ผู้ถูกดำเนินคดี
ข้อหา
หมายเลขคดี
  • หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ (มาตรา 112)
  • กีดขวางทางสาธารณะ (มาตรา 385)
  • การชุมนุม
  • พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ (มาตรา 9)
ดำ อ.138/2567

ผู้กล่าวหา
  • ระพีพงษ์ ชัยยารัตน์ กลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) (ประชาชน)
  • หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ (มาตรา 112)
  • กีดขวางทางสาธารณะ (มาตรา 385)
  • การชุมนุม
  • พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ (มาตรา 9)
ดำ อ.138/2567

ผู้กล่าวหา
  • ระพีพงษ์ ชัยยารัตน์ กลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) (ประชาชน)
ผู้ถูกดำเนินคดี

ข้อหา

  • การชุมนุม
  • พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ (มาตรา 9)
  • หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ (มาตรา 112)
  • กีดขวางทางสาธารณะ (มาตรา 385)

หมายเลขคดี

ดำ อ.138/2567
ผู้กล่าวหา
  • ระพีพงษ์ ชัยยารัตน์ กลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.)

ข้อหา

  • การชุมนุม
  • พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ (มาตรา 9)
  • หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ (มาตรา 112)
  • กีดขวางทางสาธารณะ (มาตรา 385)

หมายเลขคดี

ดำ อ.138/2567
ผู้กล่าวหา
  • ระพีพงษ์ ชัยยารัตน์ กลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.)

ความสำคัญของคดี

“ฟ้า” พรหมศร วีระธรรมจารี นักกิจกรรมจากกลุ่มราษฎรมูเตลู และ “ปูน” ธนพัฒน์ (สงวนนามสกุล) นักกิจกรรมกลุ่มทะลุฟ้า ถูกสมาชิกศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) เข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีข้อหา “หมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ” จากคำปราศรัยในการชุมนุม #ราษฎรประสงค์ยกเลิก112 ที่สี่แยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 31 ต.ค. 2564 ซึ่งเป็นกิจกรรมเปิดตัวการรณรงค์เข้าชื่อประชาชนเพื่อเสนอยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112

เดิมฟ้าและปูน พร้อมทั้งนักกิจกรรมรวม 13 ราย ถูกดำเนินคดี ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จากการเข้าร่วมชุมนุมดังกล่าว ต่อมา เมื่อสมาชิก ศปปส. เข้าแจ้งความ พนักงานสอบสวนจึงออกหมายเรียกทั้งสองคนมาแจ้งข้อหา 112 เพิ่มเติม

กรณีดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาของประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่มีอัตราโทษจำคุกสูงสุดถึง 15 ปี แต่กลับเปิดโอกาสให้บุคคลใดก็ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษแม้ไม่ได้เป็นผู้เสียหาย ทำให้ข้อกล่าวหาดังกล่าวถูกใช้เป็นเครื่องมือในการกลั่นแกล้งบุคคลอื่น

พฤติการณ์ของคดีตามเอกสารคดี

พัชรา อิศราภรณ์ พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 3 บรรยายคำฟ้องสรุปเนื้อหาได้ว่า

1. เมื่อวันที่ 31 ต.ค. 2564 จำเลยทั้งสองกับพวกหลายคนซึ่งแยกดำเนินคดีแล้ว ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมและทำกิจกรรมชื่อว่า “ราษฎรประสงค์ยกเลิก 112” ที่บริเวณถนนราชดำริ ซึ่งเป็นการรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนมากกว่า 50 คน โดยมีประชาชนทั่วไปเข้าร่วมชุมนุมประมาณ 800 คน อันเป็นกิจกรรมที่มีการรวมตัวในลักษณะแออัด เสี่ยงต่อการแพร่โรคโควิด-19 โดยไม่จัดให้มีมาตรการป้องกันและไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่

2. จำเลยทั้งสองยังได้ขึ้นกล่าวปราศรัยในกิจกรรมดังกล่าวแก่ประชาชนที่มาร่วมชุมนุมฟัง โดยคำฟ้องได้ยกคำปราศรัยของธนพัฒน์ ในฐานะจำเลยที่ 1 และพรหมศร จำเลยที่ 2 ซึ่งโดยภาพรวมกล่าวถึงความจำเป็นในยกเลิกมาตรา 112 เพื่อให้ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และสถาบันกษัตริย์ต้องอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ อันเป็นความเท็จ และทำให้ผู้ฟังเข้าใจได้ว่า รัชกาลที่ 10 ทรงนำทรัพย์สินของแผ่นดินไปเป็นของพระองค์เองและมิได้ทรงอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ, ทรงขาดความเมตตาและใช้กฎหมายมาตรา 112 รังแกประชาชน อันเป็นการใส่ความ หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ต่อบุคคลที่สาม โดยประการที่น่าจะทำให้รัชกาลที่ 10 เสื่อมเสียพระเกียรติยศ ชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชังอย่างร้ายแรง

(อ้างอิง: คำฟ้อง ศาลอาญากรุงเทพใต้ คดีหมายเลขดำที่ อ.138/2567 ลงวันที่ 23 ม.ค. 2567)

ความคืบหน้าของคดี

  • “ฟ้า” พรหมศร วีระธรรมจารี นักกิจกรรมจากกลุ่มราษฎรมูเตลู และ “ปูน” ธนพัฒน์ (สงวนนามสกุล) นักกิจกรรมกลุ่มทะลุฟ้า ได้เดินทางไป สน.ลุมพินี เพื่อรับทราบข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ตามหมายเรียก ซึ่งมี พ.ต.ท.ภราดร สุวรรณรัตน์ เป็นผู้กล่าวหา จากการเข้าร่วมชุมนุมและขึ้นปราศรัยปราศรัยในการชุมนุม #ราษฎรประสงค์ยกเลิก112 ที่สี่แยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 31 ต.ค. 2564

    พนักงานสอบสวนบรรยายพฤติการณ์ข้อกล่าวหาโดยไล่ลำดับเหตุการณ์การชุมนุมเมื่อวันที่ 31 ต.ค. 2564 พร้อมระบุว่าเวลาประมาณ 16.41-16.56 น. ธนพัฒน์ ได้ขึ้นปราศรัยบนเวทีเป็นคนที่ 2 มีเนื้อหากล่าวถึงการตายของลุงนวมทอง ที่ออกมาสู้เพื่อเสรีภาพของประชาชน และชนชั้นปกครองเห็นว่าหากประชาชนมีเสรีภาพตนเองจะหมดอํานาจ จึงต้องคงไว้ซึ่งกฎหมายที่ปิดกั้นการแสดงความคิดเห็น แต่ประชาชนควรมีสิทธิเสรีภาพในการวิจารณ์แสดงความคิดเห็นและมีสิทธิพูดความจริง และกล่าวถึงการโอนทรัพย์สินต่างๆ ในส่วนของสถาบันกษัตริย์

    ต่อมาเวลา 18.39-18.57 น. พรหมศร วีระธรรมจารี ได้ขึ้นเป็นผู้ปราศรัยคนที่ 9 กล่าวปราศรัยโดยกล่าวถึงต้องยกเลิกมาตรา 112 สถาบันกษัตริย์ต้องอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ ประชาชนต้องมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น กล่าวถึงการที่ประยุทธ์ เมื่อขึ้นดํารงตําแหน่ง ประเทศก็พบกับความยากลําบากและกล่าวถึงการปิดกั้นการแสดงความคิดเห็นของประชาชน โดยกล่าวถึง “โครงการในพระราชดำริ” ที่มีอยู่กว่า 4,000 โครงการ ประชาชนควรมีสิทธิแสดงความคิดเห็น ถึงประโยชน์ที่ได้รับ ข้อดี ข้อเสีย ของโครงการต่างๆ ได้

    จากนั้น พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาธนพัฒน์และพรหมศรว่า ร่วมกันจัดกิจกรรมและร่วมกันชุมนุมฝ่าฝืนข้อกำหนดและประกาศที่ออกตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และร่วมกันกีดขวางทางสาธารณะ จนอาจเป็นอุปสรรคต่อความปลอดภัยหรือความสะดวกในการจราจร ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 385

    ทั้งสองให้การปฎิเสธ และจะให้การเพิ่มเติมเป็นหนังสือภายใน 15 วัน

    สำหรับกิจกรรม #ราษฎรประสงค์ยกเลิก112 ที่สี่แยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 31 ต.ค. 2564 นับเป็นการเปิดตัวการรณรงค์เข้าชื่อประชาชนเพื่อเสนอยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งเตรียมยื่นต่อรัฐสภา

    (อ้างอิง: บันทึกแจ้งข้อกล่าวหา สน.ลุมพินี ลงวันที่ 3 ก.พ. 2565)
  • ฟ้าและปูนเดินทางเข้ารับทราบข้อหา “หมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เพิ่มเติม ตามหมายเรียกของ สน.ลุมพินี หลังจากถูกแจ้งข้อกล่าวหา ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ไปแล้วก่อนหน้านี้ เช่นเดียวกับนักกิจกรรมอีก 11 ราย จากการเข้าร่วมชุมนุมและขึ้นปราศรัยในการชุมนุม #ราษฎรประสงค์ยกเลิก112 ที่สี่แยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 31 ต.ค. 2564

    พ.ต.ต.สุทวัฒน์ ศรีพรวรรณ์ และ พ.ต.ท.เทอดศักดิ์ มนัสชน สารวัตร (สอบสวน) สน.ลุมพินี บรรยายพฤติการณ์ข้อกล่าวหาเช่นเดียวกับที่แจ้งข้อกล่าวหาในครั้งแรก โดยมีเนื้อหาเพิ่มเติมว่า ต่อมา คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนตามคําสั่ง บก.น.5 ที่ 251/2564 เรื่องแต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน กรณีที่ ระพีพงษ์ ชัยยารัตน์ (ผู้กล่าวหา) มาแจ้งความร้องทุกข์มอบคดีต่อพนักงานสอบสวนเพิ่มเติม ให้ดำเนินคดีกับธนพัฒน์และพรหมศรในความผิดฐาน "หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ฯ" ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า คำปราศรัยของพรหมศรและธนพัฒน์ เป็นการดูหมิ่น หมิ่นประมาท และ อาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์จริง เนื่องจากเป็นการใส่ร้ายสถาบันกษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 โดยบันทึกแจ้งข้อกล่าวหาได้บรรยายเนื้อหาคำปราศรัยบางตอนของทั้งสองคนไว้คนละ 2-3 หน้ากระดาษ

    คณะพนักงานสอบสวนจึงแจ้งข้อกล่าวหา "หมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ" เพิ่มเติมให้พรหมศรและธนพัฒน์ทราบ เบื้องต้นทั้งคู่ได้ให้การปฎิเสธและจะให้การเป็นหนังสือภายใน 30 วัน ก่อนพนักงานสอบสวนจะให้ปล่อยตัวทั้งสองคน โดยไม่มีการควบคุมตัวไว้

    สำหรับฟ้าคดีนี้นับเป็นคดีมาตรา 112 คดีที่ 5 แล้วที่เขาถูกกล่าวหา ส่วนปูนนับเป็นคดีมาตรา 112 คดีที่ 3 ซึ่งถูกกล่าวหา โดยมี 1 คดี ที่ถูกกล่าวหาขณะยังเป็นเยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปี

    ทั้งนี้ ผู้เข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีฟ้าและปูนตามมาตรา 112 ในคดีนี้ คือ ระพีพงษ์ ชัยยารัตน์ เป็นสมาชิกของศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) ก่อนหน้านี้เคยเป็นผู้กล่าวหาในคดีมาตรา 112 ของ “เพนกวิน” พริษฐ์ ชิวารักษ์ และเบนจา อะปัญ ในกรณีปราศรัยในการชุมนุม #กระชากหน้ากากไบโอไซน์ หน้าที่ทำการของบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ ของ สน.ปทุมวัน มาแล้ว

    (อ้างอิง: บันทึกแจ้งข้อกล่าวหา สน.ลุมพินี ลงวันที่ 17 มี.ค. 2565 และ https://tlhr2014.com/archives/41622)
  • ฟ้าและปูนเดินทางไปที่สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต์ 3 ตามที่พนักงานสอบสวนนัดหมายส่งตัวผู้ต้องหาพร้อมสำนวนการสอบสวนให้พนักงานอัยการ หลังรับตัวอัยการนัดฟังคำสั่งในวันที่ 1 ก.พ. 2566
  • ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 3 ได้นัดหมายฟ้าและปูนเพื่อส่งฟ้องคดีต่อศาล ในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, ร่วมกันจัดกิจกรรมและร่วมกันชุมนุมฝ่าฝืนข้อกำหนดและประกาศที่ออกตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ หลังอัยการนัดฟังคำสั่งเรื่อยมาเป็นระยะเวลาราว 1 ปี จนมีคำสั่งฟ้องคดีในที่สุด

    พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 3 บรรยายฟ้องโดยสรุปกล่าวหาว่า เมื่อวันที่ 31 ต.ค. 2564 จำเลยทั้งสองกับพวกได้ร่วมกันจัดกิจกรรมและทำกิจกรรมชื่อว่า “ราษฎรประสงค์ยกเลิก 112” ที่บริเวณถนนราชดำริ อันเป็นกิจกรรมที่มีการรวมตัวในลักษณะแออัด เสี่ยงต่อการแพร่โรคโควิด-19 โดยไม่จัดให้มีมาตรการป้องกันและไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่

    นอกจากนี้จำเลยทั้งสองยังได้ขึ้นกล่าวปราศรัยให้ประชาชนที่มาร่วมชุมนุมฟัง โดยอัยการระบุว่า คำปราศรัยของทั้งสองเป็นความเท็จ และทำให้ผู้ฟังเข้าใจได้ว่า รัชกาลที่ 10 ทรงนำทรัพย์สินของแผ่นดินไปเป็นของพระองค์เองและมิได้ทรงอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ, ทรงขาดความเมตตาและใช้กฎหมายมาตรา 112 รังแกประชาชน อันเป็นการใส่ความ หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ต่อบุคคลที่สาม

    ในท้ายฟ้อง อัยการไม่ได้คัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นพิจารณา โดยระบุว่า หากจำเลยทั้งสองยื่นขอปล่อยตัวชั่วคราว ขอให้อยู่ในดุลยพินิจของศาล

    ต่อมา หลังศาลรับฟ้อง และนายประกันจากกองทุนราษฎรประสงค์ยื่นประกัน ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัวปูนและฟ้า โดยให้วางหลักประกันคนละ 200,000 บาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร

    ศาลกำหนดวันนัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 11 มี.ค. 2567 เวลา 09.00 น.

    ทั้งนี้ ฟ้าถูกดำเนินคดีมาตรา 112 ถึง 5 คดี โดยศาลมีคำพิพากษาแล้ว 1 คดี คือ คดีจากการปราศรัยและร้องเพลงหน้าศาลจังหวัดธัญบุรี เมื่อวันที่ 14 ม.ค. 2564 เรียกร้องให้ศาลปล่อยตัว สิริชัย นาถึง นักศึกษาธรรมศาสตร์ ซึ่งศาลจังหวัดธัญบุรีพิพากษาเมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 2566 ลงโทษจำคุก 4 ปี ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 ปี ก่อนได้รับการประกันตัวระหว่างอุทธรณ์

    ส่วน ปูนถูกดำเนินคดีมาตรา 112 ถึง 3 คดี โดยศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาคดีวางเพลิงพระบรมฉายาลักษณ์ หน้าเรือนจำกลางคลองเปรม เป็นคดีแรกในวันที่ 26 มี.ค. 2567

    (อ้างอิง: คำฟ้อง ศาลอาญากรุงเทพใต้ คดีหมายเลขดำที่ อ.138/2567 ลงวันที่ 23 ม.ค. 2567 และ https://tlhr2014.com/archives/64005)
  • ทนายจำเลยขอเลื่อนคดี เนื่องจากจำเลยที่ 2 ต้องเฝ้ามารดาที่ป่วย ไม่สามารถเดินทางมาศาลได้ ศาลอนุญาตให้เลื่อนไปนัดสอบคำให้การและตรวจพยานในวันที่ 13 พ.ค. 2567 เวลา 13.30 น
  • ปูนและฟ้าเดินทางมาศาลพร้อมทนายจำเลย ศาลอ่านและอธิบายฟ้องให้ฟัง ปูนและฟ้าให้การปฏิเสธ โจทก์อ้างพยานบุคคล 13 ปาก ใช้เวลาสืบ 2 นัดครึ่ง ฝ่ายจำเลยมีพยานบุคคล 5 ปาก ใช้เวลาสืบ 1 นัดครึ่ง นัดสืบพยานโจทก์และพยานจำเลยในวันที่ 14, 15, 19 และ 20 พ.ย. 2567

ชั้นสอบสวน

ผู้ถูกดำเนินคดี :
พรหมศร วีระธรรมจารี

การอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว
-
ผู้ถูกดำเนินคดี :
ธนพัฒน์ (สงวนนามสกุล)

การอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว
-

แหล่งที่มา : กรณีที่ศูนย์ทนายความฯ ติดตามสัมภาษณ์