ผู้ถูกดำเนินคดี
ข้อหา
หมายเลขคดี
  • หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ (มาตรา 112)

ผู้กล่าวหา
  • พ.ต.ท.สุดเขต สิมาธรรม รอง ผกก.สส.สน.ลุมพินี กับพวก (ตำรวจ)
  • หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ (มาตรา 112)

ผู้กล่าวหา
  • พ.ต.ท.สุดเขต สิมาธรรม รอง ผกก.สส.สน.ลุมพินี กับพวก (ตำรวจ)
ผู้ถูกดำเนินคดี

ข้อหา

  • หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ (มาตรา 112)

หมายเลขคดี

ผู้กล่าวหา
  • พ.ต.ท.สุดเขต สิมาธรรม รอง ผกก.สส.สน.ลุมพินี กับพวก

ข้อหา

  • หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ (มาตรา 112)

หมายเลขคดี

ผู้กล่าวหา
  • พ.ต.ท.สุดเขต สิมาธรรม รอง ผกก.สส.สน.ลุมพินี กับพวก

ความสำคัญของคดี

“เก็ท” โสภณ สุรฤทธิ์ธำรง และ "ใบปอ" (นามสมมติ) 2 นักกิจกรรรม ถูกดำเนินคดีในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จากการอ่านแถลงการณ์ในการชุมนุม “WHAT HAPPENED IN THAILAND” ที่แยกอโศก ในช่วงการประชุมเอเปค (APEC2022) เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 2565

พฤติการณ์ของคดีตามเอกสารคดี

บันทึกการแจ้งข้อกล่าวหาระบุพฤติการณ์ที่กล่าวหาว่า

เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 2565 มีกลุ่มนักกิจกรรมนำโดยกลุ่มทะลุวัง ได้จัดกิจกรรมที่แยกอโศกมนตรี และจะเดินขบวนไปยังศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ สถานที่จัดประชุม APEC2022 เพื่อยื่นจดหมายบอกให้ผู้นำโลกรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในประเทศไทย โดยได้มีการไล่ลำดับเหตุการณ์ในกิจกรรมวันดังกล่าว ในส่วนของใบปอถูกระบุว่าเป็นผู้อ่านแถลงการณ์ของผู้ชุมนุมฉบับภาษาไทยต่อหน้าสื่อมวลชน และเก็ทอ่านแถลงการณ์ฉบับภาษาอังกฤษ

ข้อกล่าวหาระบุว่า คณะกรรมการพิจารณาคดีความมั่นคงความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรของกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พิจารณาแล้วเห็นว่า ทั้งสองคนกล่าวข้อความที่มีลักษณะเป็นการหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยมีการยกข้อความบางส่วนของแถลงการณ์ทั้งหมด 3 ท่อน ที่กล่าวถึงระบอบกษัตริย์กับการเมืองไทยมากล่าวหา

(อ้างอิง: บันทึกการแจ้งข้อกล่าวหา เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ลงวันที่ 12 ต.ค. 2566)

ความคืบหน้าของคดี

  • ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ พนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี ได้เดินทางเข้าแจ้งข้อกล่าวหาต่อ “เก็ท” โสภณ สุรฤทธิ์ธำรง นักกิจกรรมกลุ่มโมกหลวงริมน้ำ ในคดีจากการชุมนุม “WHAT HAPPENED IN THAILAND” ที่แยกอโศกในช่วงการประชุมเอเปค (APEC2022) เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 2565

    ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนกันยายน 2566 ตำรวจ สน.ลุมพินี ได้ออกหมายเรียกผู้ชุมนุมจำนวน 4 คน มาแจ้งข้อกล่าวหา ไม่แจ้งการชุมนุมสาธารณะ ตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะฯ บางรายยังถูกแจ้งข้อหาใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้อนุญาต หรือ พ.ร.บ.ความสะอาดฯ ด้วย

    ต่อมาวันที่ 20 ก.ย. 2566 ตำรวจมีการออกหมายเรียกเพิ่มเติม นักกิจกรรมอีก 2 ราย คือ เก็ทและ “ใบปอ” (นามสมมติ) โดยระบุข้อหาหลักตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และมี พ.ต.ท.สุดเขต สิมาธรรม รอง ผกก.สส.สน.ลุมพินี กับพวก เป็นผู้กล่าวหา

    ในส่วนของใบปอได้ขอเลื่อนรับทราบข้อกล่าวหาออกไปก่อน ขณะที่ พ.ต.ต.สุทวัฒน์ ศรีพรวรรณ์ สารวัตร (สอบสวน) สน.ลุมพินี ได้นัดหมายทนายความ เดินทางเข้าแจ้งข้อกล่าวหาเก็ทในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ซึ่งเขาถูกคุมขังอยู่ในคดีมาตรา 112 คดีอื่น

    พ.ต.ต.สุทวัฒน์ ได้แจ้งพฤติการณ์ที่กล่าวหาว่า เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 2565 มีกลุ่มนักกิจกรรมนำโดยกลุ่มทะลุวัง ได้จัดกิจกรรมที่แยกอโศกมนตรี และจะเดินขบวนไปยังศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ สถานที่จัดประชุม APEC2022 เพื่อยื่นจดหมายบอกให้ผู้นำโลกรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในประเทศไทย โดยได้มีการไล่ลำดับเหตุการณ์ในกิจกรรมวันดังกล่าว ในส่วนของใบปอถูกระบุว่าเป็นผู้อ่านแถลงการณ์ของผู้ชุมนุมฉบับภาษาไทยต่อหน้าสื่อมวลชน และเก็ทอ่านแถลงการณ์ฉบับภาษาอังกฤษ

    ข้อกล่าวหาระบุว่า คณะกรรมการพิจารณาคดีความมั่นคงความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรของกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พิจารณาแล้วเห็นว่า ทั้งสองคนกล่าวข้อความที่มีลักษณะเป็นการหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยมีการยกข้อความบางส่วนของแถลงการณ์ทั้งหมด 3 ท่อน ที่กล่าวถึงระบอบกษัตริย์กับการเมืองไทยมากล่าวหา

    จากนั้น พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาเก็ททั้งหมด 3 ข้อหา ได้แก่ หมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ, ร่วมกันจัดชุมนุมสาธารณะ โดยไม่แจ้งการชุมนุมต่อผู้รับแจ้งก่อนเริ่มชุมนุมไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง และร่วมกันใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต

    หลังทราบข้อกล่าวหา เก็ทได้ปฏิเสธที่จะร่วมกระบวนการสอบสวนของตำรวจ และไม่ลงลายมือชื่อในเอกสารใด ๆ รวมทั้งไม่ให้ทนายความลงชื่อในเอกสาร ขณะที่ทางพนักงานสอบสวนได้บันทึกว่า ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา และไม่ได้ให้สำเนาบันทึกข้อกล่าวหาต่อผู้ต้องหาเหมือนโดยปกติด้วย

    คดีนี้นับเป็นคดีมาตรา 112 คดีที่ 4 ที่เก็ทถูกกล่าวหาแล้ว โดยอีก 3 คดีที่ถูกกล่าวหาไปก่อนหน้านี้ ได้แก่ คดีปราศรัยในกิจกรรม #ทัวร์มูล่าผัว ซึ่งศาลอาญามีคำพิพากษาจำคุก 3 ปี 6 เดือน และเขาไม่ได้รับอนุญาตให้ประกันตัวระหว่างอุทธรณ์, คดีปราศรัยในกิจกรรม “ฟื้นฝอยหาตะเข็บ ใครฆ่าพระเจ้าตากสิน” อยู่ระหว่างการสืบพยานที่ศาลอาญาธนบุรี โดยเก็ทปฏิเสธอำนาจศาลและขอถอนทนายในคดีนี้ และคดีปราศรัยในกิจกรรมวันแรงงานปี 2565 อยู่ระหว่างรอการสืบพยานที่ศาลอาญา

    (อ้างอิง: บันทึกการแจ้งข้อกล่าวหา เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ลงวันที่ 12 ต.ค. 2566 และ https://tlhr2014.com/archives/60564)
  • ใบปอเข้ารับทราบข้อกล่าวหาที่ สน. ลุมพินี พนักงานสอบสวนแจ้งพฤติการณ์คดีเช่นเดียวกับที่แจ้งเก็ท ก่อนแจ้งข้อกล่าวหาใบปอรวม 3 ข้อหา เช่นเดียวกับเก็ท คือ หมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ, ร่วมกันจัดชุมนุมสาธารณะโดยไม่แจ้งการชุมนุมต่อผู้รับแจ้งก่อนเริ่มชุมนุมไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง และร่วมกันใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต

    ใบปอให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และไม่ลงลายมือชื่อในบันทึกการแจ้งข้อกล่าวหา จากนั้นพนักงานสอบสวนได้ปล่อยตัว เนื่องจากมาพบตามหมายเรียก จึงไม่มีเหตุให้ควบคุมตัวไว้ นัดส่งตัวให้อัยการในวันที่ 2 พ.ย. 2566

    (อ้างอิง: บันทึกการแจ้งข้อกล่าวหา สน.ลุมพินี ลงวันที่ 21 ต.ค. 2566)
  • พนักงานสอบสวนส่งตัวใบปอพร้อมสำนวนการสอบสวนให้พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 3 อัยการนัดฟังคำสั่งในวันที่ 6 ธ.ค. 2566

ชั้นสอบสวน

ผู้ถูกดำเนินคดี :
ใบปอ (นามสมมติ)

การอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว
-
ผู้ถูกดำเนินคดี :
โสภณ สุรฤทธิ์ธำรง

การอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว
-

แหล่งที่มา : กรณีที่ศูนย์ทนายความฯ ติดตามสัมภาษณ์