ผู้ถูกดำเนินคดี
ข้อหา
หมายเลขคดี
  • พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14
  • Facebook
  • หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ (มาตรา 112)
ดำ อ.1605/2566
แดง อ.1904/2566

ผู้กล่าวหา
  • ฤทธิชัย คชฤทธิ์ (ประชาชน)
ผู้ถูกดำเนินคดี

ข้อหา

  • พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14
  • Facebook
  • หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ (มาตรา 112)

หมายเลขคดี

ดำ อ.1605/2566
แดง อ.1904/2566
ผู้กล่าวหา
  • ฤทธิชัย คชฤทธิ์

ความสำคัญของคดี

“พอล” (นามสมมติ) ชาวลพบุรีวัย 30 ปี ถูกดำเนินคดีในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) หลังฤทธิชัย คชฤทธิ์ ประชาชนในจังหวัดกำแพงเพชรเข้าแจ้งความกล่าวหาว่า เขาโพสต์ข้อความวิจารณ์กษัตริย์ในลักษณะหมิ่นประมาทลงเฟซบุ๊กส่วนตัว ช่วงเดือน ก.พ. 2564 จำนวน 3 ข้อความ

กรณีดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาของประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่มีอัตราโทษจำคุกสูงสุดถึง 15 ปี แต่กลับเปิดโอกาสให้บุคคลใดก็ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษแม้ไม่ได้เป็นผู้เสียหาย ทำให้ข้อกล่าวหาดังกล่าวถูกใช้เป็นเครื่องมือในการกลั่นแกล้งบุคคลอื่น

พฤติการณ์ของคดีตามเอกสารคดี

อนุกูล อ่อนศรี พนักงานอัยการจังหวัดกำแพงเพชร บรรยายฟ้องมีใจความโดยสรุปว่า

เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 2564 จำเลยได้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กโพสต์ภาพและข้อความหมิ่นประมาทใส่ความพระมหากษัตริย์ โดยโพสต์ข้อความ “You Fucked wite Wrong Generation”, ข้อความวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับโครงการในพระราชดำริ พร้อมแชร์ภาพประกอบจากกรมประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับโครงการพระราชดำริการพัฒนาแหล่งน้ำ และข้อความมีเนื้อหาตั้งคำถามถึงพระราชจริยวัตรของรัชกาลที่ 10 ทำให้บุคคลทั่วไปที่ได้อ่านเข้าใจว่าหมายถึงพระมหากษัตริย์องค์ปัจจุบัน อันเป็นการกล่าวหาใส่ร้าย จาบจ้วง หมิ่นประมาท ใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สาม ดูหมิ่น และแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์ ทำให้เสื่อมเสียพระเกียรติยศ ชื่อเสียง เกียรติคุณ ถูกดูหมิ่น เกลียดชัง และเป็นการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรตามประมวลกฎหมายอาญา

(อ้างอิง: คำฟ้อง ศาลจังหวัดกำแพงเพชร คดีหมายเลขดำที่ อ.1605/2566 ลงวันที่ 23 ส.ค. 2566)

ความคืบหน้าของคดี

  • ที่สถานีตำรวจภูธรขาณุวรลักษบุรี จังหวัดกำแพงเพชร “พอล” (นามสมมติ) ชาวลพบุรีวัย 30 ปี ได้เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียก ในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ หลังมีบุคคลในจังหวัดกำแพงเพชรไปกล่าวหาเขาไว้ตั้งแต่ต้นปี 2564 และตำรวจเพิ่งมีการออกหมายเรียก โดยพบว่าสาเหตุมาจากการโพสต์ข้อความเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ในเฟซบุ๊กจำนวน 3 ข้อความ เขายืนยันต่อสู้คดีต่อไป

    พอล เป็นชาวจังหวัดลพบุรี แต่ได้เข้าไปทำงานเป็นพนักงานบริษัทเอกชนในกรุงเทพมหานคร ก่อนหน้านี้เขาได้รับหมายเรียกผู้ต้องหาจาก สภ.ขาณุวรลักษบุรี ลงวันที่ 8 ก.พ. 2565 ระบุว่าคดีมี ฤทธิชัย คชฤทธิ์ เป็นผู้กล่าวหา เขาจึงได้ติดต่อนัดหมายพนักงานสอบสวนเพื่อเข้ารับรับทราบข้อกล่าวหา พร้อมกับทนายความ โดยเขาต้องเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปยังอำเภอขาณุวรลักษบุรี

    พ.ต.ท.ผดุงศักดิ์ ปาณะคำ สารวัตร (สอบสวน) สภ.ขาณุวรลักษบุรี ได้เป็นผู้แจ้งข้อกล่าวหาต่อพอล ในข้อหา “หมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ” ตามมาตรา 112 และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคง ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3)

    พฤติการณ์ข้อกล่าวหาระบุว่าเมื่อวันที่ 22 ก.พ. 2564 เวลา 11.00 น. ฤทธิชัย คชฤทธิ์ ได้พบเห็นผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งจากการสอบสวนทราบว่าคือ พอล โพสต์ข้อความจำนวน 3 ข้อความ ซึ่งผู้กล่าวหาเห็นว่าเข้าข่ายหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาดร้ายพระมหากษัตริย์ และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร จึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา

    ทั้งนี้บันทึกแจ้งข้อกล่าวหาไม่ได้ระบุวันที่โพสต์ข้อความทั้งสามเอาไว้ โดยสรุปข้อความแรกมีถ้อยคำว่า “You Fucked wite Wrong Generation” (สะกดตามบันทึกข้อกล่าวหา) พร้อมกับลงภาพถ่ายขณะพระมหากษัตริย์พระราชทานปริญญาบัตร, ข้อความที่สองมีข้อความวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับโครงการในพระราชดำริ พร้อมลงภาพประกอบจากกรมประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับโครงการพระราชดำริการพัฒนาแหล่งน้ำ และข้อความที่สาม มีเนื้อหาตั้งคำถามถึงพระราชจริยวัตรของรัชกาลที่ 10

    หลังทราบข้อกล่าวหา พอลได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยจะขอให้การในชั้นศาลต่อไป จากนั้น ตำรวจได้ให้พิมพ์ลายนิ้วมือไว้ และให้ปล่อยตัวไปผู้ต้องหาไป โดยไม่มีการควบคุมตัวไว้ พร้อมนัดหมายเบื้องต้นในการส่งสำนวนคดีให้กับพนักงานอัยการในวันที่ 1 เม.ย. 2565 แต่อาจมีการเลื่อนนัดออกไป หากสำนวนคดียังไม่แล้วเสร็จ

    พอลเปิดเผยหลังรับทราบข้อกล่าวหาว่าเขาไม่เคยรู้จักกับผู้แจ้งความมาก่อน และไม่ทราบว่าเป็นใคร ทราบแต่ว่าอาศัยอยู่ในจังหวัดกำแพงเพชร จากข้อกล่าวหาเขาคิดว่าเป็นการใช้มาตรา 112 เพื่อกลั่นแกล้งกัน ทำให้ประชาชนที่เห็นต่าง มีภาระทางคดี ทำให้ต้องเหนื่อยและต้องเดินทางมาต่อสู้คดียังอำเภอในจังหวัดกำแพงเพชรนี้ เขาคิดว่าข้อความที่ถูกกล่าวหาไม่ใช่การดูหมิ่นหรืออาฆาตมาดร้าย แต่ลักษณะเป็นการตั้งคำถามในฐานะประชาชนคนหนึ่ง ทำให้คนฉุกคิด และเขาประสงค์จะต่อสู้คดีต่อไป

    ทั้งนี้ พอลระบุว่าเขาติดตามสถานการณ์ทางการเมืองและเคยเข้าร่วมชุมนุมทางการเมืองของคนรุ่นใหม่ในช่วงที่ผ่านมา แต่ไม่ได้มีบทบาทเป็นแกนนำแต่อย่างใด

    (อ้างอิง: บันทึกแจ้งข้อกล่าวหา สภ.ขาณุวรลักษบุรี ลงวันที่ 19 ก.พ. 2565 และ https://tlhr2014.com/archives/40577)
  • เวลา 07.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจในเครื่องแบบ 2 นาย และนอกเครื่องแบบอีก 4 นาย นำโดย พ.ต.ท.ผดุงศักดิ์ ปาณะคำ พนักงานสอบสวนจาก สภ.ขาณุวรลักษบุรี ได้นำหมายค้นของศาลจังหวัดลพบุรีเข้าไปตรวจค้นที่บ้านในจังหวัดลพบุรีของพอล โดยขณะนั้นเขาไม่ได้อยู่บ้าน แต่มีคนในครอบครัวอยู่ ก่อนตำรวจได้ตรวจยึดทั้งโทรศัพท์มือถือและเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กของเขาไปตรวจสอบ พร้อมกับสอบปากคำแม่ของเขาเอาไว้

    (อ้างอิง: https://tlhr2014.com/archives/58637)
  • พนักงานสอบสวนจาก สภ.ขาณุวรลักษบุรี เดินทางไปที่บ้านของพอลและสอบปากคำครอบครัวของเขาเพิ่มเติมอีกครั้ง

    (อ้างอิง: https://tlhr2014.com/archives/58637)
  • พนักงานสอบสวนนัดหมายพอลไปที่ สภ.ขาณุวรลักษบุรี ก่อนส่งตัวพอลและสำนวนการสอบสวนให้กับพนักงานอัยการจังหวัดกำแพงเพชร จากนั้นอัยการได้นัดหมายพอลฟังคำสั่งในวันที่ 30 พ.ค. 2566
  • หลังจากพอลเดินทางไปฟังคำสั่งอัยการในทุกเดือน รวมทั้งหมด 4 ครั้ง พนักงานอัยการจังหวัดกำแพงเพชรได้นัดหมายพอลมาสั่งฟ้องคดี พอลเดินทางมาตามนัดหมาย ก่อนพนักงานอัยการนำตัวไปส่งฟ้องต่อศาลจังหวัดกำแพงเพชร ในฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(3)

    คำฟ้องโดยสรุปฟ้องระบุว่า เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 2564 จำเลยได้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กโพสต์ภาพและข้อความหมิ่นประมาท ใส่ความพระมหากษัตริย์ โดยโพสต์ข้อความ “You Fucked wite Wrong Generation” (สะกดตามฟ้อง), ข้อความวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับโครงการในพระราชดำริ พร้อมแชร์ภาพประกอบจากกรมประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับโครงการพระราชดำริการพัฒนาแหล่งน้ำ และข้อความมีเนื้อหาตั้งคำถามถึงพระราชจริยวัตรของรัชกาลที่ 10 ทำให้บุคคลทั่วไปที่ได้อ่านเข้าใจว่าหมายถึงพระมหากษัตริย์องค์ปัจจุบัน อันเป็นการกล่าวหา ใส่ร้าย จาบจ้วง หมิ่นประมาท ดูหมิ่น และแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์ ทำให้เสื่อมเสียพระเกียรติยศ

    อัยการยังได้คัดค้านการประกันตัวจำเลย โดยระบุว่าคดีนี้เป็นคดีที่กระทบกระเทือนความมั่นคงในราชอาณาจักร หากจำเลยได้รับการปล่อยตัว เกรงว่าจะหลบหนี

    ต่อมาเวลา 12.20 น. ศาลจังหวัดกำแพงเพชรมีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัวจำเลยในระหว่างพิจารณาคดี โดยให้วางหลักประกัน 150,000 บาท ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากกองทุนราษฎรประสงค์ พร้อมกำหนดวันนัดถามคำให้การในวันที่ 5 ก.ย. 2566

    จากการติดตามของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เท่าที่ทราบในพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร มีผู้ถูกดำเนินคดีตามมาตรา 112 อย่างน้อย 5 ราย ใน 5 คดี ทุกคดีมีบุคคลทั่วไปเป็นผู้ไปแจ้งความกล่าวหาไว้ ผู้ถูกกล่าวหา 4 จาก 5 ราย ไม่ได้มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่แต่อย่างใด จึงมีภาระต้องเดินทางไปต่อสู้คดี

    ก่อนหน้านี้ อัยการจังหวัดกำแพงเพชรได้สั่งฟ้องคดีไปแล้ว 4 คดี ได้แก่ คดีของ “ธิดา”, คดีของ “สายชล”, คดีของ “พลเมือง” และคดีของ “อาร์ม” โดยทั้งหมดตัดสินใจให้การรับสารภาพตามข้อกล่าวหา และศาลจังหวัดกำแพงเพชรพิพากษาให้รอการลงโทษจำคุกไว้ทั้งหมด

    (อ้างอิง: คำฟ้อง ศาลจังหวัดกำแพงเพชร คดีหมายเลขดำที่ อ.1605/2566 ลงวันที่ 23 ส.ค. 2566 และ https://tlhr2014.com/archives/58637)
  • ศาลอ่านและอธิบายฟ้องให้จำเลยฟัง ก่อนถามคำให้การ พอลตัดสินใจให้การรับสารภาพตามฟ้อง ศาลมีคำสั่งสั่งให้พนักงานคุมประพฤติสืบเสาะและพินิจจำเลยรายงานต่อศาลก่อนวันนัดฟังคำพิพากษาไม่น้อยกว่า 7 วัน ด้านทนายความจำเลยขอยื่นคำแถลงประกอบคำรับสารภาพภายใน 30 วัน ศาลนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 7 พ.ย. 2666 เวลา 09.00 น.

    (อ้างอิง: รายงานกระบวนพิจารณา ศาลจังหวัดกำแพงเพชร คดีหมายเลขดำที่ อ.1605/2566 ลงวันที่ 5 ก.ย. 2566 และ https://tlhr2014.com/archives/61245)
  • เวลา 09.00 น. พอลพร้อมด้วยครอบครัวมาให้กำลังใจและทนายความ มาพร้อมกันที่ห้องพิจารณาที่ 5 ศาลจังหวัดกำแพงเพชร ก่อนศาลเริ่มอ่านคำพิพากษาได้มีเจ้าหน้าที่ศาลได้นำกุญแจมือมาพันธนาการข้อมือของพอลไว้

    ศาลอ่านคำพิพากษาโดยสรุปได้ว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามมาตรา 112 ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด จำคุก 3 ปี จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา ลดโทษลงกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี 6 เดือน

    เห็นว่าที่จำเลยโพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กเป็นการละเมิดพระมหากษัตริย์อันอยู่ในฐานะที่เคารพสักการะ แต่การที่จำเลยโพสต์อาจเป็นไปด้วยความคิดชั่ววูบและขาดการยับยั้งชั่งใจตามที่จำเลยให้การก็ได้ เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพและรู้สำนึก ทั้งนิสัย พฤติกรรมของจำเลยไม่มีข้อเสียหายร้ายแรง จำเลยไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน ทั้งมีบิดาที่จะต้องดูแล การลงโทษจำคุกจำเลยไม่เป็นผลดี ให้รอการลงโทษจำคุกจำเลยไว้ 2 ปี ให้จำเลยรายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่คุมประพฤติจำนวน 4 ครั้ง และให้ร่วมการบริการสังคมตามที่เจ้าหน้าที่คุมประพฤติเห็นสมควรจำนวน 12 ชั่วโมง

    ทั้งนี้ เท่าที่ทราบข้อมูลคดีนี้เป็นคดีที่ 5 ที่มีบุคคลทั่วไปไปกล่าวหาให้ดำเนินคดีมาตรา 112 ที่สถานีตำรวจต่าง ๆ ในจังหวัดกำแพงเพชร โดยมีพฤติการณ์เป็นการโพสต์ข้อความลงในสื่อโซเชียลมีเดียทั้งสิ้น โดยจำเลยทั้ง 5 คดี ตัดสินใจให้การรับสารภาพทั้งหมด และศาลจังหวัดกำแพงเพชรพิพากษาให้รอการลงโทษจำคุกไว้ทั้งหมด

    (อ้างอิง: https://tlhr2014.com/archives/61245)

ชั้นสอบสวน

ผู้ถูกดำเนินคดี :
“พอล” (นามสมมติ)

การอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว
-

ศาลชั้นต้น

ผู้ถูกดำเนินคดี :
“พอล” (นามสมมติ)

ผลการพิพากษา
ลงโทษ
การอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว
อนุญาต
พิพากษาวันที่ : 07-11-2023

แหล่งที่มา : กรณีที่ศูนย์ทนายความฯ ติดตามสัมภาษณ์