ผู้ถูกดำเนินคดี
ข้อหา
หมายเลขคดี
  • ทำให้เสียทรัพย์ (มาตรา 358)
  • อื่นๆ (ไต่สวนชันสูตรพลิกศพ, เลิกจ้าง(คดีแรงงาน), แจ้งความเท็จ, ซ่อนเร้นพยานหลักฐาน)
ดำ อ.869/2564
แดง อ.885/2565

ผู้กล่าวหา
  • สิทธิศักดิ์ ชำปฏิ ผอ.วิทยาลัยเทคนิคขอนแก่น (ประชาชน)
ผู้ถูกดำเนินคดี

ข้อหา

  • ทำให้เสียทรัพย์ (มาตรา 358)
  • อื่นๆ (ไต่สวนชันสูตรพลิกศพ, เลิกจ้าง(คดีแรงงาน), แจ้งความเท็จ, ซ่อนเร้นพยานหลักฐาน)

หมายเลขคดี

ดำ อ.869/2564
แดง อ.885/2565
ผู้กล่าวหา
  • สิทธิศักดิ์ ชำปฏิ ผอ.วิทยาลัยเทคนิคขอนแก่น

ความสำคัญของคดี

เทพ (นามสมมติ) อายุ 19 ปี นักศึกษา ปวช.ชั้นที่ปี 3 วิทยาลัยเทคนิคขอนแก่น ถูกดำเนินคดีในข้อหา วางเพลิงเผาทรัพย์ของผู้อื่น และทําให้เสียทรัพย์ โดยถูกกล่าวหาว่า วางเพลิงเผาพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 10 หน้าวิทยาลัยเทคนิคขอนแก่น เมื่อคืนวันที่ 18 ก.ย. 2564 จนได้รับความเสียหาย และไฟได้ลามไปติดพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 9 และพระราชินีในรัชกาลที่ 9 บางส่วน คิดเป็นค่าเสียหาย 120,000 บาท เทพได้รับการประกันตัวทั้งในชั้นฝากขังและพิจารณาคดี ในวงเงินประกัน 35,000 บาท

คดีนี้และคดีวางเพลิงซุ้มพระบรมฉายาลักษณ์ใน จ.ขอนแก่น ช่วงปี 64 อีก 2 คดี พนักงานสอบสวนและอัยการไม่ได้ตั้งข้อกล่าวหาตามมาตรา 112 เหมือนเช่นคดีที่มีการแสดงออกต่อพระบรมฉายาลักษณ์ในพื้นที่อื่นๆ ซึ่งถือว่า เป็นการตีความมาตรา 112 โดยไม่ขยายขอบเขตให้เกินกว่าตัวบท

พฤติการณ์ของคดีตามเอกสารคดี

พ.ต.ท.วัฒนพงษ์ จันทระ พนักงานอัยการจังหวัดขอนแก่น บรรยายฟ้องมีใจความโดยสรุปว่า

เมื่อวันที่ 18 ก.ย. 2564 เวลากลางคืนก่อนเที่ยง จําเลยได้วางเพลิงเผาพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 10 ขนาดฐานกว้างประมาณ 1.5 เมตร สูงประมาณ 2 เมตร ราคา 40,000 บาท โดยการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเทราดสาดใส่ แล้วจุดไฟเผาจนได้รับความเสียหาย แล้วเพลิงได้ลามไปติดพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 9 และพระราชินีในรัชกาลที่ 9 บางส่วน ราคาภาพละ 40,000 บาท รวมราคาทรัพย์ทั้งสิ้น 120,000 บาท ของวิทยาลัยเทคนิคขอนแก่น สํานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา นิติบุคคลผู้เสียหาย โดยมี สิทธิศักดิ์ ชำปฏิ ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคขอนแก่น เป็นผู้แทนผู้เสียหาย ซึ่งเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษให้ตำรวจดำเนินคดี

(อ้างอิง: คำฟ้อง ศาลจังหวัดขอนแก่น คดีหมายเลขดำที่ อ.869/2564 ลงวันที่ 11 พ.ย. 2564)

ความคืบหน้าของคดี

  • เทพ (นามสมมติ) อายุ 19 ปี นักศึกษา ปวช.ชั้นที่ปี 3 วิทยาลัยเทคนิคขอนแก่น เดินทางพร้อมทนายความไปที่ สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อเข้าแสดงตนต่อพนักงานสอบสวน หลังตกเป็นผู้ต้องสงสัยก่อเหตุเหตุวางเพลิง รูป ร.10 บริเวณหน้าวิทยาลัยเทคนิคขอนแก่น ถนนศรีจันทร์ หลังเที่ยงคืนวันที่ 17 ก.ย. 2564
    ตั้งแต่ช่วงเช้าบริเวณหน้าทางเข้า สภ.เมืองขอนแก่น มีการตรึงกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชนร่วม 50 นาย ประจำจุดเข้า–ออก รวมถึงนำผ้ามาคลุมป้าย สภ.เมืองขอนแก่น ไว้ นอกจากนี้ยังไม่อนุญาตให้ผู้ที่ติดตามมาให้กำลังใจเทพเข้าไปยังบริเวณสถานีตำรวจ ขณะที่ พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสารีกิจ ผู้กำกับการ สภ.เมืองขอนแก่น ประกาศเตือนว่า การทำกิจกรรมอาจเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโควิด และผิดต่อกฎหมาย

    พัฒนะ ศรีใหญ่ ทนายความเครือข่ายศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนแจ้งกับ พ.ต.อ.ปรีชา ว่า นอกจากนำเทพมาแสดงตนเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว โฟม (นามสมมติ) นักศึกษาเทคนิควิทยาลัยขอนแก่น เพื่อนของเทพ จะเข้าให้ปากคำเป็นพยานตามที่พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกพยานไปถึง แต่ผู้กำกับฯ กล่าวว่า ในวันนี้ให้มีเพียงการเข้ารับทราบข้อกล่าวหาของเทพเท่านั้น ส่วนการสอบพยานค่อยดำเนินการในภายหลัง

    ก่อนที่เทพจะปรากฏตัวและเตรียมเข้าพบพนักงานสอบสวน โดยเพื่อนของเทพและนักกิจกรรมในจังหวัดขอนแก่นได้มอบดอกไม้ให้กำลังใจ เทพได้กล่าวกับทุกคนว่า ขอบคุณที่มาเป็นสักขีพยาน ตนมาวันนี้เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้หลบหนี และพร้อมต่อสู้คดี

    เมื่อทนายและเทพไปถึงห้องสอบสวน ร.ต.ท.อัษฎาวุธ อัศวพิทักษ์กุล ชุดสืบสวนได้แสดงหมายจับของศาลจังหวัดขอนแก่นที่ จ.185/2564 ลงวันที่ 24 กันยายน 2564 ข้อหา วางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น และทำให้เสียทรีพย์ พร้อมทั้งอ่านให้ฟังและให้เทพตรวจสอบว่า เป็นบุคคลเดียวกับบุคคลตามหมายจับดังกล่าวหรือไม่ เทพรับว่า เป็นบุคคลตามหมายจับจริงและไม่เคยถูกจับในคดีนี้มาก่อน เจ้าหน้าที่จึงให้เทพลงชื่อในหมายจับ โดยทนายความขอให้เจ้าหน้าที่เขียนด้านหลังหมายจับด้วยว่า ได้ดำเนินการตามหมายจับแล้ว

    จากนั้น ร.ต.ท.อัษฎาวุธ ได้ทำบันทึกจับกุม โดยระบุในบันทึกจับกุมว่า เทพได้เข้าแสดงตนต่อเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับ ชั้นจับกุม เทพให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

    จากนั้น ร.ต.อ.ปิยะศักดิ์ พ้องเสียง พนักงานสอบสวนจึงแจ้งพฤติการณ์และข้อกล่าวหาในคดี ระบุว่าเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2564 เวลา 01.54 น. มีบุคคลเข้าไปในวิทยาลัยเทคนิคขอนแก่น โดยปืนกําแพงรั้วบริเวณหลังอาคาร 60 ปี กรมอาชีวะศึกษา แล้วเดินไปยังด้านหลังพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 10 ก่อนจุดไฟจนเพลิงลุกไหม้และวิ่งหลบหนีไปโดยใช้เส้นทางเดิม จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดและการสืบสวนสอบสวนพบว่า ผู้ที่ก่อเหตุคือเทพ

    พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหา “วางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น และทำให้เสียทรัพย์” เทพให้การปฏิเสธ และจะยื่นคำให้การเพิ่มเติมเป็นหนังสือภายใน 30 วัน แต่พนักงานสอบสวนขอให้ส่งภายใน 25 วัน เนื่องจากคดีนี้มีเวลาฝากขังเพียงแค่ 48 วัน เกรงว่าจะทำสำนวนส่งไปที่อัยการไม่ทัน

    หลังพิมพ์ลายนิ้วมือเพื่อนำไปตรวจสอบประวัติอาชญากรรม พนักงานสอบสวนให้เทพนั่งรอการคอนเฟอร์เรนซ์ระหว่างศาลจังหวัดขอนแก่นกับ สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อดำเนินการในขั้นตอนขอฝากขัง

    ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนได้ยื่นคำร้องออนไลน์ขอฝากขังเทพครั้งที่ 1 ระบุว่า เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบพยานอีก 6 ปาก รอผลตรวจของกลาง ตรวจลายพิมพ์มือผู้ต้องหา และรวบรวมพยานหลักฐานอื่น จึงขอฝากขังระหว่างสอบสวนกำหนด 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน ถึงวันที่ 6 ตุลาคม 2564 คำร้องฝากขังยังระบุด้วยว่า หากมีการขอปล่อยตัวชั่วคราวพนักงานสอบสวนขอคัดค้านเนื่องจากคดีนี้มีอัตราโทษสูง หากปล่อยไปเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนีและไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน

    เวลาราว 10.30 น. เมื่อเชื่อมต่อสัญญาณคอนเฟอเรนซ์ ผู้พิพากษาอ่านคำร้องขอฝากขัง ซึ่งระบุว่าเทพถูกจับกุมตามหมายจับ แต่เทพแย้งว่าเขาไม่ได้ถูกจับกุมแต่มาแสดงตนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเอง จากนั้นได้กล่าวตอบศาลที่ถามว่า ผู้ต้องหาจะคัดค้านการฝากขังหรือไม่ โดยระบุว่า ไม่คัดค้าน

    ก่อนผู้พิพากษามีคำสั่งอนุญาตให้ฝากขังในชั้นสอบสวนตามที่พนักงานสอบสวนร้องขอ และให้ทนายความไปยื่นคำร้องขอประกันตัวที่ศาล จากนั้นพนักงานสอบสวนแจ้งกับทนายว่าจะคุมตัวเทพไปขังที่ศาลระหว่างรอการยื่นประกัน แต่แล้วเมื่อทนายและผู้มาให้กำลังใจเทพที่เคลื่อนตัวจากหน้า สภ.เมืองขอนแก่น ไปรอเทพที่ศาล กลับไร้วี่แววเทพและชุดตำรวจที่ควบคุมตัวมา จากนั้นทุกคนจึงได้ทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเปลี่ยนเส้นทางโดยนำเทพไปควบคุมตัวที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษขอนแก่น อ้างว่าเป็นคำสั่งศาล

    อย่างไรก็ตาม ที่ศาลจังหวัดขอนแก่น ทนายความยื่นขอประกันตัวเทพ โดยใช้หลักทรัพย์เป็นเงินสด 35,000 บาท จากกองทุนราษฎรประสงค์ เนื่องจากอาจารย์ของเทพแจ้งกับเพื่อนมาว่า ติดขัดด้านเอกสารไม่สามารถเดินทางมาประกันตัวเทพเองได้ ราว 12.15 น. ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวตลอดถึงชั้นพิจารณา หากผิดสัญญาประกันปรับ 70,000 บาท โดยให้วางหลักประกันไว้ก่อน 35,000 บาท และนัดให้มารายงานตัวที่ศาลอีกครั้งวันที่ 7 ต.ค. 2564

    13.00 น. เทพได้รับการปล่อยตัวที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษขอนแก่น ท่ามกลางความยินดีของเพื่อน นักกิจกรรม และประชาชนผู้สนใจในคดีที่เดินทางมาให้กำลังใจและร่วมจับตากระบวนการในชั้นรับทราบข้อกล่าวหา

    ทั้งนี้ ระหว่างที่เทพเข้ารับทราบข้อกล่าวหา ด้านหน้า สภ.เมืองขอนแก่น ตัวแทนภาคีนักเรียน KKC ได้ทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์โดยการเผารูปตัวเอง และมีการอธิบายกิจกรรมว่า การเผารูปเพื่อเรียกร้องให้ผู้มีอำนาจรับฟัง ไม่ได้ทำร้ายใคร ไม่ควรถูกคุกคามใดๆ จากรัฐ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามเข้าห้ามไม่ให้จุดไฟ

    อย่างไรก็ตามกว่าจะถึงวันที่เทพเข้าแสดงตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เทพเล่าว่า หลังวันเกิดเหตุได้ 4-5 วัน มีบุคคลจำนวนหนึ่งที่เทพไม่รู้จักมาก่อน ทักผ่านกล่องข้อความเฟซบุ๊กส่วนตัวแนะนำให้เทพหลบหนีไปก่อน เพราะตำรวจจะมาจับกุมเทพถึงที่พักในช่วงเช้าตรู่ ของวันที่ 24 ก.ย. 2564
    มากกว่านั้นในช่วงเช้าของวันที่ 24 ก.ย. 2564 ช่วงเวลา 08.00 น. มิ้นท์ (นามสมมติ) เพื่อนสนิทของเทพ ได้รับแจ้งจากเพื่อนร่วมหอพักว่า มีตำรวจประมาณ 10 – 20 นาย เข้าค้นห้องพักที่มิ้นท์เป็นผู้เช่าอยู่ ขณะที่มิ้นท์ไม่ได้อยู่ที่ห้องพัก เมื่อมิ้นท์กลับมาที่ห้องจึงเห็นว่า ลูกบิดประตูห้องถูกทุบทำลายเพื่อเข้าไปในห้อง และข้าวของในห้องกระจัดกระจาย ก่อนพบว่ากระเป๋าคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กซึ่งใส่เสื้อผ้าไว้ข้างใน พร้อมทั้งกล่องใส่ของ 1 กล่องหายไป

    เมื่อมิ้นท์สอบถามเพื่อนและคนดูแลหอพักว่า ตำรวจมีหมายค้นหรือเอกสารเกี่ยวกับการตรวจยึดสิ่งของหรือไม่ เพื่อนของเธอบอกว่าไม่เห็นเอกสาร และทางผู้ดูแลหอพักบอกแต่ว่าให้มิ้นท์ไปคุยกับตำรวจที่โรงพัก จากนั้นมิ้นท์ทราบจากเพื่อนร่วมหอพักอีกว่าก่อนที่เธอจะกลับมาห้องพัก ตำรวจมาเคาะห้องเรียกเพื่อนไปสอบปากคำที่ สภ.เมืองขอนแก่น เกี่ยวกับสิ่งของที่ตำรวจยึดไปว่า เพื่อนของมิ้นท์เกี่ยวข้องอย่างไร โดยขณะที่ไปถึง สภ. พบว่า ตำรวจกำลังสอบปากคำผู้ดูแลหอพักอยู่

    หลังคนรอบข้างถูกคุกคาม เทพจึงตัดสินใจเข้ามอบตัวแสดงความบริสุทธิ์ใจกับตำรวจ ไม่หลบหนีตามคำแนะนำที่มีมาถึง

    ด้านมิ้นท์กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เธอไม่เคยพบมาก่อนว่า รู้สึกได้ถึงความไม่ปลอดภัย และไม่ไว้วางใจผู้ดูแลหอพักนี้อีกแล้ว เพราะเราก็ไม่ได้คิดปฏิเสธอยู่แล้ว หากเจ้าหน้าที่มีหลักฐานในการจะเข้าค้น แต่เขากลับมาแบบไม่ให้รู้ตัว และทางคนดูแลหอพักก็ไม่ได้ปกป้องสิทธิของผู้เช่าห้อง ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น

    ถึงขณะนี้มินท์ยังไม่พบเห็นหมายค้นจากตำรวจและยังไม่ได้บันทึกตรวจยึดสิ่งของห้องเธอจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าแท้จริงแล้วได้อะไรไปจากห้องเธอบ้าง และยังไม่สามารถไว้วางใจสถานการณ์ใดๆ ได้ และมีโอกาสที่เธอจะถูกบุกค้นห้องพักในลักษณะเดียวกันอีก

    อย่างไรก็ตาม หลังเทพเข้ารับทราบข้อกล่าวหา ทนายความได้สอบถามพนักงานสอบสวนว่า การเข้าตรวจค้นห้องพักของมินท์ ชุดสืบสวนที่ไปมีหมายค้นของศาลหรือไม่ พนักงานสอบสวนได้ตรวจสอบรายงานการสืบสวนแล้วแจ้งว่า มีหมายค้น จากนั้นทนายความขอให้อ่านรายการสิ่งของที่ตรวจยึดมา เนื่องจากมินท์ขอให้ตรวจสอบว่า ตำรวจได้นำสิ่งใดมาจากห้องของเธอบ้าง ซึ่งทำให้ทราบว่า ตำรวจได้ยึดโน้ตบุ๊กมาจากห้องของเพื่อนมิ้นท์ด้วย

    มีข้อสังเกตว่า ข้อกล่าวหาในคดีนี้เป็นวางเพลิงเผาทรัพย์ แต่ตำรวจกลับค้นห้องและยึดคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กไป โดยที่คอมพิวเตอร์ไม่ใช่สิ่งของที่ใช้ในการวางเพลิงได้ จึงไม่เกี่ยวข้องและไม่จำเป็นต้องตรวจยึดไป ซึ่งอาจเปิดช่องทางให้เจ้าหน้าที่ค้นหาสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องในคดีและละเมิดสิทธิข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ต้องหาได้โดยง่าย นอกจากนี้ พนักงานสอบสวนยังไม่สามารถระบุได้ว่า การส่งไปตรวจที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 3 จังหวัดนครราชสีมานั้นจะใช้เวลานานเท่าใด ทำให้ส่งผลกระทบกับมินท์เนื่องจากจำเป็นต้องใช้คอมพิวเตอร์ในการเรียนออนไลน์และทำโครงงานส่งอาจารย์

    คดีนี้ ทราบจากหมายเรียกพยานที่โฟม เพื่อนของเทพได้รับ ว่ามี สิทธิศักดิ์ ชำปฏิ ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคขอนแก่น เป็นผู้กล่าวหา
    สำหรับเทพ ปัจจุบันอายุ 19 ปี เรียนอยู่ชั้น ปวช.ปีที่ 3 สาขาช่างโยธา โดยอยู่ระหว่างการฝึกงานก่อนจบในเทอมสุดท้าย ปัจจุบันไม่ได้อยู่กับครอบครัว เนื่องจากพ่อเสียชีวิตได้หลายปี ส่วนแม่แยกไปอยู่ที่อื่น มีญาติคือป้าที่นานๆ เจอกันครั้ง โดยเทพย้ายกลับมาอยู่ขอนแก่นในช่วงจบ ม.3 หลังไปอาศัยกับครอบครัวญาติในหลายจังหวัด ก่อนทำงานที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งเพื่อหาเงินเป็นค่าใช้จ่ายในการเรียนในชั้น ปวช. ด้วยตัวเอง

    (อ้างอิง: บันทึกการจับกุม สภ.เมืองขอนแก่น และคำร้องขอฝากขังผู้ต้องหาครั้งที่ 1 ศาลจังหวัดขอนแก่น ลงวันที่ 25 ก.ย. 2564 และ https://tlhr2014.com/archives/35645)
  • พนักงานอัยการจังหวัดขอนแก่น ยื่นฟ้องเทพในความผิดฐาน วางเพลิงเผาทรัพย์ของผู้อื่น และทําให้เสียทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 217 และ 358

    ในท้ายคำฟ้อง พนักงานอัยการไม่ได้คัดค้านหากจําเลยขอปล่อยชั่วคราว รวมทั้งไม่ได้ขอให้ศาลริบของกลางใดๆ

    (อ้างอิง: คำฟ้อง ศาลจังหวัดขอนแก่น คดีหมายเลขดำที่ อ.869/2564 ลงวันที่ 11 พ.ย. 2564 และ https://tlhr2014.com/archives/37947)
  • เวลา 10.00 น. เทพพร้อมทนายความ เข้ารายงานตัวครั้งที่ 4 ต่อศาลจังหวัดขอนแก่น โดยมีเพื่อนนักศึกษาหลายคนเดินทางมาให้กำลังใจด้วย

    เจ้าหน้าที่แจ้งเทพว่า อัยการฟ้องคดีแล้ว ก่อนให้ไปรายงานตัวกับตำรวจที่ห้องขังใต้ถุนศาล โดยตำรวจได้ควบคุมตัวเข้าห้องขัง เพื่อรอกระบวนการคุ้มครองสิทธิที่ศาลจะอ่านและอธิบายคำฟ้อง รวมทั้งอธิบายสิทธิของจำเลยในคดีอาญา

    ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ให้ทนายความยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างพิจารณาคดี โดยใช้หลักประกันเดิมในชั้นฝากขัง แม้ว่าในชั้นฝากขังศาลได้มีคำสั่งให้ปล่อยตัวชั่วคราวตลอดถึงชั้นพิจารณาแล้ว โดยให้วางหลักประกันเป็นเงิน 35,000 บาท หากผิดสัญญาประกันปรับ 70,000 บาท

    กระทั่งราว 15.45 น. ศาลจึงเบิกตัวเทพจากห้องขังไปยังห้องคุ้มครองสิทธิ โดยเจ้าหน้าที่ไม่ได้แจ้งทนายจำเลยที่นั่งรออยู่ให้ทราบ โดยศาลได้อ่านและอธิบายคำฟ้องให้เทพฟัง และถามคำให้การ เบื้องต้นเทพให้การปฏิเสธ พร้อมทั้งแถลงว่า ตนเองมีทนายความแล้ว และขอปรึกษาคดีกับทนายความก่อน แต่เนื่องจากทนายความไม่ได้อยู่ในห้องคุ้มครองสิทธิด้วย ศาลจึงมีคำสั่งให้เลื่อนการคุ้มครองสิทธิและถามคำให้การไปในวันที่ 19 ม.ค. 2565 เวลา 09.30 น.

    16.20 น. ทนายจำเลยซึ่งรอฟังคำสั่งเรื่องการประกันตัว ได้เข้าไปสอบถามเจ้าหน้าที่ว่าศาลมีคำสั่งหรือยัง แต่เจ้าหน้าที่กลับหาคำร้องดังกล่าวไม่พบ และเร่งทำคำร้องอีกครั้งเสนอต่อศาลในเวลา 16.30 น.

    ต่อมา ประมาณ 16.50 น. ศาลมีคำสั่งอนุญาตปล่อยตัวเทพชั่วคราวระหว่างพิจารณาคดี โดยใช้หลักประกันเดิมในชั้นฝากขัง ก่อนเทพได้รับการปล่อยตัวในเวลา 16.53 น. รวมเวลาถูกขังรอกระบวนการต่างๆ ของศาลเกือบ 7 ชั่วโมง โดยเพื่อนที่มาให้กำลังใจก็ใช้เวลารอให้เทพได้รับการปล่อยตัวตลอดทั้งวันเช่นกัน

    ++บุกค้น-ยึดโน้ตบุ๊กของเพื่อนที่ต้องใช้เรียน ทั้งที่ไม่เกี่ยวกับคดี ล่าสุด ตร.ยังไม่คืน++

    อย่างไรก็ตาม ในช่วงก่อนหน้าที่เทพจะเข้าแสดงตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายจับนั้น ตำรวจหลายนายได้เข้าค้นห้องพักของมิ้นท์ (นามสมมติ) เพื่อนสนิทของเทพ ขณะที่มิ้นท์ไม่อยู่ โดยทุบลูกบิดประตูเข้าไปค้นจนข้าวของกระจัดกระจาย เมื่อมิ้นท์กลับมาที่ห้องจึงพบว่า กระเป๋าคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กซึ่งใส่เสื้อผ้าไว้ข้างใน พร้อมทั้งกล่องใส่ของ 1 ใบ หายไป นอกจากนี้ มิ้นท์ยังทราบในภายหลังอีกว่า ตำรวจได้ยึดคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กของมินท์จากห้องเพื่อนซึ่งอยู่หอพักเดียวกันไปด้วย โดยทั้งหมดนี้ มินท์ไม่ได้บันทึกการตรวจยึดมาเป็นหลักฐาน ยิ่งไปกว่านั้น มิ้นท์ไม่ได้เป็นผู้ต้องหา แต่กลับถูกค้นห้องและถูกยึดสิ่งของไป

    ทนายความเคยสอบถามถึงโน้ตบุ๊กเครื่องดังกล่าว เนื่องจากมินท์จำเป็นต้องใช้ในการเรียนออนไลน์และทำโครงงานส่งอาจารย์ พนักงานสอบสวนอ้างว่า ต้องส่งไปตรวจที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 3 จ.นครราชสีมา เมื่อเวลาผ่านไปราว 1 เดือน ทนายความสอบถามความคืบหน้า พนักงานสอบสวนแจ้งว่า ไม่ได้ส่งไปตรวจแล้ว ให้มิ้นท์ไปรับคืนได้

    แต่ล่าสุด เมื่อมิ้นท์ไปขอคอมพิวเตอร์คืน พนักงานสอบสวนกลับบอกว่า จะให้คืนชั่วคราว แค่ให้เอาไปใช้เรียนเท่านั้น ไม่ใช่ให้คืนเลย โดยต้องทำเรื่องเสนอให้ผู้กำกับเซ็นอนุมัติก่อน และจนถึงปัจจุบันมินท์ยังไม่ได้รับคอมพิวเตอร์ของตนเองคืนไปใช้ในการเรียน ทั้งที่ไม่ได้เกี่ยวข้องในคดี ซึ่งสุดท้ายก็ไม่ได้เป็นของกลางที่อัยการขอให้ศาลยึดหากมีคำพิพากษาว่าเทพกระทำผิดตามฟ้องด้วย

    (อ้างอิง: https://tlhr2014.com/archives/37947)
  • นัดคุ้มครองสิทธิ เทพ, ทนายจำเลย และ ผอ.วิทยาลัยเทคนิคขอนแก่น ผู้เสียหาย มาศาล ผอ.วิทยาลัยเทคนิคขอนแก่น ยื่นคำร้องขอให้ชดเชยค่าเสียหาย จำนวน 85,120 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปี ตั้งแต่วันเกิดเหตุ หากจำเลยชำระก็จะไม่ติดใจเอาความในทางอาญา และทางแพ่ง

    จำเลยให้การรับสารภาพตามคำให้การลงวันที่วันนี้ โดยให้เหตุผลว่าทำไปด้วยความคึกคะนองและรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ขอให้ศาลลงโทษสถานเบา แต่เรื่องค่าเสียหาย ทนายขอให้นำค่าเสื่อมราคามาคิดด้วย รวมทั้งได้ต่อรองขอให้จำเลยทำการซ่อมแซม หรือขอลดหย่อนค่าเสียหาย เนื่องจากจำเลยยังเป็นนักศึกษา ไม่มีรายได้

    ผอ.วิทยาลัยเทคนิคฯ แถลงว่า ค่าเสียหายที่ประเมินมาเป็นราคาที่ต่ำกว่าราคาจริงแล้ว และไม่สามารถลดหย่อนได้ เนื่องจากเป็นทรัพย์สินของทางราชการ

    ศาลติงฝ่ายจำเลยว่า การคิดค่าเสื่อมราคาเป็นความคิดที่เลื่อนลอย และกรณีเช่นนี้ไม่สามารถซ่อมแซมหรือทำใหม่ทดแทนของเดิมได้ มีแต่นำของเดิมมาคืนเท่านั้น หากไม่สามารถนำของเดิมมาคืนได้ ก็ต้องชดใช้เป็นค่าเสียหาย

    ศาลยังกล่าวกับจำเลยว่า ถ้าสามารถหามาชำระได้ ศาลจะรอลงอาญา และปรับให้น้อย เนื่องจากเข้าเงื่อนไข 3 ข้อ ให้ลงโทษทางอาญาสถานเบา คือ ไม่มีประวัติกระทำผิด รับสารภาพ และพยายามบรรเทาผลร้าย

    ด้านจำเลยรับว่า เป็นไม่มีความพร้อมจะชำระค่าเสียหายทั้งก้อน ขอชำระก้อนแรก ประมาณ 20,000 บาท ใน 3 เดือนนี้ แล้วจะทยอยชำระต่อไป จนครบตามข้อตกลง ศาลนัดฟังผลการชำระเงินและฟังคำพิพากษาวันที่ 27 เม.ย. 2565

  • เทพ พร้อมทนายจำเลย เดินทางไปที่ศาลเพื่อวางเงินค่าเสียหายจำนวน 50,000 บาท ต่อศาล พร้อมทั้งยื่นคำแถลงประกอบคำรับสารภาพ มีรายละเอียดว่า

    ตามที่จําเลยได้แถลงต่อศาลและผู้เสียหายว่า จะขวนขวายหาเงินมาชําระค่าเสียหายให้กับผู้เสียหายในวันนัดนั้น ในวันนี้จําเลยได้รวบรวมเงินจํานวน 50,000 บาท วางไว้กับศาลเพื่อให้ผู้เสียหายมารับไป โดยจําเลยตระหนักถึงความเสียหายที่ได้ทําลงไป และจะพยายามหาเงินมาชดใช้ค่าเสียหายจนครบ

    ทั้งนี้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ได้ให้อํานาจและดุลพินิจแก่ศาลที่จะใช้วิธีการลงโทษจําเลยโดยให้คํานึงถึงความเหมาะสมกับอายุ ประวัติ ความประพฤติ สติปัญญา การศึกษาอบรม สุขภาพภาวะแห่งจิต นิสัย อาชีพ และสิ่งแวดล้อมของจําเลย หรือสภาพความผิด หรือการรู้สึกความผิด และพยายามบรรเทาผลร้ายที่เกิดขึ้น หรือเหตุอื่นอันควรปราณี

    จําเลยไม่เคยมีประวัติต้องโทษจําคุกมาก่อน ทั้งเป็นการกระทําความผิดครั้งแรก ขณะจําเลยมีอายุ 18 ปี กําลังศึกษาในระดับ ปวช.3 วิทยาลัยเทคนิคขอนแก่น จําเลยกระทําความผิดครั้งนี้โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และเมื่อวันที่ 13 ม.ค. 2565 จําเลยได้เข้าพบ ผอ.วิทยาลัยเทคนิคขอนแก่น เพื่อขอขมาต่อคณะครู และต่อสถาบันการศึกษา

    ด้วยเหตุดังกล่าวข้างต้น จึงขอให้ศาลให้โอกาสจําเลย ลงโทษจําเลยในสถานเบา หรือกําหนดวิธีการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 โดยจําเลยขอให้สัญญาต่อศาลว่า หากศาลกําหนดวิธีการให้จําเลย ไม่ว่าจะเป็นการให้จําเลยไปรายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ หรือให้จําเลยบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์ จําเลยจะปฏิบัติตามคําพิพากษาอย่างเคร่งครัด

    (อ้างอิง: คำร้องขอวางเงินเยียวยาความเสียหายและคำแถลงประกอบคำรับสารภาพ ศาลจังหวัดขอนแก่น คดีหมายเลขดำที่ อ.869/2564 ลงวันที่ 7 เม.ย. 2565)
  • ก่อนศาลอ่านคำพิพากษา ทนายจำเลยพร้อมทั้งเทพแถลงว่า ขอเวลาอีก 3 เดือน เพื่อนำเงินค่าเสียหายอีก 35,120 บาท มาชำระให้ครบ ผอ.วิทยาลัยเทคนิค ผู้เสียหาย ไม่คัดค้าน ศาลจึงมีคำสั่งให้พนักงานคุมประพฤติสืบเสาะและพินิจจำเลย นัดติดตามผลการชำระค่าเสียหาย และเลื่อนฟังคำพิพากษาไปเป็นวันที่ 27 ก.ค. 2565 เวลา 09.30 น.

    (อ้างอิง: รายงานกระบวนพิจารณา ศาลจังหวัดขอนแก่น คดีหมายเลขดำที่ อ.869/2564 ลงวันที่ 27 เม.ย. 2565 และ https://tlhr2014.com/archives/42956)
  • เทพ พร้อมทนายจำเลย เดินทางไปที่ศาลเพื่อวางเงินค่าเสียหายที่เหลืออยู่อีก 35,120 บาท ต่อศาล พร้อมทั้งยื่นคำร้องขอวางเงินเยียวยาความเสียหาย มีรายละเอียดว่า

    ตามที่จําเลยได้แถลงต่อศาลและผู้เสียหายว่า จะขวนขวายหาเงินมาชําระค่าเสียหายให้กับผู้เสียหายในวันนัดนั้น ในวันนี้จําเลยได้รวบรวมเงินจํานวน 35,120 บาท วางไว้กับศาลเพื่อให้ผู้เสียหายมารับไป ซึ่งครบถ้วนตามที่ผู้เสียหายเรียกร้องมาในคดีนี้แล้ว

    จึงขอให้ศาลให้โอกาสจําเลย ลงโทษจําเลยในสถานเบา หรือกําหนดวิธีการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ให้เหมาะสมกับอายุ ประวัติ ความประพฤติ สติปัญญา การศึกษาอบรม สุขภาพภาวะแห่งจิต นิสัย อาชีพ และสิ่งแวดล้อมของจําเลย หรือสภาพความผิด หรือการรู้สึกความผิด และพยายามบรรเทาผลร้ายที่เกิดขึ้น หรือเหตุอื่นอันควรปราณี

    (อ้างอิง: คำร้องขอวางเงินเยียวยาความเสียหาย ศาลจังหวัดขอนแก่น คดีหมายเลขดำที่ อ.869/2564 ลงวันที่ 19 ก.ค. 2565)
  • นัดฟังรายงานการสืบเสาะ ฟังผลการชำระเงิน และฟังคำพิพากษา เทพ ทนายจำเลย และตัวแทนผู้เสียหายมาศาล ศาลอ่านรายงานการสืบเสาะและพินิจให้เทพฟัง รายละเอียดโดยสรุปว่า

    จากการตรวจสอบ ไม่ปรากฏประวัติกระทำความผิดมาก่อน จำเลยและผู้เสียหายไม่มีเหตุโกรธเคือง วันเกิดเหตุช่วงค่ำ จำเลยและเพื่อนในวิทยาลัยตั้งวงดื่มสุราและมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมือง รวมถึงความขัดแย้งทางความคิดที่มีต่อสถาบันกษัตริย์ จนกระทั่งดึก จำเลยมีอาการมึนเมา และเกิดความคิดต่อต้านสถาบันกษัตริย์ จึงขี่มอเตอร์ไซค์ออกไปแวะซื้อน้ำมันที่ปั๊มหยอดเหรียญ 20 บาท ขับต่อไปที่หน้าวิทยาลัยเทคนิค นำน้ำมันที่ซื้อมาเทราดพระบรมฉายาลักษณ์ ร.10 จนหมดขวด และจุดไฟแช็ค ก่อนขี่มอเตอร์ไซค์กลับ

    ทั้งนี้ เจ้าพนักงานคุมประพฤติมีความเห็นว่า จากสภาพความผิดและพฤติการณ์การกระทำความผิด เห็นว่า จำเลยกระทำความผิดเนื่องจากเกิดความคิดชั่ววูบ โดยที่จำเลยไม่เคยมีการกระทำความผิดในลักษณะเดียวกันนี้มาก่อน

    หลังศาลอ่านรายงานการสืบเสาะฯ จบ ได้ถามเทพว่า มีอะไรจะคัดค้านมั้ย เทพตอบว่า ไม่คัดค้าน แต่ศาลแจ้งว่าเนื่องจากรออ่านรายงานการสืบเสาะให้จำเลยฟัง ประกอบกับจำเลยมาวางเงินค่าเสียหายส่วนที่เหลืออยู่จำนวน 35,120 บาท มาวางจนครบเมื่อวันที่ 19 ก.ค. 2565 ก่อนหน้านัดไม่ถึง 15 วัน ทำให้ส่งคำพิพากษาให้ภาคตรวจไม่ทัน จึงเลื่อนอ่านคำพิพากษาไปอีกนัด โดยนัดอีกครั้งวันที่ 31 ส.ค. 2565

    ทั้งนี้ ศาลระบุว่า อีก 2 คดีศาลได้พิพากษารอการกำหนดโทษไปแล้ว คดีนี้ก็คงจะใช้บรรทัดฐานเดียวกัน เนื่องจากไม่มีประวัติกระทำผิด รู้สำนึก และพยายามบรรเทาผลร้ายเช่นเดียวกับจำเลยในทั้งสองคดี

    (อ้างอิง: รายงานกระบวนพิจารณา ศาลจังหวัดขอนแก่น คดีหมายเลขดำที่ อ.869/2564 ลงวันที่ 27 ก.ค. 2565)
  • เทพและเพื่อนเดินทางมาศาลพร้อมทนายความ ระหว่างรอศาลออกอ่านคำพิพากษา เทพเล่าว่า ปัจจุบันเขาเข้าเรียนต่อระดับ ปวส.สาขาวิจิตรศิลป์ ที่วิทยาลัยแห่งใหม่ แม้จะเปลี่ยนสาขาไปจากช่างโยธาที่เรียนตอน ปวช. แต่ก็เป็นสิ่งที่เขาอยากเรียนมาตั้งแต่เด็ก

    เทพเช่าหอพักอยู่ลำพัง ทำงานหารายได้เลี้ยงตัวเองและเป็นค่าเทอม เนื่องจากพ่อเสียชีวิตได้หลายปีแล้ว ส่วนแม่แยกไปอยู่ที่อื่น มีญาติคือป้าที่บางครั้งก็ส่งค่าใช้จ่ายให้เขาบ้างตามกำลังของป้า การที่เขาเรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย ทำให้รายได้จากการทำงานและจากป้าเพียงพอแค่ใช้ชีวิตประจำวันและการเรียนเท่านั้น ค่าเสียหายในคดีก้อนใหญ่จึงเป็นเรื่องที่สุดความสามารถ

    เทพเคยเล่าว่า เขาเตรียมใจที่จะติดคุกไว้แล้ว เพราะคิดว่าคงไม่มีทางหาเงินมาชำระค่าเสียหายได้ทัน แต่ด้วยความช่วยเหลือของ “ครูใหญ่” อรรถพล บัวพัฒน์ นักกิจกรรม “ขอนแก่นพอกันที” ที่ระดมเงินช่วยเหลือจากประชาชนที่เห็นใจเทพ รวมทั้งขอความช่วยเหลือจากกองทุนราษฎรประสงค์ เมื่อรวมกับเงินเก็บเล็กน้อยของเขาทำให้เขาสามารถวางเงินค่าเสียหายต่อศาล เพื่อให้ทางวิทยาลัยเทคนิคขอนแก่นมารับไปได้

    อย่างไรก็ตาม แม้ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 27 เม.ย. 2565 ศาลนี้จะมีคำพิพากษาคดีวางเพลิงพระบรมฉายาลักษณ์ 2 คดี โดยให้รอการกำหนดโทษ 2 ปี และในนัดฟังผลการชำระเงินในคดีนี้ล่าสุด ศาลก็กล่าวกับเทพว่า ก็คงจะใช้บรรทัดฐานเดียวกับอีก 2 คดี เนื่องจากไม่มีประวัติกระทำผิด รู้สำนึก และพยายามบรรเทาผลร้ายโดยการชำระค่าเสียหายจนครบเช่นเดียวกับจำเลยในทั้งสองคดี แต่เทพก็เปิดเผยก่อนเข้าฟังคำพิพากษาว่า เขาเองก็ยังเผื่อใจไว้อยู่บ้างว่า คำพิพากษาอาจจะไม่ได้ออกมาเหมือนกับ 2 คดีแรก
    .
    ราว 10.00 น. สมเด็จ จุลราช ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลจังหวัดขอนแก่น ออกนั่งอ่านคำพิพากษา รายละเอียดว่า พิพากษาว่า จําเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 217, 358 การกระทําของจําเลยเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานวางเพลิงเผาทรัพย์ของผู้อื่นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 217 ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด

    เมื่อพิจารณารายงานการสืบเสาะและพินิจจําเลยของพนักงานคุมประพฤติแล้ว ไม่ปรากฏว่าจําเลยได้รับโทษจําคุกมาก่อน จําเลยสํานึกผิดโดยให้การรับสารภาพ และพยายามบรรเทาผลร้ายที่เกิดขึ้น โดยชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้ร้องจนครบถ้วน ผู้ร้องไม่ติดใจเอาความจําเลยทั้งในทางแพ่งและทางอาญาอีกต่อไป และจําเลยอยู่ในวิสัยที่จะปรับปรุงแก้ไขให้กลับตัวเป็นพลเมืองดีได้ เห็นสมควรให้โอกาสจําเลยกลับตนเป็นพลเมืองดี

    จึงให้รอการกําหนดโทษไว้ 2 ปี โดยกําหนดเงื่อนไขคุมความประพฤติให้จําเลยไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 3 ครั้ง ภายในกำหนดเวลา 2 ปี เพื่อพนักงานคุมประพฤติจะได้สอบถาม แนะนํา ช่วยเหลือ หรือ ตักเตือนจําเลยตามที่เห็นสมควรเกี่ยวกับเรื่องที่ถูกคุมประพฤติ และให้จําเลยละเว้นการประพฤติใดอันอาจนําไปสู่การกระทําความผิดทํานองนี้อีก กับให้จําเลยทํากิจกรรมบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์ตามที่พนักงานคุมประพฤติเห็นสมควรเป็นเวลา 24 ชั่วโมง
    .
    ในช่วงปี 2564 มีเหตุวางเพลิงวางเพลิงเผาบรมฉายาลักษณ์ในจังหวัดขอนแก่นและตำรวจติดตามจับกุมผู้ต้องสงสัยมาดำเนินคดีรวม 3 คดี ซึ่งทั้ง 3 คดี พนักงานสอบสวนและอัยการไม่ได้ตั้งข้อกล่าวหาตามมาตรา 112 เหมือนเช่นคดีที่มีการแสดงออกต่อพระบรมฉายาลักษณ์ในพื้นที่อื่นๆ ซึ่งถือว่า เป็นการตีความมาตรา 112 โดยไม่ขยายขอบเขตให้เกินกว่าตัวบท

    นอกจากนี้ ทั้ง 3 คดี ศาลจังหวัดขอนแก่นยังมีคำพิพากษาให้รอการกำหนดโทษไว้ 2 ปี ซึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ได้ให้อํานาจและดุลพินิจแก่ศาลไว้ โดยระบุว่า ในคดีที่ศาลจะลงโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ถ้าปรากฏว่าจำเลยไม่เคยรับโทษจำคุกมาก่อน เมื่อศาลได้คำนึงถึงอายุ ประวัติ ความประพฤติ สติปัญญา การศึกษาอบรม สุขภาพ ภาวะแห่งจิต นิสัย อาชีพ และสิ่งแวดล้อมของจำเลย หรือสภาพความผิด หรือการรู้สึกความผิด และพยายามบรรเทาผลร้ายที่เกิดขึ้น หรือเหตุอื่นอันควรปรานีแล้ว ศาลจะพิพากษาว่าผู้นั้นมีความผิดแต่รอการกำหนดโทษหรือกำหนดโทษแต่รอการลงโทษไว้ โดยจะกำหนดเงื่อนไขเพื่อคุมความประพฤติของผู้นั้นด้วยหรือไม่ก็ได้

    (อ้างอิง: รายงานกระบวนพิจารณา ศาลจังหวัดขอนแก่น คดีหมายเลขดำที่ อ.869/2564 คดีหมายเลขแดงที่ อ.885/2565 ลงวันที่ 31 ส.ค. 2565 และ https://tlhr2014.com/archives/47761)

ชั้นสอบสวน

ผู้ถูกดำเนินคดี :
เทพ (นามสมมติ)

การอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว
อนุญาต

ศาลชั้นต้น

ผู้ถูกดำเนินคดี :
เทพ (นามสมมติ)

ชื่อองค์คณะผู้พิพากษา :
  1. สมเด็จ จุลราช

ผลการพิพากษา
ลงโทษ
การอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว
อนุญาต
พิพากษาวันที่ : 27-07-2022

แหล่งที่มา : กรณีที่ศูนย์ทนายความฯ ติดตามสัมภาษณ์