่า “แขวนประจานที่ซุ้มประตู 55” ผู้กล่าวหาจึงมากล่าวโทษให้ดำเนินคดี

ทั้งนี้ ในข้อกล่าวหาไม่ได้ระบุอย่างชัดเจนว่าข้อความแสดงความคิดเห็นดังกล่าวนั้นเข้าข่ายมาตรา 112 อย่างไร

ดลพรระบุว่า ตำรวจพูดกับเขาในลักษณะที่ทำให้รู้สึกกลัว และทำให้รู้สึกถูกบีบบังคับ โดยพยายามสอบถามว่าเป็นเจ้าของเฟซบุ๊กไหม, URL นี้ใช่ไหม, ไปโพสต์ในวันไหนเวลาไหน และที่ไหน เขาจึงได้ให้การว่าตนเองได้ไปคอมเมนต์ข้อความตามที่ถูกกล่าวหาจริง แต่ไม่ใช่ผู้โพสต์ข้อความต้นโพสต์ดังกล่าว

ดลพรยังระบุว่า เขาไม่เคยรู้จักผู้กล่าวหามาก่อน และยังไม่ทราบว่าผู้กล่าวหาหรือตำรวจมีการดำเนินคดีต่อผู้โพสต์ข้อความต้นโพสต์ หรือผู้แสดงความคิดเห็นรายอื่น ๆ หรือไม่

“ตอนนั้น รู้สึกงง ๆ กลัว ๆ เราไม่ได้มีความรู้เรื่องกระบวนการทางกฎหมายพวกนี้เลย แล้วไม่ได้เตรียมเตรียมใจมาว่าจะโดนแจ้งข้อกล่าวหาแบบนี้ ตำรวจบอกว่าแค่ว่าให้มาสอบเป็นพยาน” ดลพรบอกถึงความรู้สึกในขณะนั้น

หลังจากสอบปากคำ ตำรวจยังแจ้งว่าจะนำตัวเขาไปขอฝากขังที่ศาลจังหวัดกระบี่ ให้เตรียมเรื่องประกันตัว เขาจึงได้ประสานงานมาที่ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน

ต่อมา หลังศาลอนุญาตให้ฝากขัง ก็ได้อนุญาตให้ประกันตัว โดยให้วางหลักทรัพย์เป็นเงิน 150,000 บาท ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากกองทุนราษฎรประสงค์ จากนั้นเขาจึงได้ปรึกษากับทนายความในภายหลังกระบวนการต่าง ๆ ดำเนินไปแล้ว

“รู้สึกว่ามันถูกดำเนินคดีแบบนี้กันง่ายเกินไป เราไปแสดงความคิดเห็นในเรื่องการเมืองนิดเดียว กลายมาเป็นโดนคดี 112 พอโดนแจ้งแบบไม่ได้เตรียมตัวเลยแบบนี้ และมีการขอฝากขังต่อศาลอีก ทำให้ยิ่งรู้สึกว่ามันง่ายเกินไปมาก”

ทั้งนี้ ดลพรระบุว่าแม้บ้านเขาจะอยู่ที่จังหวัดพังงา แต่เขาเดินทางไปทำงานด้านธุรกิจและอาศัยอยู่ที่จังหวัดภูเก็ตเป็นหลัก ทำให้ยังมีภาระต้องเดินทางมาต่อสู้คดีอยู่ และเหตุที่เกิดขึ้น ยังทำให้เขากังวลต่อผลทางคดี เกรงจะกระทบต่อการงานของเขา เพราะเขายังเป็นกำลังหลักในการหารายได้ให้ครอบครัวด้วย

(อ้างอิง: บันทึกการแจ้งข้อกล่าวหา สภ.เมืองกระบี่ ลงวันที่ 27 ก.พ. 2566 และ https://tlhr2014.com/archives/53997)

แหล่งที่มา : กรณีที่ศูนย์ทนายความฯ ติดตามสัมภาษณ์