ผู้ถูกดำเนินคดี
ข้อหา
หมายเลขคดี
- ทำให้เสียทรัพย์ (มาตรา 358)
- อื่นๆ (ไต่สวนชันสูตรพลิกศพ, เลิกจ้าง(คดีแรงงาน), แจ้งความเท็จ, ซ่อนเร้นพยานหลักฐาน)
- ทำให้ทรัพย์สินสาธารณะเสียหาย (มาตรา 360)
ดำ อ.1005/2564
ผู้กล่าวหา
- บุญชนะ อาจจำนงค์ ฝ่ายนิติการและการพาณิชย์ อบจ.ขอนแก่น (ฝ่ายปกครอง)
ผู้ถูกดำเนินคดี
ข้อหา
- ทำให้เสียทรัพย์ (มาตรา 358)
- ทำให้ทรัพย์สินสาธารณะเสียหาย (มาตรา 360)
- อื่นๆ (ไต่สวนชันสูตรพลิกศพ, เลิกจ้าง(คดีแรงงาน), แจ้งความเท็จ, ซ่อนเร้นพยานหลักฐาน)
หมายเลขคดี
ดำ อ.1005/2564
ผู้กล่าวหา
- บุญชนะ อาจจำนงค์ ฝ่ายนิติการและการพาณิชย์ อบจ.ขอนแก่น
ความสำคัญของคดี
"บอส" อิศเรษฐ์ เจริญคง นักกิจกรรมและพ่อค้าขายดอกไม้วัย 23 ปี ถูกดำเนินคดีข้อหาวางเพลิง, ทําให้ทรัพย์ที่ใช้มีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ เสียหาย และทําให้เสียทรัพย์ โดยถูกกล่าวหาว่า วางเพลิงพระบรมฉายาลักษณ์ บริเวณบายพาส จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นของ อบจ.ขอนแก่น เมื่อเดือนมีนาคม 2564 ด้วยการปาระเบิดเพลิงใส่ จนเป็นรอยโหว่ขนาดเล็ก 2 จุด มูลค่าความเสียหาย 4,500 บาท หลังเข้ามอบตัวบอสได้รับการประกันตัวทั้งในชั้นฝากขังและพิจารณาคดี โดยวางหลักทรัพย์ประกันเป็นเงินสด 35,000 บาท
คดีนี้และคดีวางเพลิงซุ้มพระบรมฉายาลักษณ์ใน จ.ขอนแก่น ช่วงปี 64 อีก 2 คดี พนักงานสอบสวนและอัยการไม่ได้ตั้งข้อกล่าวหาตามมาตรา 112 เหมือนเช่นคดีที่มีการแสดงออกต่อพระบรมฉายาลักษณ์ในพื้นที่อื่นๆ ซึ่งถือว่า เป็นการตีความมาตรา 112 โดยไม่ขยายขอบเขตให้เกินกว่าตัวบท
คดีนี้และคดีวางเพลิงซุ้มพระบรมฉายาลักษณ์ใน จ.ขอนแก่น ช่วงปี 64 อีก 2 คดี พนักงานสอบสวนและอัยการไม่ได้ตั้งข้อกล่าวหาตามมาตรา 112 เหมือนเช่นคดีที่มีการแสดงออกต่อพระบรมฉายาลักษณ์ในพื้นที่อื่นๆ ซึ่งถือว่า เป็นการตีความมาตรา 112 โดยไม่ขยายขอบเขตให้เกินกว่าตัวบท
พฤติการณ์ของคดีตามเอกสารคดี
พ.ต.ท.วัฒนพงษ์ จันทระ พนักงานอัยการจังหวัดขอนแก่น บรรยายคำฟ้องว่า
เมื่อระหว่างวันที่ 10-11 มี.ค. 2564 เวลาใดไม่ปรากฏชัด จําเลยได้วางเพลิงเผาซุ้มเฉลิมพระเกียรติพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 10 และพระบรมราชินี ขนาดกว้าง 210 เซนติเมตร ยาว 370 เซนติเมตร ราคา 4,500 บาท ตั้งอยู่ริมถนนมิตรภาพตัดกับถนนเลี่ยงเมือง ซึ่งเป็นทรัพย์ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น นิติบุคคลผู้เสียหาย มีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ในการให้ประชาชนที่สัญจรผ่านไปมาได้เคารพสักการะ ด้วยการใช้ขวดบรรจุน้ำมันเชื้อเพลิงสีชา (ขวดระเบิดเพลิง) จุดไฟขว้างใส่ จนเกิดเพลิงลุกไหม้ได้รับความเสียหาย
ท้ายคำฟ้องอัยการแนบภาพพระบรมฉายาลักษณ์ที่เสียหายตามฟ้อง ซึ่งปรากฏรอยไหม้เป็นรอยโหว่ขนาดเล็ก 2 จุด ที่บริเวณด้านล่าง ภาพส่วนอื่นยังอยู่ในสภาพเดิม
(อ้างอิง: คำฟ้อง ศาลจังหวัดขอนแก่น คดีหมายเลขดำที่ อ.1005/2564 ลงวันที่ 20 ธ.ค. 2564)
เมื่อระหว่างวันที่ 10-11 มี.ค. 2564 เวลาใดไม่ปรากฏชัด จําเลยได้วางเพลิงเผาซุ้มเฉลิมพระเกียรติพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 10 และพระบรมราชินี ขนาดกว้าง 210 เซนติเมตร ยาว 370 เซนติเมตร ราคา 4,500 บาท ตั้งอยู่ริมถนนมิตรภาพตัดกับถนนเลี่ยงเมือง ซึ่งเป็นทรัพย์ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น นิติบุคคลผู้เสียหาย มีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ในการให้ประชาชนที่สัญจรผ่านไปมาได้เคารพสักการะ ด้วยการใช้ขวดบรรจุน้ำมันเชื้อเพลิงสีชา (ขวดระเบิดเพลิง) จุดไฟขว้างใส่ จนเกิดเพลิงลุกไหม้ได้รับความเสียหาย
ท้ายคำฟ้องอัยการแนบภาพพระบรมฉายาลักษณ์ที่เสียหายตามฟ้อง ซึ่งปรากฏรอยไหม้เป็นรอยโหว่ขนาดเล็ก 2 จุด ที่บริเวณด้านล่าง ภาพส่วนอื่นยังอยู่ในสภาพเดิม
(อ้างอิง: คำฟ้อง ศาลจังหวัดขอนแก่น คดีหมายเลขดำที่ อ.1005/2564 ลงวันที่ 20 ธ.ค. 2564)
ความคืบหน้าของคดี
-
วันที่: 03-11-2021นัด: รับทราบข้อกล่าวหาเวลา 09.40 น. "บอส" อิศเรษฐ์ เจริญคง นักกิจกรรมและพ่อค้าขายดอกไม้ธูปเทียนวัย 23 ปี พร้อมทนายความเครือข่ายของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เดินทางไปที่ สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อเข้าแสดงตัวตามหมายจับจากเหตุวางเพลิงซุ้มเฉลิมพระเกียรติ ร.10 บริเวณถนนบายพาส ต.ศิลา อ.เมืองขอนแก่น เมื่อเดือนมีนาคม 2564
เมื่อเดินทางไปถึงห้องสืบสวน ร.ต.ท. อัษฎาวุธ อัศวพิทักษ์สกุล รองสารวัตรสืบสวน ได้แสดงหมายจับให้อิศเรษฐ์ดู เป็นหมายจับของศาลจังหวัดขอนแก่น ที่ จ.92/2564 ลงวันที่ 20 พ.ค. 2564 ระบุว่า อิศเรษฐ์ต้องหาว่ากระทําความผิดฐาน “ทําให้เสียหาย ทําลาย ทําให้เสื่อมค่า ซึ่งทรัพย์ที่ใช้ มีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์, ทําให้เสียทรัพย์, วางเพลิงเผาทรัพย์ของผู้อื่น” อิศเรษฐ์รับว่าเป็นบุคคลเดียวกับบุคคลตามหมายจับดังกล่าว ตำรวจจึงให้ลงลายมือชื่อ และถ่ายภาพประกอบการจับกุม
ก่อนจะควบคุมตัวอิศเรษฐ์ไปที่ห้องสอบสวน พ.ต.ท.อนุชิต ผดุงชาติ พนักงานสอบสวนแจ้งพฤติการณ์คดีที่กล่าวหาว่า เมื่อคืนวันที่ 10 มี.ค. 2564 ต่อเนื่องวันที่ 11 มี.ค. 2564 เวลา 10.30 น. ผู้ต้องหาได้วางเพลิงเผาทรัพย์ ซุ้มเฉลิมพระเกียรติภาพพระบรมฉายาลักษณ์ฯ ที่ติดตั้งไว้ตามถนนมิตรภาพตัดถนนทางเลี่ยงเมืองศิลา เพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดี โดยจัดทําซุ้มไว้เพื่อให้ประชาชนผ่านสัญจร และผู้เดินทางมาเยือนเคารพสักการะเกิดความมีสิริมงคล อันมีไว้เพื่อสาธารณะ
จนได้รับความเสียหายเป็นรอยถูกไฟไหม้ 2 จุด เส้นผ่าศูนย์กลาง 10 เซนติเมตร กับ 30 เซนติเมตร และพบรอยเขม่าไฟไหม้ที่ฐานซุ้ม และร่องรอยไฟไหม้หญ้าใต้ฐานซุ้ม คิดเป็นมูลค่า 4,500 บาท
พนักงานสอบสวนแจ้งว่าการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดฐาน ทําให้เสียหาย ทําลาย ทําให้เสื่อมค่า ซึ่งทรัพย์ที่ใช้ มีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 360 และทําให้เสียทรัพย์วางเพลิงเผาทรัพย์ของผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 217
อย่างไรก็ดีอิศเรษฐ์ให้การปฏิเสธ และจะให้การในชั้นศาลเท่านั้น เมื่อพนักงานสอบสวนสอบปากคำต่อ อิศเรษฐ์ ตอบเพียงว่าเขาไม่เคยต้องโทษคดีอาญาใดมาก่อน และย้ำว่าจะให้การในชั้นศาลเพียงอย่างเดียว
หลังจากนั้นพนักงานสอบสวนนำอิศเรษฐ์ไปพิมพ์ลายนิ้วมือ ก่อนจะควบคุมตัวไปศาลจังหวัดขอนแก่นเพื่อยื่นคำร้องขอฝากขัง ระบุเหตุผลว่า การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบสวนปากคําพยานอีก 3 ปาก และรอผลการตรวจลายพิมพ์นิ้วมือผู้ต้องหา จึงขอฝากขังผู้ต้องหาระหว่างการสอบสวน มีกําหนด 12 วัน ถึงวันที่ 7 พ.ย. 2564 พร้อมทั้งคัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราว
พัฒนะ ศรีใหญ่ ทนายความเครือข่ายศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวระบุว่า ผู้ต้องหาให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยการมาแสดงตนต่อเจ้าหน้าที่แต่โดยดี มิได้ต่อสู้ขัดขวาง จึงไม่มีพฤติการณ์หลบหนีใดๆ มีภูมิลำเนาเป็นหลักแหล่งแน่นอน และผู้ต้องหาไม่ได้เป็นผู้มีอิทธิพลหรือมีความสามารถที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐานได้ หากได้รับการปล่อยชั่วคราว ย่อมไม่อาจก่อความเสียหายต่อการดำเนินคดีได้อย่างแน่นอน อีกทั้งผู้ต้องหาไม่เคยมีประวัติต้องโทษคดีอาญาใดๆ มาก่อน จึงไม่อาจไปก่ออันตรายประการอื่นได้
จึบขอให้ศาลใช้ดุลพินิจพิจารณาคำร้องโดยยึดถือหลักการสันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหาหรือจำเลยไม่มีความผิด และก่อนมีคำพิพากษาอันถึงที่สุดแสดงว่าบุคคลใดได้กระทำความผิด จะปฏิบัติต่อบุคคลนั้นเสมือนเป็นผู้กระทำความผิดมิได้ ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 มาตรา 29 และเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและไม่กระทบเสรีภาพของผู้ต้องหา
นอกจากนี้ผู้ต้องหาประกอบอาชีพค้าขายดอกไม้ ธูปเทียน และพวงมาลัย อันเป็นการประกอบอาชีพโดยสุจริต เพื่อหารายได้มาแบ่งเบาภาระครอบครัว การถูกคุมขังไว้จะส่งผลกระทบ ทำให้ผู้ต้องหาและครอบครัวได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างยิ่ง
ก่อนที่ศาลจังหวัดขอนแก่นจะมีคำสั่งให้ประกันตัวโดยใช้หลักทรัพย์วงเงิน 35,000 บาท หากผิดสัญญาประกันจะถูกปรับ 70,000 บาท และนัดให้รายงานตัวทางโทรศัพท์ในวันที่ 15 พ.ย. 2564 หลังทนายความใช้เงินจากกองทุนราษฎรประสงค์วางเป็นหลักประกัน อิศเรษฐ์ได้รับการปล่อยตัวที่ห้องควบคุมของศาลจังหวัดขอนแก่น ในเวลาประมาณ 11.45 น.
สำหรับอิศเรษฐ์ ปัจจุบันอายุ 23 ปี อาศัยอยู่กับครอบครัวโดยเปิดร้านขายดอกไม้ธูปเทียน ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งของตำบลศิลา หลังเรียนจบ ม.6 จาก กศน. ก็ช่วยที่บ้านค้าขายมาตลอด กระทั่งช่วง 2 ปีก่อนหน้านี้รายได้ลดน้อยลง จึงทำให้ออกมาเคลื่อนไหวเพื่อให้รัฐบาลแก้ปัญหาเศรษฐกิจ นอกจากนั้นอิศเรษฐ์ยังไม่เห็นด้วยกับวิธีการสืบทอดอำนาจของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ไม่เปิดโอกาสให้พรรคการเมืองอื่นๆ เข้ามาบริหารประเทศได้
เมื่อเว้นว่างจากการทำงานอิศเรษฐ์ จึงเข้าร่วมกิจกรรมทางการเมืองกับกลุ่มขอนแก่นพอกันทีเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลหยุดคุกคามประชาชนที่ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมือง ให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ รวมถึงยุบสภาเพื่อเปิดทางให้มีการเลือกตั้งใหม่ โดยหลักๆ เขาทำหน้าที่การ์ดรักษาความปลอดภัยให้กับผู้เข้าชุมนุม
ก่อนหน้านี้อิศเรษฐ์เคยถูกดำเนินคดีจากการแสดงออกทางการเมือง 3 คดี ข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ 2 คดี และคดีที่ถูกกล่าวหาว่า ร่วมกันต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่โดยใช้กําลังประทุษร้าย และทำร้ายร่างกายผู้อื่น จากเหตุการณ์ที่ พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบัติ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 (รอง ผบช.ภ.4) เข้าปิดลำโพงและแย่งไมค์ขณะ “ราษฎรขอนแก่น” จัดกิจกรรมหน้าศาลากลางจังหวัดขอนแก่นรับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ซึ่งลงพื้นที่จังหวัดขอนแก่น คดีทั้งหมดยังอยู่ในชั้นอัยการ
(อ้างอิง: บันทึกการจับกุม สภ.เมืองขอนแก่น และคำร้องขอฝากขังผู้ต้องหาครั้งที่ 1 ศาลจังหวัดขอนแก่น ลงวันที่ 3 พ.ย. 2564 และ https://tlhr2014.com/archives/37422) -
วันที่: 20-12-2021นัด: ยื่นฟ้องพ.ต.ท.วัฒนพงษ์ จันทระ พนักงานอัยการจังหวัดขอนแก่น ยื่นฟ้องอิศเรษฐ์ต่อศาลจังหวัดขอนแก่นในฐานความผิด วางเพลิงเผาทรัพย์ของผู้อื่น, ทําให้เสียทรัพย์ และทําให้เสียหาย ทําลาย ทําให้เสื่อมค่า ซึ่งทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 217, 358, 360
ท้ายคำฟ้องอัยการแนบภาพพระบรมฉายาลักษณ์ที่เสียหายตามฟ้อง ซึ่งปรากฏรอยไหม้เป็นรอยโหว่ขนาดเล็ก 2 จุด ที่บริเวณด้านล่าง ภาพส่วนอื่นยังอยู่ในสภาพเดิม
ทั้งนี้ อัยการไม่ได้คัดค้านการปล่อยชั่วคราวระหว่างพิจารณาคดี โดยขอให้อยู่ในดุลพินิจของศาล
(อ้างอิง: คำฟ้อง ศาลจังหวัดขอนแก่น คดีหมายเลขดำที่ อ.1005/2564 ลงวันที่ 20 ธ.ค. 2564 และ https://tlhr2014.com/archives/39110)
-
วันที่: 21-12-2021นัด: รายงานตัวต่อศาลที่ศาลจังหวัดขอนแก่น อิศเรษฐ์มีนัดรายงานตัวตามสัญญาประกันเป็นครั้งที่ 4 หลังครบฝากขังครั้งที่ 4 เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมา ก่อนทราบว่า พ.ต.ท.วัฒนพงษ์ จันทระ พนักงานอัยการจังหวัดขอนแก่น ยื่นฟ้องคดีต่อศาลจังหวัดขอนแก่นแล้ว
พัฒนะ ศรีใหญ่ ทนายจำเลยจึงยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวอิศเรษฐ์ระหว่างพิจารณาคดี โดยขอใช้หลักประกันและสัญญาประกันเดิมในชั้นสอบสวน ซึ่งได้วางเงินสดจากกองทุนราษฎรประสงค์จำนวน 35,000 บาท ไว้เป็นหลักประกัน และมีเงื่อนไขหากผิดสัญญาประกันจะถูกปรับ 70,000 บาท ระหว่างรอกระบวนการคุ้มครองสิทธิและให้ประกันตัวของศาล อิศเรษฐ์ถูกตำรวจนำตัวไปคุมขังในห้องขังใต้ถุนศาล
ประมาณ 14.00 น. ศาลวีดิโอคอนเฟอเรนซ์จากห้องเวรชี้สอบถามคำให้การเบื้องต้น ซึ่งอิศเรษฐ์ให้การปฏิเสธ ศาลนัดคุ้มครองสิทธิและสอบคำให้การอีกครั้งในวันที่ 15 ก.พ. 2565 จากนั้นมีคำสั่งให้ปล่อยตัวชั่วคราวโดยใช้หลักประกันและสัญญาประกันเดิมในชั้นสอบสวนตามที่ทนายจำเลยยื่นคำร้อง โดยอิศเรษฐ์ได้รับการปล่อยตัวจากห้องขังใต้ถุนศาลราว 14.50 น. หลังถูกขังรอกระบวนการของศาลราว 5 ชั่วโมง
คดีนี้นับเป็นคดีวางเพลิงพระบรมฉายาลักษณ์ที่อัยการยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดขอนแก่นเป็นคดีที่ 3 ในช่วง 2 เดือนนี้ ก่อนหน้านี้ในเดือนพฤศจิกายน เจมส์ (นามสมมติ) และบอส (นามสมมติ) 2 นักศึกษาคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ถูกฟ้องฐานร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ของผู้อื่น โดยถูกกล่าวหาว่าร่วมกันวางเพลิงซุ้มเฉลิมพระเกียรติพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 10 ของมหาวิทยาลัยขอนแก่น ราคา 149,800 บาท
รวมทั้ง ‘เทพ’ นักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคขอนแก่น ถูกฟ้องฐานวางเพลิงเผาทรัพย์ของผู้อื่น และทําให้เสียทรัพย์ อัยการกล่าวหาว่าวางเพลิงพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 10 แล้วเพลิงได้ลามไปติดบางส่วนของพระบรมฉายาลักษณ์อีก 2 ภาพ ซึ่งเป็นทรัพย์สินของวิทยาลัยเทคนิคขอนแก่น ราคาภาพละ 40,000 บาท รวมราคาทรัพย์ที่เสียหาย 120,000 บาท
หากเปรียบเทียบกับคดีวางเพลิงพระบรมฉายาลักษณ์ในพื้นที่อื่นๆ มีความน่าสนใจว่า คดีที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ทั้งพนักงานสอบสวนและอัยการตั้งข้อหาเพียง "วางเพลิงเผาทรัพย์" และ "ทำให้เสียทรัพย์" หรือ “ทําให้ทรัพย์สาธารณะเสียหาย” ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่น่าจะตรงกับรูปแบบการกระทำความผิดที่สุด ไม่ได้ตั้งข้อกล่าวหาตามมาตรา 112 เช่นในพื้นที่อื่นๆ ซึ่งเป็นการตีความมาตรา 112 ขยายขอบเขตออกจนเกินไป (ดูเพิ่มเติมรายงาน iLaw ปรากฏการณ์การใช้มาตรา 112 ต่อการเผา - ทำลาย ซุ้มเฉลิมพระเกียรติ)
ทั้งนี้ ความผิดฐานวางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น มีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน – 7 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000 – 140,000 บาท ส่วนฐานทำให้เสียทรัพย์ มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และฐานทําให้ทรัพย์สาธารณะเสียหาย มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
(อ้างอิง: https://tlhr2014.com/archives/39110)
-
วันที่: 15-02-2022นัด: คุ้มครองสิทธิและสอบคำให้การอิศเรษฐ์, ทนายจำเลย และพีระพงษ์ สงกลาง นิติกร อบจ.ขอนแก่น ตัวแทนผู้เสียหาย มาศาล ตัวแทนผู้เสียหายแถลงยืนยันค่าเสียหายตามที่โจทก์ฟ้อง 4,500 บาท ตามคําร้องขอให้จําเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 44/1 ฉบับวันที่ 28 ม.ค. 2565 ที่ยื่นต่อศาล และหากจำเลยชำระค่าเสียหาย ผู้เสียหายไม่ติดใจเอาความทางแพ่ง ส่วนทางอาญาให้อยู่ในดุลพินิจของศาล
อิศเรษฐ์ให้การรับสารภาพ และได้วางเงินค่าเสียหายจำนวน 4,500 บาท ต่อศาลในวันนี้
คดีเสร็จการพิจารณา ศาลมีคำสั่งให้พนักงานคุมประพฤติสืบเสาะและพินิจจําเลยก่อน โดยให้อิศเรษฐ์ไปพบพนักงานคุมประพฤติเพื่อนัดวันสืบเสาะ นัดฟังรายงานการสืบเสาะและฟังคําพิพากษาในวันที่ 22 มี.ค. 2565 เวลา 09.30 น.
(อ้างอิง: รายงานกระบวนพิจารณา ศาลจังหวัดขอนแก่น คดีหมายเลขดำที่ อ.1005/2564 ลงวันที่ 15 ก.พ. 2565) -
วันที่: 22-03-2022นัด: ฟังรายงานการสืบเสาะและฟังคําพิพากษาศาลอ่านรายงานการสืบเสาะให้อิศเรษฐ์ฟัง มีรายละเอียดโดยสรุปว่า
ประวัติส่วนตัวและครอบครัว ไม่ปรากฏข้อเสียหายร้ายแรง ลักษณะนิสัย มีโลกส่วนตัวสูง มีเพื่อนน้อย ไม่มีลักษณะก้าวร้าว คนใกล้ชิดว่ากล่าวตักเตือนได้ ไม่ปรากฏเหตุทะเลาะวิวาท ช่วยเหลืองานทางบ้านเป็นอย่างดี สูบบุหรี่และกินเหล้าบ้างในบางครั้ง ส่วนใหญ่ใช้ชีวิตกับครอบครัว ไม่ค่อยเที่ยวเตร่นอกบ้าน เคยเข้าร่วมการชุมนุมทางการเมืองหลายครั้ง มีประวัติกระทำผิด 2 ครั้ง ได้แก่ คดีทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน อยู่ในการพิจารณาของอัยการ และคดี พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ คดีอยู่ระหว่างพิจารณาของศาลแขวงขอนแก่น
นิติกร อบจ.ขอนแก่น ตัวแทนผู้เสียหาย ให้ถ้อยคำว่าไม่มีเหตุโกรธเคืองกับจำเลยมาก่อน
จำเลยให้ถ้อยคำว่า วันเกิดเหตุไปออกกำลังกายที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น จากนั้นไปกินข้าวที่คอมเพล็กซ์ เวลาประมาณ 22.00 น. ขี่มอเตอร์ไซค์กลับบ้าน แวะเติมน้ำมันที่ตู้หยอดเหรียญ เห็นขวดเครื่องดื่มวางทิ้งอยู่จึงหยิบมาเติมน้ำมันจนเต็มเพื่อนำไปปาพระบรมฉายาลักษณ์ เนื่องจากไม่พอใจรัฐบาล นำขวดน้ำมันซุกใต้เบาะ และขี่รถไป พบซุ้มที่ริมถนนมิตรภาพ จึงจอดรถ ถอดเสื้อแขนสั้น ฉีกจนขาดนำมาเป็นชนวน ใช้ไฟแช็คจุด
ความเห็นของพนักงานคุมประพฤติ ไม่มีความเห็น ตามแต่ศาลเห็นสมควร
หลังอ่านรายงาน อิศเรษฐ์ไม่คัดค้าน ศาลเลื่อนฟังคำพิพากษาไปเป็นวันที่ 27 เม.ย. 2565 ระบุว่า เนื่องจากได้รับรายงานการสืบเสาะล่าช้า จึงส่งคำพิพากษาให้ภาคตรวจไม่ทัน
(อ้างอิง: รายงานกระบวนพิจารณา ศาลจังหวัดขอนแก่น คดีหมายเลขดำที่ อ.1005/2564 ลงวันที่ 22 มี.ค. 2565) -
วันที่: 27-04-2022นัด: ฟังคำพิพากษาศาลอ่านคำพิพากษา ศาลพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดฐานวางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น และทำให้ทรัพย์สินที่มีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์เสียหาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 217 และ 360 การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานวางเพลิงเผาทรัพย์ อันเป็นกฎหมายที่มีบทลงโทษหนักที่สุด
เมื่อพิจารณารายงานการสืบเสาะและพินิจจําเลยของพนักงานคุมประพฤติแล้ว ไม่ปรากฏว่าจําเลยได้รับโทษจําคุกมาก่อน จําเลยสํานึกผิดโดยให้การรับสารภาพ และพยายามบรรเทาผลร้ายที่เกิดขึ้น โดยชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้ร้องจนครบถ้วน ผู้ร้องไม่ติดใจเอาความจําเลยทั้งในทางแพ่งอีกต่อไป และจําเลยอยู่ในวิสัยที่จะปรับปรุงแก้ไขให้กลับตัวเป็นพลเมืองดีได้ เห็นสมควรให้โอกาสจําเลยกลับตนเป็นพลเมืองดี
จึงให้รอการกําหนดโทษไว้ 2 ปี โดยกําหนดเงื่อนไขคุมความประพฤติให้จําเลยไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 3 ครั้ง เพื่อพนักงานคุมประพฤติจะได้สอบถาม แนะนํา ช่วยเหลือ หรือ ตักเตือนจําเลยตามที่เห็นสมควรเกี่ยวกับเรื่องที่ถูกคุมประพฤติ และให้จําเลยละเว้นการประพฤติใดอันอาจนําไปสู่การกระทําความผิดทํานองนี้อีก กับให้จําเลยทํากิจกรรมบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์ตามที่พนักงานคุมประพฤติเห็นสมควรเป็นเวลา 24 ชั่วโมง
(อ้างอิง: คำพิพากษา ศาลจังหวัดขอนแก่น คดีหมายเลขดำที่ อ.1005/2564 คดีหมายเลขแดงที่ อ.432/2565 ลงวันที่ 27 เม.ย. 2565 และ https://tlhr2014.com/archives/42956)
สถานะ การอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว หรือ ผลการพิพากษา
ชั้นสอบสวน
ผู้ถูกดำเนินคดี :
อิศเรษฐ์ เจริญคง
การอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว
อนุญาต
ศาลชั้นต้น
ผู้ถูกดำเนินคดี :
อิศเรษฐ์ เจริญคง
ชื่อองค์คณะผู้พิพากษา :
- สมเด็จ จุลราช
ผลการพิพากษา
ลงโทษ
การอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว
อนุญาต
พิพากษาวันที่ :
27-04-2022
แหล่งที่มา : กรณีที่ศูนย์ทนายความฯ ติดตามสัมภาษณ์