ผู้ถูกดำเนินคดี
ข้อหา
หมายเลขคดี
- หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ (มาตรา 112)
ดำ 182ก./2557
แดง 98ก./2558
- หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ (มาตรา 112)
ดำ 182ก./2557
แดง 98ก./2558
ผู้ถูกดำเนินคดี
ข้อหา
- หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ (มาตรา 112)
หมายเลขคดี
ดำ 182ก./2557
แดง 98ก./2558
ข้อหา
- หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ (มาตรา 112)
หมายเลขคดี
ดำ 182ก./2557
แดง 98ก./2558
ความสำคัญของคดี
นายภูชิต และนายศรีราชบุตร ถูกดำเนินคดีในข้อหา หมิ่นประมาท ดูหมิ่น พระมหากษัตริย์ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จากกรณีที่ทั้งสองร่วมกันแอบอ้างว่าเป็นบุคคลที่รักขององค์รัชทายาท และพระบรมวงศานุวงศ์ เพื่อให้คู่เจรจาหลงเชื่อโดยหวังผลประโยชน์ในทางธุรกิจ
คดีนี้อยู่ในอำนาจการพิจารณาคดีของศาลทหารตามประกาศ คสช. เนื่องจากข้อกล่าวหาต่อจำเลยอยู่ในฐานความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร และเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 ก.ย. 2557 ทั้งยังไม่ได้รับสิทธิในการอุทธรณ์/ฎีกา เนื่องจากการพิจารณาคดีอยู่ในขณะประกาศกฎอัยการศึก
อย่างไรก็ตาม การดำเนินคดีผู้ที่มีพฤติการณ์แอบอ้างสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วยข้อหา หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ ถือได้ว่า เป็นการขยายขอบเขตการตีความกฎหมายดังกล่าวออกไปจนเกินกว่าบทบัญญัติของกฎหมาย ซึ่งอาจถูกนำไปใช้ในการทำลายฝ่ายตรงข้ามได้โดยง่าย โดยพบว่า หลังรัฐประหารมีจำนวนผู้ถูกดำเนินคดีตาม ม.112 จากเหตุในลักษณะดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น (https://freedom.ilaw.or.th/blog/falsecliam)
ทั้งนี้ การกระทำโดยแอบอ้างสถาบันฯ เพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์หรือผลประโยชน์ เจ้าหน้าที่ควรที่จะดำเนินคดีในความผิดฐานฉ้อโกง ซึ่งเป็นความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ และมีโทษจําคุกไม่เกินสามปีหรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ ซึ่งได้สัดส่วนกับพฤติการณ์กระทำผิดมากกว่า
คดีนี้อยู่ในอำนาจการพิจารณาคดีของศาลทหารตามประกาศ คสช. เนื่องจากข้อกล่าวหาต่อจำเลยอยู่ในฐานความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร และเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 ก.ย. 2557 ทั้งยังไม่ได้รับสิทธิในการอุทธรณ์/ฎีกา เนื่องจากการพิจารณาคดีอยู่ในขณะประกาศกฎอัยการศึก
อย่างไรก็ตาม การดำเนินคดีผู้ที่มีพฤติการณ์แอบอ้างสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วยข้อหา หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ ถือได้ว่า เป็นการขยายขอบเขตการตีความกฎหมายดังกล่าวออกไปจนเกินกว่าบทบัญญัติของกฎหมาย ซึ่งอาจถูกนำไปใช้ในการทำลายฝ่ายตรงข้ามได้โดยง่าย โดยพบว่า หลังรัฐประหารมีจำนวนผู้ถูกดำเนินคดีตาม ม.112 จากเหตุในลักษณะดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น (https://freedom.ilaw.or.th/blog/falsecliam)
ทั้งนี้ การกระทำโดยแอบอ้างสถาบันฯ เพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์หรือผลประโยชน์ เจ้าหน้าที่ควรที่จะดำเนินคดีในความผิดฐานฉ้อโกง ซึ่งเป็นความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ และมีโทษจําคุกไม่เกินสามปีหรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ ซึ่งได้สัดส่วนกับพฤติการณ์กระทำผิดมากกว่า
พฤติการณ์ของคดีตามเอกสารคดี
จำเลยทั้งสองได้ร่วมกันกระทำผิดกฎหมาย กล่าวคือ เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2557 เวลากลางวัน จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ได้ร่วมกันหมิ่นประมาท และดูหมิ่นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ซึ่งเป็นรัชทายาทองค์ปัจจุบัน ต่อบุคคลที่สาม โดยจำเลยที่ 1 ได้พารองประธานบริษัทเอ (นามสมมติ) และพนักงานอีก 2 คน เข้าไปเจรจากับจำเลยที่ 2 ซึ่งรู้จักกับกรรมการบริษัทบี (นามสมมติ) ภายในบริเวณพระที่นั่งอัมพรสถาน อันเป็นเขตพระราชฐาน เพื่อให้จำเลยที่ 2 เจรจาโน้มน้าวชักจูงไม่ให้บริษัทเอ ยกเลิกสัญญากับบริษัทบี โดยจำเลยที่ 1 และ 2 ได้ร่วมกันพูดเจรจาโน้มน้าวชักจูงให้ทั้งสามเชื่อว่าจำเลยที่ 2 เป็นคนโปรดของสมเด็จพระบรมฯ เป็นบุคคลที่พระองค์ท่านรัก ทำให้เกิดความเกรงใจ อันเป็นการใส่ความ หมิ่นประมาทและดูหมิ่นองค์รัชทายาท โดยประการที่น่าจะทำให้สมเด็จพระบรมฯ เสื่อมเสียพระเกียรติ ถูกดูหมิ่น เกลียดชัง ทำให้ประชาชนเสื่อมศรัทธา ไม่เคารพสักการะ เหตุเกิดที่แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
(อ้างอิง: คำพิพากษา ศาลทหารกรุงเทพ คดีหมายเลขดำที่ 182ก./2557 คดีหมายเลขแดงที่ 98ก./2558 ลงวันที่ 19 มีนาคม 2558)
(อ้างอิง: คำพิพากษา ศาลทหารกรุงเทพ คดีหมายเลขดำที่ 182ก./2557 คดีหมายเลขแดงที่ 98ก./2558 ลงวันที่ 19 มีนาคม 2558)
ความคืบหน้าของคดี
-
วันที่: 19-03-2015นัด: ฟังคำพิพากษาศาลทหารกรุงเทพมีคำพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่นรัชทายาท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ให้ลงโทษจำคุกจำเลยทั้งสองคนละ 5 ปี จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดี ลดโทษลงกึ่งหนึ่ง คงจำคุกคนละ 2 ปี 6 เดือน
ที่จำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องขอให้ลงโทษสถานเบาและรอการลงโทษจำคุกให้จำเลย ศาลพิเคราะห์สภาพความผิดและพฤติการณ์แห่งคดีแล้วเห็นว่า ยังไม่มีเหตุผลสมควรที่จะรอการลงโทษจำคุกให้จำเลยที่ 1 ประกอบกับศาลได้ลงโทษจำเลยในสถานเบาอยู่แล้ว จึงให้ยกคำร้องของจำเลยที่ 1 ในส่วนที่ขอให้รอการลงโทษ
คำพิพากษามีผลให้คดีถึงที่สุด จำเลยทั้งสองไม่มีสิทธิอุทธรณ์/ฎีกา เนื่องจากเป็นการพิจารณาคดีในศาลทหาร ระหว่างการประกาศใช้กฎอัยการศึก
(อ้างอิง: คำพิพากษา ศาลทหารกรุงเทพ คดีหมายเลขดำที่ 182ก./2557 คดีหมายเลขแดงที่ 98ก./2558 ลงวันที่ 19 มีนาคม 2558)
สถานะ การอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว หรือ ผลการพิพากษา
ชั้นสอบสวน
ผู้ถูกดำเนินคดี :
นายภูชิต (สงวนนามสกุล)
การอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว
-
ผู้ถูกดำเนินคดี :
นายศรีราชบุตร
การอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว
-
ศาลชั้นต้น
ผู้ถูกดำเนินคดี :
นายภูชิต (สงวนนามสกุล)
ชื่อองค์คณะผู้พิพากษา :
- พันโทหญิง ศรีสุดา ทัศน์เอี่ยม
ผลการพิพากษา
ลงโทษ
การอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว
-
พิพากษาวันที่ :
19-03-2015
ผู้ถูกดำเนินคดี :
นายศรีราชบุตร
ชื่อองค์คณะผู้พิพากษา :
- พันโทหญิง ศรีสุดา ทัศน์เอี่ยม
ผลการพิพากษา
ลงโทษ
การอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว
-
พิพากษาวันที่ :
19-03-2015
แหล่งที่มา : ข้อมูลจากการติดตามในสื่อต่างๆ