สรุปความสำคัญ

"บอส" ฉัตรมงคล วัลลีย์ อดีตนักกิจกรรม และขณะประกอบอาชีพพนักงานรักษาความปลอดภัยในจังหวัดปทุมธานี ถูกดำเนินคดีในข้อหา “หมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ” และข้อหาตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 หลังนัธทวัฒน์ ชลภักดี แอดมินเพจ "ศรีสุริโยไท" เข้าแจ้งความ กล่าวหาว่า ฉัตรมงคลใช้เฟซบุ๊กส่วนตัวไปคอมเมนต์ข้อความหมิ่นประมาท หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายกษัตริย์ในเพจดังกล่าว หลังฉัตรมงคลเข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียก พนักงานสอบสวนไม่ได้ควบคุมตัวไว้

ฉัตรมงคลเปิดเผยความรู้สึกหลังเข้ารับทราบข้อกล่าวหาว่า “มันตลกดี ข้อหานี้ปล่อยให้ใครก็ได้ไปแจ้งความ ที่ไหนก็ได้ มันเปิดโอกาสมากเกินไป และมาแจ้งกล่าวหาผมไกลมาก ถึงจังหวัดเชียงราย” ซึ่งทำให้ต้องมีค่าใช้จ่ายในการเดินทางและที่พัก ทั้งยังต้องลางานอย่างน้อย 2 วัน เพื่อเดินทางไปตามนัดคดีในแต่ละครั้ง

ข้อมูลการละเมิด

  • ผู้ถูกละเมิด
    • ฉัตรมงคล วัลลีย์
  • ประเด็นการละเมิดสิทธิ
    • เสรีภาพการแสดงออก
    • สิทธิในกระบวนการยุติธรรม
  • รูปแบบการละเมิดสิทธิ
    • การเรียกรายงานตัว / ปรับทัศนคติ
  • ผู้ละเมิด
    • ตำรวจ

พฤติการณ์การละเมิด

1 พ.ย. 2564 เวลา 10.00 น. ที่ สภ.เมืองเชียงราย ฉัตรมงคล วัลลีย์ เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกในข้อหา “หมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ” ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112

ก่อนหน้านี้ฉัตรมงคลได้รับหมายเรียกจาก สภ.เมืองเชียงราย ลงวันที่ 11 ต.ค. 2564 ให้เข้าพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 20 ต.ค. 2564 แต่เขายังไม่สามารถเดินทางไปตามนัดได้ โดยขอเลื่อนการรับทราบข้อกล่าวหาออกไปเป็นในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน เนื่องจากต้องลางานล่วงหน้าอย่างน้อย 2 วัน แต่พนักงานสอบสวนยืนยันให้มาพบในเดือนตุลาคม และได้ออกหมายเรียกผู้ต้องหาครั้งที่ 2 ฉัตรมงคลและทนายความจึงได้ประสานนัดหมายเข้ารับทราบข้อกล่าวหาในวันนี้ โดยเขาต้องเดินทางจากกรุงเทพฯ มาที่จังหวัดเชียงราย ล่วงหน้า 1 วัน

ร.ต.อ.เกียรติพงษ์ ติ๊บมา รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองเชียงราย แจ้งข้อกล่าวหาต่อฉัตรมงคล ระบุว่า เมื่อวันที่ 17 พ.ค. 2564 นัธทวัฒน์ ชลภักดี แอดมินเพจเฟซบุ๊ก ชื่อ “ศรีสุริโยไท” พบว่ามีผู้ใช้เฟซบุ๊กบัญชีชื่อเดียวกับฉัตรมงคล ได้คอมเมนต์ข้อความในเพจ ซึ่งนัธทวัฒน์เห็นว่าเป็นข้อความที่หมิ่นประมาท หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ จึงได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงราย เพื่อให้ดำเนินคดีผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าว

พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาฉัตรมงคลในข้อหา "หมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ" ฉัตรมงคลได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา พนักงานสอบสวนให้ปล่อยตัวไปโดยไม่มีการควบคุมตัวไว้

ฉัตรมงคลเปิดเผยความรู้สึกหลังเข้ารับทราบข้อกล่าวหาว่า เขารู้สึกแปลกใจนิดหน่อย ที่ถูกดำเนินคดี เพราะตอนนี้ก็ไม่ค่อยได้มีบทบาทในการเคลื่อนไหวทางการเมือง และเขาก็อยู่เงียบๆ มาพักใหญ่แล้ว แต่กลับถูกกล่าวหาในข้อหามาตรา 112 ไกลถึงจังหวัดเชียงราย แต่ก็ไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวกับคดีที่เกิดขึ้น พร้อมจะต่อสู้คดีต่อไป ปัญหาสำคัญคือมีการดำเนินคดีในพื้นที่ที่ไกลจากภูมิลำเนาที่เขาอยู่ ทำให้ต้องมีค่าใช้จ่ายในการเดินทางและที่พัก ทั้งยังทำให้เขาต้องลางานอย่างน้อย 2 วัน เพื่อเดินทางมาที่เชียงราย จึงกังวลเรื่องผลกระทบต่อการทำงานที่อาจเกิดขึ้น

ฉัตรมงคลระบุว่า เขาเคยถูกกล่าวหาในคดีชุมนุมคนอยากเลือกตั้ง 2 คดี แต่คดีได้สิ้นสุดไปแล้ว โดยศาลยกฟ้องทั้งหมด ขณะนี้ยังเหลือคดีทำกิจกรรม “ปาไข่-สาดสี” ที่หน้า ม.พัน 4 รอ. เหตุทวงถามการลงโทษทหารล็อกคอผู้ชุมนุม เมื่อวันที่ 28 ก.ย. 2563 ซึ่งเขาเพิ่งถูกจับกุมไปสั่งฟ้องคดีต่อศาลอาญา เมื่อช่วงวันที่ 1 ต.ค. 2564 ซึ่งต้องต่อสู้คดีในชั้นศาลต่อไปอีก

ฉัตรมงคลเคยเข้าร่วมการเคลื่อนไหวของกลุ่มประชาธิปไตยศึกษา ที่นำโดย “จ่านิว” สิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ ในช่วงยุค คสช. และเข้าร่วมการชุมนุมของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งในช่วงปี 2561 ต่อมาเขาระบุว่าได้ลดการเคลื่อนไหวทางการเมืองลง และเน้นประกอบอาชีพเพื่อหารายได้และดูแลครอบครัว โดยเขาทำงานเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัย ในย่านจังหวัดปทุมธานี มาราวเกือบ 1 ปีแล้ว

(อ้างอิง: บันทึกการแจ้งข้อกล่าวหา สภ.เมืองเชียงราย ลงวันที่ 1 พ.ย. 2564 และ https://tlhr2014.com/archives/37257)

ภูมิหลัง

  • ฉัตรมงคล วัลลีย์
    เคยเข้าร่วมการเคลื่อนไหวของกลุ่มประชาธิปไตยศึกษา ที่นำโดย “จ่านิว” สิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ ในช่วงยุค คสช. และเข้าร่วมการชุมนุมของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งในช่วงปี 2561 ต่อมาเขาระบุว่าได้ลดการเคลื่อนไหวทางการเมืองลง และเน้นประกอบอาชีพเพื่อหารายได้และดูแลครอบครัว

    อ่านเพิ่มเติม https://tlhr2014.com/archives/54603

แหล่งที่มา : กรณีที่ศูนย์ทนายความฯ ติดตามสัมภาษณ์