คดี 112 ชูเกียรติ-สิรภพ #18พฤศจิกาไปราษฎร์ประสงค์

18 พ.ย. 2563 กลุ่ม “ราษฎร” นัดหมายชุมนุม #18พฤศจิกาไปราษฎรประสงค์ เพื่อแสดงออกถึงความไม่พอใจต่อการใช้ความรุนแรงเข้าสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 17 พ.ย. 2563 ที่รัฐสภา เกียกกาย จนทำให้ผู้ชุมนุมที่มาติดตามการลงมติรับหลักการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญได้รับบาดเจ็บ ในการชุมนุมที่สี่แยกราชประสงค์ มีการเคลื่อนขบวนไปหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ด้วยการสาดสีใส่ป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หลังการชุมนุมมีผู้ปราศรัยและผู้ชุมนุมถูกดำเนินคดีรวม 9 ราย ใน 2 สถานีตำรวจ คือ สน.ลุมพินี และ สน.ปทุมวัน โดยเฉพาะ "จัสติน" ชูเกียรติ แสงวงค์ และ "ขนุน" สิรภพ พุ่มพึ่งพุทธ 2 นักกิจกรรม ถูกดำเนินคดี "หมิ่นประมาทกษัตริย์" จากการขึ้นปราศรัยเรื่องบทบาทของกษัตริย์ในระบอบประชาธิปไตยของไทยในการชุมนุมครั้งนี้

18 พ.ย. 2563 กลุ่ม "ราษฎร" นัดชุมนุมที่แยกราชประสงค์ หลังจากวานนี้ (17 พ.ย.) มวลชนจำนวนมากเดินขบวนไปหน้ารัฐสภาเพื่อกดดันให้รับร่างแก้รัฐธรรมนูญฉบับประชาชนอย่างทุลักทุเล พวกเขาถูกตำรวจควบคุมฝูงชนฉีดน้ำผสมแก๊สน้ำตาครั้งแล้วครั้งเล่า อีกทั้งยังมีการปะทะกับกลุ่มคนเสื้อเหลืองจนการ์ดอาชีวะได้รับบาดเจ็บหลายคน ส่วนการลงมติในวันนี้พบว่า ส.ว.แต่งตั้งซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญที่กำหนดในรัฐธรรมนูญ 2560 ว่าต้องมีเสียงเห็นชอบ 1 ใน 3 ก็ไม่โหวตรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนและร่างอื่นๆ อีก 4 ร่าง แต่รับร่างรัฐธรรมนูญของพรรคร่วมฝ่ายค้านและพรรครัฐบาลที่เสนอให้ตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) เพื่อมาจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เท่านั้นโดยไม่ยอมรับการแก้ไขเรื่องอื่นๆ

(อ้างอิง: https://www.mobdatathailand.org/case-file/1605843115870)

18 ธ.ค. 2563 เวลา 11.00 น. ‘ขนุน’ สิรภพ พุ่มพึ่งพุทธ และ ‘จัสติน’ ชูเกียรติ แสงวงค์ เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกที่ สน.ลุมพินี พร้อมธานี สะสม และชินวัตร จันทร์กระจ่าง

พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาโดยบรรยายพฤติการณ์ในการกระทำความผิดว่า วันที่ 18 พ.ย. 2563 ผู้ถูกกล่าวหานัดหมายมวลชนให้มารวมตัวกันบริเวณสี่แยกราชประสงค์ มีประชาชนผู้ชุมนุมเข้าร่วมจนเต็มพื้นผิวจราจรบริเวณสี่แยกราชประสงค์ ทำให้การจราจรติดขัด รถไม่สามารถสัญจรผ่านได้โดยสะดวก นอกจากนั้นการชุมนุมดังกล่าวยังไม่มีการแจ้งการชุมนุมต่อผู้รับแจ้งตามกฎหมายก่อนเริ่มการชุมนุมไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง

นอกจากนั้นจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินี ซึ่งได้จัดทำบันทึกคำปราศรัยจากการชุมนุมดังกล่าว พบว่ามีข้อความปราศรัยบางส่วนของสิรภพ พุ่มพึ่งพุทธ และชูเกียรติ แสงวงค์ ที่ใช้วาจาจาบจ้วงพระมหากษัตริย์โดยมิบังควร เพื่อให้ประชาชนผู้มาชุมนุม และประชาชนทั่วไป เกิดความรู้สึกดูหมิ่น เกลียดชังพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นประมุขแห่งรัฐ อันเป็นการล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน

พนักงานสอบสวนจึงแจ้งข้อกล่าวหาแก่ทั้งสี่คนใน 2 ข้อหา คือ จัดการชุมนุมสาธารณะโดยไม่แจ้งการชุมนุมตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 และไม่จัดให้มีมาตรการป้องกันโรคอันเป็นการฝ่าฝืนข้อกำหนดที่ออกตามมาตรา 9 ของ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 รวมทั้งแจ้งข้อกล่าวหาสิรภพและชูเกียรติในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ด้วย โดยมีการถอดคำปราศรัยบรรยายไว้ในบันทึกแจ้งข้อกล่าวหา

ทั้ง 4 คน ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา สำหรับสิรภพและชูเกียรติจะให้การเป็นหนังสือภายใน 30 วัน พนักงานสอบสวนนัดหมายส่งตัวทั้งสองพร้อมสำนวนการสอบสวนให้อัยการในวันที่ 13 ม.ค. 2564 ก่อนที่จะปล่อยตัวผู้ต้องหาโดยไม่มีการควบคุมตัว

(อ้างอิง: บันทึกการแจ้งข้อกล่าวหา สน.ลุมพินี ลงวันที่ 18 ธ.ค. 2564 และ https://tlhr2014.com/archives/24202)

• คดีที่ 1 : TLHR64132

• สิรภพ พุ่มพึ่งพุทธ
  นักศึกษา กลุ่ม มศว.คนรุ่นเปลี่ยน และเข้าร่วมเคลื่อนไหวกลุ่ม "ราษฎร"