สรุปความสำคัญ
8 เม.ย. 2564 มีชัย พ่อค้าชาวจันทบุรี เข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกของ สภ.บางแก้ว จ.สมุทรปราการ ในฐานความผิดหมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 โดยถูกกล่าวหาว่า ใช้เฟซบุ๊กส่วนตัว โพสต์ข้อความแสดงความเห็นและตั้งคำถามต่อการใช้ภาษีประชาชนของกษัตริย์ไทย รวม 2 ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวตั้งแต่เมื่อวันที่ 26 พ.ค. 2563 โดยมีศิวพันธุ์ มานิตย์กุล ประชาชนที่พักอยู่ใน จ.สมุทรปราการ เข้าแจ้งความ หลังเห็นข้อความดังกล่าวในเฟซบุ๊ก
กรณีนี้เป็นอีกกรณีที่แสดงให้เห็นปัญหาสำคัญของมาตรา 112 การเปิดให้ใครก็ได้แจ้งความกล่าวโทษผู้อื่นในข้อหานี้โดยไม่จำเป็นต้องเป็นผู้เสียหาย เปิดช่องให้กลุ่มคนที่เห็นต่างใช้กฎหมายดังกล่าวสร้างภาระทางคดีให้อีกฝ่าย โดยเฉพาะในกรณีที่ผู้กล่าวหาเดินทางไปแจ้งความในจังหวัดที่ไม่ใช่จังหวัดที่ผู้ถูกกล่าวหาอยู่อาศัย ทั้งนี้หลังรัฐบาลนำมาตรา 112 กลับมาบังคับใช้กับประชาชนที่แสดงออกทางการเมืองในทางต่อต้านรัฐบาล มีคดีที่ประชาชนทั่วไปเป็นผู้ไปร้องทุกข์กล่าวโทษจำนวนมาก และส่วนมากเป็นประชาชนกลุ่มปกป้องสถาบันกษัตริย์
กรณีนี้เป็นอีกกรณีที่แสดงให้เห็นปัญหาสำคัญของมาตรา 112 การเปิดให้ใครก็ได้แจ้งความกล่าวโทษผู้อื่นในข้อหานี้โดยไม่จำเป็นต้องเป็นผู้เสียหาย เปิดช่องให้กลุ่มคนที่เห็นต่างใช้กฎหมายดังกล่าวสร้างภาระทางคดีให้อีกฝ่าย โดยเฉพาะในกรณีที่ผู้กล่าวหาเดินทางไปแจ้งความในจังหวัดที่ไม่ใช่จังหวัดที่ผู้ถูกกล่าวหาอยู่อาศัย ทั้งนี้หลังรัฐบาลนำมาตรา 112 กลับมาบังคับใช้กับประชาชนที่แสดงออกทางการเมืองในทางต่อต้านรัฐบาล มีคดีที่ประชาชนทั่วไปเป็นผู้ไปร้องทุกข์กล่าวโทษจำนวนมาก และส่วนมากเป็นประชาชนกลุ่มปกป้องสถาบันกษัตริย์
ข้อมูลการละเมิด
ครั้งที่ : 1
วันที่ : 08-04-2021
-
ผู้ถูกละเมิด
- มีชัย (สงวนนามสกุล)
-
ประเด็นการละเมิดสิทธิ
- เสรีภาพการแสดงออก
- สิทธิในกระบวนการยุติธรรม
-
รูปแบบการละเมิดสิทธิ
- การเรียกรายงานตัว / ปรับทัศนคติ
-
ผู้ละเมิด
- ตำรวจ
พฤติการณ์การละเมิด
8 เม.ย. 2564 มีชัยเดินทางจากบ้านพักในจังหวัดจันทบุรี ตั้งแต่ 04.00 น. เพื่อเข้ารับทราบข้อกล่าวหาที่ สภ.บางแก้ว จ.สมุทรปราการ ตามหมายเรียก ก่อนหน้านี้เมื่อปลายปี 2563 มีชัยเคยได้รับหมายเรียกพยานจาก สภ.บางแก้ว ให้เดินทางไปให้ปากคำเกี่ยวกับข้อความที่เข้าข่ายการดูหมิ่น อาฆาตมาดร้ายกษัตริย์ แต่เขาไม่ได้เดินทางไป เนื่องจากพักอาศัยอยู่จังหวัดจันทบุรี และมีภาระทางครอบครัวที่ต้องจัดแจงดูแล
กระทั่งเมื่อวันที่ 31 มี.ค. 2564 มีชัยได้รับหมายเรียกอีกครั้งจากผู้ใหญ่บ้าน แต่ครั้งนี้เป็นหมายเรียกผู้ต้องหา ให้เขาเดินทางไปรับทราบข้อหาหมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และข้อหาตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ หมายเรียกดังกล่าวลงวันที่ 24 มี.ค. 2564 ระบุว่ามีศิวพันธุ์ มานิตย์กุล เป็นผู้กล่าวหาในคดีนี้
เวลา 10.00 น. พ.ต.ต.สมเกียรติ นาเจริญ สารวัตร (สอบสวน) สภ.บางแก้ว แจ้งข้อกล่าวหามีชัย โดยบรรยายพฤติการณ์แห่งคดีโดยสรุปว่า เมื่อวันที่ 26 พ.ค. 2563 เวลาประมาณ 17.00 น. ขณะที่ศิวพันธุ์ มานิตย์กุล กำลังทำงานอยู่ที่บ้านพักในจังหวัดสมุทรปราการ ได้เปิดเฟซบุ๊ก พบรูปภาพและข้อความที่เข้าข่ายหมิ่นประมาท ดูหมิ่น แสดงความอาฆาตมาดร้ายรัชกาลที่ 10 จากบัญชีเฟซบุ๊ก 6 บัญชี จึงได้แคปหน้าจอ และนําหลักฐานมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.บางแก้ว
พนักงานสอบสวนจึงแจ้ง 2 ข้อหา แก่มีชัย ได้แก่ ข้อหา “หมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ “นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร” ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ พ.ศ. 2560 มาตรา 14 (3) โดยไม่ได้ระบุว่า ข้อความที่มีชัยเผยแพร่ลงเฟซบุ๊กข้อความใดที่เข้าข่ายองค์ประกอบความผิดมาตรา 112 มีเพียงแค่รายชื่อของผู้ใช้เฟซบุ๊กต่างๆ ที่ศิวพันธุ์นำมาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนเท่านั้น
หลังทนายความสอบถามถึงข้อความที่มีชัยถูกกล่าวหา พนักงานสอบสวนได้ให้ผู้ต้องหาดูข้อความจำนวน 3 ข้อความ เป็นข้อความวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการเสียภาษีของประชาชนให้สถาบันกษัตริย์ แต่ตำรวจไม่ได้ระบุข้อความดังกล่าวลงในบันทึกการแจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาทราบแต่อย่างใด
มีชัยให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และจะยื่นคำให้การเพิ่มเติมเป็นหนังสือภายใน 30 วัน พนักงานสอบสวนได้แจ้งว่า จะนำตัวมีชัยไปขออำนาจศาลจังหวัดสมุทรปราการฝากขัง แม้ว่ามีชัยได้มาปรากฏตัวต่อหน้าพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกแล้ว
จากนั้นในช่วงบ่าย พนักงานสอบสวนได้ยื่นคำร้องขอฝากขังผู้ต้องหา โดยให้มีชัยขับรถยนต์ส่วนตัวไปที่ศาลเอง ต่อมา ศาลอนุญาตให้ฝากขังและให้ประกันตัวระหว่างสอบสวน โดยให้วางเงินสดจำนวน 150,000 บาท เป็นหลักประกัน มีชัยจึงได้รับการปล่อยตัวและเดินทางกลับจันทบุรีในวันเดียวกันนั้น
นอกจากมีชัย ยังมีกรณีของ “ธีรวัช” และคาดว่ามีผู้ใช้เฟซบุ๊กอีก 5 ราย ถูกศิวพันธุ์ มานิตย์กุล แจ้งความกล่าวโทษให้ดำเนินคดีมาตรา 112
จากการติดตามของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ในจำนวนคดีมาตรา 112 ที่เริ่มกลับมาบังคับใช้ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2563 มีคดีที่ประชาชนทั่วไปเป็นผู้ไปร้องทุกข์กล่าวโทษจำนวนมาก โดยส่วนมากเป็นประชาชนกลุ่มที่เคลื่อนไหวทางการเมืองในลักษณะปกป้องสถาบันกษัตริย์
(อ้างอิง: บันทึกการแจ้งข้อกล่าวหา สภ.บางแก้ว ลงวันที่ 8 เม.ย. 2564 และ https://tlhr2014.com/archives/28129)
กระทั่งเมื่อวันที่ 31 มี.ค. 2564 มีชัยได้รับหมายเรียกอีกครั้งจากผู้ใหญ่บ้าน แต่ครั้งนี้เป็นหมายเรียกผู้ต้องหา ให้เขาเดินทางไปรับทราบข้อหาหมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และข้อหาตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ หมายเรียกดังกล่าวลงวันที่ 24 มี.ค. 2564 ระบุว่ามีศิวพันธุ์ มานิตย์กุล เป็นผู้กล่าวหาในคดีนี้
เวลา 10.00 น. พ.ต.ต.สมเกียรติ นาเจริญ สารวัตร (สอบสวน) สภ.บางแก้ว แจ้งข้อกล่าวหามีชัย โดยบรรยายพฤติการณ์แห่งคดีโดยสรุปว่า เมื่อวันที่ 26 พ.ค. 2563 เวลาประมาณ 17.00 น. ขณะที่ศิวพันธุ์ มานิตย์กุล กำลังทำงานอยู่ที่บ้านพักในจังหวัดสมุทรปราการ ได้เปิดเฟซบุ๊ก พบรูปภาพและข้อความที่เข้าข่ายหมิ่นประมาท ดูหมิ่น แสดงความอาฆาตมาดร้ายรัชกาลที่ 10 จากบัญชีเฟซบุ๊ก 6 บัญชี จึงได้แคปหน้าจอ และนําหลักฐานมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.บางแก้ว
พนักงานสอบสวนจึงแจ้ง 2 ข้อหา แก่มีชัย ได้แก่ ข้อหา “หมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ “นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร” ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ พ.ศ. 2560 มาตรา 14 (3) โดยไม่ได้ระบุว่า ข้อความที่มีชัยเผยแพร่ลงเฟซบุ๊กข้อความใดที่เข้าข่ายองค์ประกอบความผิดมาตรา 112 มีเพียงแค่รายชื่อของผู้ใช้เฟซบุ๊กต่างๆ ที่ศิวพันธุ์นำมาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนเท่านั้น
หลังทนายความสอบถามถึงข้อความที่มีชัยถูกกล่าวหา พนักงานสอบสวนได้ให้ผู้ต้องหาดูข้อความจำนวน 3 ข้อความ เป็นข้อความวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการเสียภาษีของประชาชนให้สถาบันกษัตริย์ แต่ตำรวจไม่ได้ระบุข้อความดังกล่าวลงในบันทึกการแจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาทราบแต่อย่างใด
มีชัยให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และจะยื่นคำให้การเพิ่มเติมเป็นหนังสือภายใน 30 วัน พนักงานสอบสวนได้แจ้งว่า จะนำตัวมีชัยไปขออำนาจศาลจังหวัดสมุทรปราการฝากขัง แม้ว่ามีชัยได้มาปรากฏตัวต่อหน้าพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกแล้ว
จากนั้นในช่วงบ่าย พนักงานสอบสวนได้ยื่นคำร้องขอฝากขังผู้ต้องหา โดยให้มีชัยขับรถยนต์ส่วนตัวไปที่ศาลเอง ต่อมา ศาลอนุญาตให้ฝากขังและให้ประกันตัวระหว่างสอบสวน โดยให้วางเงินสดจำนวน 150,000 บาท เป็นหลักประกัน มีชัยจึงได้รับการปล่อยตัวและเดินทางกลับจันทบุรีในวันเดียวกันนั้น
นอกจากมีชัย ยังมีกรณีของ “ธีรวัช” และคาดว่ามีผู้ใช้เฟซบุ๊กอีก 5 ราย ถูกศิวพันธุ์ มานิตย์กุล แจ้งความกล่าวโทษให้ดำเนินคดีมาตรา 112
จากการติดตามของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ในจำนวนคดีมาตรา 112 ที่เริ่มกลับมาบังคับใช้ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2563 มีคดีที่ประชาชนทั่วไปเป็นผู้ไปร้องทุกข์กล่าวโทษจำนวนมาก โดยส่วนมากเป็นประชาชนกลุ่มที่เคลื่อนไหวทางการเมืองในลักษณะปกป้องสถาบันกษัตริย์
(อ้างอิง: บันทึกการแจ้งข้อกล่าวหา สภ.บางแก้ว ลงวันที่ 8 เม.ย. 2564 และ https://tlhr2014.com/archives/28129)
List คดี
แหล่งที่มา : กรณีที่ศูนย์ทนายความฯ ติดตามสัมภาษณ์