ผู้ถูกดำเนินคดี
ข้อหา
หมายเลขคดี
  • พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14
  • Facebook
  • หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ (มาตรา 112)

ผู้กล่าวหา
  • แน่งน้อย อัศวกิตติกร ประธาน ศชอ. (ประชาชน)
ผู้ถูกดำเนินคดี

ข้อหา

  • พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14
  • Facebook
  • หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ (มาตรา 112)

หมายเลขคดี

ผู้กล่าวหา
  • แน่งน้อย อัศวกิตติกร ประธาน ศชอ.

ความสำคัญของคดี

“บีม” อรรฆพล (สงวนนามสกุล) กราฟิกดีไซเนอร์อิสระ วัย 25 ปี ถูกดำเนินคดีในข้อหา "หมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ" และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) โดยถูกกล่าวหาว่า โพสต์เฟซบุ๊กพาดพิงพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 9 หลังแน่งน้อย อัศวกิตติกร ประธานศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมายผู้ถูกล่วงละเมิด bully ทางสังคมออนไลน์ หรือ “ศชอ.” เข้าแจ้งความต่อ บก.ปอท.

กรณีดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาของประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่มีโทษจำคุกสูงสุดถึง 15 ปี แต่กลับเปิดโอกาสให้บุคคลใดก็ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษแม้ไม่ได้เป็นผู้เสียหาย ทำให้ข้อกล่าวหาดังกล่าวถูกใช้เป็นเครื่องมือในการกลั่นแกล้งบุคคลอื่น อีกทั้งยังสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาการตีความขยายความคุ้มครองไปถึงอดีตกษัตริย์ ซึ่งขัดต่อหลักกฎหมายอาญาที่ต้องตีความอย่างเคร่งครัดเนื่องจากมีโทษทางอาญาซึ่งกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน

พฤติการณ์ของคดีตามเอกสารคดี

บันทึกแจ้งข้อกล่าวหาบรรยายพฤติการณ์คดีมีเนื้อหาโดยสรุปว่า

เมื่อวันที่ 8 ม.ค. 2564 เวลา 22.42 น. ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ข้อความว่า “พิมรี่พายขึ้นดอยครั้งเดียวเด็กมีไฟฟ้าใช้ แต่บางคนขึ้นดอยมา 70 ปี…//ไม่พูดดีกว่า” รวมถึงได้มีการแสดงความคิดเห็นในโพสต์ดังกล่าวอีกด้วยว่า “สงสัยจะมองไม่เห็น มีตาเดียว”

โพสต์และข้อความดังกล่าว หมายถึง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ที่ได้ครองราชย์มาจนครบ 70 ปี อันเป็นการหมิ่นประมาท และดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ ทำให้พระมหากษัตริย์เสื่อมเสียพระเกียรติ เสียชื่อเสียง ทรงถูกดูหมิ่นและถูกเกลียดชัง และเป็นการเผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่เป็นข้อความที่มีเนื้อหาเป็นการกล่าวหา ใส่ความรัชกาลที่ 9 ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อพระมหากษัตริย์และสถาบันพระมหากษัตริย์ และมีเจตนามุ่งหมายเพื่อให้ประชาชนที่เข้ามาอ่าน เกิดความรู้สึกดูหมิ่น เกลียดชังพระมหากษัตริย์และสถาบันพระมหากษัตริย์

(อ้างอิง: บันทึกแจ้งข้อกล่าวหา บก.ปอท. ลงวันที่ 31 ส.ค. 2564)

ความคืบหน้าของคดี

  • เวลา 11.00 น. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) อรรฆพล (สงวนนามสกุล) หรือ “บีม” กราฟิกดีไซเนอร์อิสระ วัย 25 ปี พร้อมทนายความและบุคคลผู้ไว้วางใจ เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกในข้อหา “หมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และข้อหาตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3)

    คดีนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 11 ม.ค. 2564 แน่งน้อย อัศวกิตติกร ประธานศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมายผู้ถูกล่วงละเมิด bully ทางสังคมออนไลน์ หรือ “ศชอ.” ได้มาพบพนักงานสอบสวนเพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดําเนินคดีผู้ใช้เฟซบุ๊กที่โพสต์ข้อความพาดพิงพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 9 ก่อนที่อรรฆพลจะเพิ่งได้รับหมายเรียกลงวันที่ 23 ส.ค. 2564 ให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหา

    พ.ต.ต.หญิงสุธัญดา เอกเอก สารวัตร (สอบสวน) กก.7 บก.ปอท. และ ร.ต.ท.นัฐพล ทะเลน้อย รองสารวัตร (สอบสวน) ปรก.กก.7 บก.ปอท. แจ้งข้อกล่าวหาและพฤติการณ์คดีแก่อรรฆพล เนื้อหาโดยสรุปว่า เมื่อวันที่ 11 ม.ค. 2564 แน่งน้อย อัศวกิตติกร ผู้กล่าวหา ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนให้ดําเนินคดีกับผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง

    สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 8 ม.ค. 2564 เวลา 22.42 น. บัญชีเฟซบุ๊กดังกล่าวได้โพสต์ข้อความว่า “พิมรี่พายขึ้นดอยครั้งเดียวเด็กมีไฟฟ้าใช้ แต่บางคนขึ้นดอยมา 70 ปี…//ไม่พูดดีกว่า” รวมถึงได้มีการแสดงความคิดเห็นในโพสต์ดังกล่าวอีกด้วยว่า “สงสัยจะมองไม่เห็น มีตาเดียว”

    ผู้กล่าวหาอ้างว่า โพสต์และข้อความดังกล่าว เป็นการหมิ่นประมาท และดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ ทำให้พระมหากษัตริย์เสื่อมเสียพระเกียรติ เสียชื่อเสียง ทรงถูกดูหมิ่นและถูกเกลียดชัง ซึ่งผู้กล่าวหาได้อนุมานว่าโพสต์กับข้อความดังกล่าวหมายถึง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ที่ได้ครองราชย์มาจนครบ 70 ปี

    ยิ่งไปกว่านั้น ผู้กล่าวหาได้ตรวจสอบข้อความและข้อมูลในไทม์ไลน์ของบัญชีเฟซบุ๊กดังกล่าว ก็พบว่ามีการโพสต์ข้อความที่พาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่เป็นนิจ แต่ใช้เนื้อหาข้อความที่เลี่ยงไม่ได้กล่าวถึงโดยตรง ผู้กล่าวหาจึงมากล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนให้ดําเนินคดีตามกฎหมาย โดยเห็นว่าการกระทําดังกล่าว เป็นการเผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่เป็นข้อความที่มีเนื้อหาเป็นการกล่าวหา ใส่ความรัชกาลที่ 9 ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อพระมหากษัตริย์และสถาบันพระมหากษัตริย์ และมีเจตนามุ่งหมายเพื่อให้ประชาชนที่เข้ามาอ่าน เกิดความรู้สึกดูหมิ่น เกลียดชังพระมหากษัตริย์และสถาบันพระมหากษัตริย์

    พนักงานสอบสวนระบุว่า จากการสืบสวนสอบสวน น่าเชื่อว่าผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าว คือ อรรฆพล จึงแจ้ง 2 ข้อกล่าวหา ได้แก่ ข้อหา “หมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ” ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคง ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3)

    ด้านอรรฆพลได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และจะให้การเป็นหนังสือเพิ่มเติมภายในวันที่ 30 ก.ย. 2564 โดยได้ลงลายมือชื่อในบันทึกการแจ้งข้อกล่าวหาไว้

    ทั้งนี้ อรรฆพลได้ขอให้พนักงานสอบสวนเรียกแน่งน้อย ผู้กล่าวหามาให้การเพิ่มเติมว่า ข้อความตามที่มากล่าวโทษนั้น มีความหมายอย่างไร และมีข้อความตรงไหนและอย่างไรที่หมิ่นประมาท ดูหมิ่น อาฆาตมาดร้ายต่อองค์พระมหากษัตริย์ฯ และขอให้พนักงานสอบสวนสอบคำให้การแน่งน้อยว่า ข้อความดังกล่าวเป็นภัยต่อความมั่นคง ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) อย่างไร

    หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการ อรรฆพลได้รับการปล่อยตัว โดยไม่ถูกควบคุมตัวไว้

    (อ้างอิง: บันทึกแจ้งข้อกล่าวหา บก.ปอท. ลงวันที่ 31 ส.ค. 64 และ https://tlhr2014.com/archives/34333)

ชั้นสอบสวน

ผู้ถูกดำเนินคดี :
อรรฆพล (สงวนนามสกุล)

การอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว
-

แหล่งที่มา : กรณีที่ศูนย์ทนายความฯ ติดตามสัมภาษณ์