ผู้ถูกดำเนินคดี
ข้อหา
หมายเลขคดี
- หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ (มาตรา 112)
- การชุมนุม
- พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาฯ (ใช้เครื่องขยายเสียง)
ผู้กล่าวหา
- ไม่ทราบชื่อ (ตำรวจ)
- หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ (มาตรา 112)
- การชุมนุม
- พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาฯ (ใช้เครื่องขยายเสียง)
ผู้กล่าวหา
- ไม่ทราบชื่อ (ตำรวจ)
- หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ (มาตรา 112)
- การชุมนุม
- พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาฯ (ใช้เครื่องขยายเสียง)
ผู้กล่าวหา
- ไม่ทราบชื่อ (ตำรวจ)
ผู้ถูกดำเนินคดี
ข้อหา
- การชุมนุม
- พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาฯ (ใช้เครื่องขยายเสียง)
- หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ (มาตรา 112)
หมายเลขคดี
ผู้กล่าวหา
- 1
ข้อหา
- การชุมนุม
- พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาฯ (ใช้เครื่องขยายเสียง)
- หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ (มาตรา 112)
หมายเลขคดี
ผู้กล่าวหา
- 1
ข้อหา
- การชุมนุม
- พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาฯ (ใช้เครื่องขยายเสียง)
- หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ (มาตรา 112)
หมายเลขคดี
ผู้กล่าวหา
- 1
ความสำคัญของคดี
“เก็ท” โสภณ สุรฤทธิ์ธำรง, "โจเซฟ" (นามสมมติ) และ "มิ้นท์" (นามสมมติ) 3 นักกิจกรรม ถูกดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จากกรณีร่วมปราศรัยในกิจกรรม “ฟื้นฝอยหาตะเข็บ 240 ปี ใครฆ่าพระเจ้าตาก” ซึ่งจัดโดยกลุ่มโมกหลวงริมน้ำเมื่อวันที่ 6 เม.ย. 2565 บริเวณอนุสาวรีย์พระเจ้าตากสิน วงเวียนใหญ่ โดยคำปราศรัยกล่าวถึงการสวรรคตของพระเจ้าตากสิน และการสถาปนาราชวงศ์จักรี
ทั้งสามถูกศาลอาญาธนบุรีออกหมายจับ โดยไม่เคยถูกออกหมายเรียกมาก่อน หลังถูกจับกุมโจเซฟและมิ้นท์ได้รับการประกันตัวในชั้นฝากขังด้วยเงินสดคนละ 200,000 บาท จากกองทุนราษฎรประสงค์ ส่วนโสภณถูกแจ้งข้อกล่าวหาในเรือนจำขณะถูกขังเนื่องจากไม่ได้รับสิทธิประกันตัวในคดีมาตรา 112 #ทัวร์มูล่าผัว
กรณีดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาการตีความประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ให้ขยายครอบคลุมไปถึงอดีตกษัตริย์ ทั้งที่ไม่ได้บัญญัติไว้ในกฎหมาย ซึ่งขัดต่อหลักกฎหมายอาญาที่ต้องตีความอย่างเคร่งครัด และถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือปิดกั้นเสรีภาพในการความเห็นของประชาชน กระทบต่อเสรีภาพการแสดงออกของประชาชนเป็นอย่างยิ่ง
ทั้งสามถูกศาลอาญาธนบุรีออกหมายจับ โดยไม่เคยถูกออกหมายเรียกมาก่อน หลังถูกจับกุมโจเซฟและมิ้นท์ได้รับการประกันตัวในชั้นฝากขังด้วยเงินสดคนละ 200,000 บาท จากกองทุนราษฎรประสงค์ ส่วนโสภณถูกแจ้งข้อกล่าวหาในเรือนจำขณะถูกขังเนื่องจากไม่ได้รับสิทธิประกันตัวในคดีมาตรา 112 #ทัวร์มูล่าผัว
กรณีดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาการตีความประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ให้ขยายครอบคลุมไปถึงอดีตกษัตริย์ ทั้งที่ไม่ได้บัญญัติไว้ในกฎหมาย ซึ่งขัดต่อหลักกฎหมายอาญาที่ต้องตีความอย่างเคร่งครัด และถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือปิดกั้นเสรีภาพในการความเห็นของประชาชน กระทบต่อเสรีภาพการแสดงออกของประชาชนเป็นอย่างยิ่ง
พฤติการณ์ของคดีตามเอกสารคดี
บันทึกการแจ้งข้อกล่าวหา บรรยายพฤติการณ์คดีว่า
เมื่อวันที่ 6 เม.ย. 2565 เวลาประมาณ 16.00 – 17.15 น. มีการชุมนุมของกลุ่มโมกหลวงริมน้ำ หัวข้อ “ฟื้นฝอยหาตะเข็บ 240 ปี ใครฆ่าพระเจ้าตาก” ที่บริเวณวงเวียนใหญ่ ในระหว่างการชุมนุม มีโสภณ หรือเก็ท สุรฤทธิ์ธํารง ผู้ต้องหาที่ 1, โจเซฟ ผู้ต้องหาที่ 2 และมิ้นท์ ผู้ต้องหาที่ 3 ขึ้นปราศรัย โดยผู้ต้องหาทั้งสามได้ปราศรัย มีข้อความอันเป็นการหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์
โสภณปราศรัยถึงความเป็นมาของวันจักรี นำเสนอประเด็นที่ว่ารัชกาลที่ 1 เป็นคนแรกที่ทำการรัฐประหารยึดอำนาจจากพระเจ้าตากสิน โดยเห็นว่าพระเจ้าตากสินไม่ได้เป็นบ้าตามที่มีการนำเสนอ รวมทั้งยังเชื่อมโยงกับปัญหาของสถาบันกษัตริย์ไทยในรัชกาลที่ 10 ที่มีความเชื่อทั้งทางศาสนาพุทธ ผี และฮินดู
โจเซฟปราศรัยถึงเหตุการณ์ที่พระเจ้าตากถูกนายทองด้วงประหาร ก่อนปราบดาภิเษกขึ้นเป็นกษัตริย์แทน มีการฆ่าฟันพระญาติ 131 คน โดยไม่ได้มีข้อความใดที่เกี่ยวข้องกับกษัตริย์รัชกาลปัจจุบัน
มิ้นท์ปราศรัยถึงการเสียชีวิตของพระเจ้าตากว่า ไม่ได้โดนทุบด้วยท่อนจันทร์ หรือหนีไปบวช ตามที่มีการบันทึกเป็นประวัติศาสตร์ แต่ถูกทองด้วงสั่งประหารชีวิตด้วยการตัดคอ รวมทั้งกล่าวถึงการสร้างอนุสาวรีย์ของรัชกาลที่ 5
(อ้างอิง: บันทึกแจ้งข้อกล่าวหา เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ลงวันที่ 17 พ.ค. 2565)
เมื่อวันที่ 6 เม.ย. 2565 เวลาประมาณ 16.00 – 17.15 น. มีการชุมนุมของกลุ่มโมกหลวงริมน้ำ หัวข้อ “ฟื้นฝอยหาตะเข็บ 240 ปี ใครฆ่าพระเจ้าตาก” ที่บริเวณวงเวียนใหญ่ ในระหว่างการชุมนุม มีโสภณ หรือเก็ท สุรฤทธิ์ธํารง ผู้ต้องหาที่ 1, โจเซฟ ผู้ต้องหาที่ 2 และมิ้นท์ ผู้ต้องหาที่ 3 ขึ้นปราศรัย โดยผู้ต้องหาทั้งสามได้ปราศรัย มีข้อความอันเป็นการหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์
โสภณปราศรัยถึงความเป็นมาของวันจักรี นำเสนอประเด็นที่ว่ารัชกาลที่ 1 เป็นคนแรกที่ทำการรัฐประหารยึดอำนาจจากพระเจ้าตากสิน โดยเห็นว่าพระเจ้าตากสินไม่ได้เป็นบ้าตามที่มีการนำเสนอ รวมทั้งยังเชื่อมโยงกับปัญหาของสถาบันกษัตริย์ไทยในรัชกาลที่ 10 ที่มีความเชื่อทั้งทางศาสนาพุทธ ผี และฮินดู
โจเซฟปราศรัยถึงเหตุการณ์ที่พระเจ้าตากถูกนายทองด้วงประหาร ก่อนปราบดาภิเษกขึ้นเป็นกษัตริย์แทน มีการฆ่าฟันพระญาติ 131 คน โดยไม่ได้มีข้อความใดที่เกี่ยวข้องกับกษัตริย์รัชกาลปัจจุบัน
มิ้นท์ปราศรัยถึงการเสียชีวิตของพระเจ้าตากว่า ไม่ได้โดนทุบด้วยท่อนจันทร์ หรือหนีไปบวช ตามที่มีการบันทึกเป็นประวัติศาสตร์ แต่ถูกทองด้วงสั่งประหารชีวิตด้วยการตัดคอ รวมทั้งกล่าวถึงการสร้างอนุสาวรีย์ของรัชกาลที่ 5
(อ้างอิง: บันทึกแจ้งข้อกล่าวหา เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ลงวันที่ 17 พ.ค. 2565)
ความคืบหน้าของคดี
-
วันที่: 10-05-2022นัด: จับกุมโจเซฟและมิ้นท์ตามหมายจับประมาณ 12.00 น. “โจเซฟ” (สงวนชื่อสกุล) นักกิจกรรมทางการเมือง ถูกตำรวจจับกุมตามหมายจับข้อหา หมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา112 และร่วมกันใช้เครื่องขยายเสียงไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งออกโดยศาลอาญาธนบุรี กรณีร่วมปราศรัยในกิจกรรม “ฟื้นฝอยหาตะเข็บ 240 ปี ใครฆ่าพระเจ้าตาก” ซึ่งจัดโดยกลุ่มโมกหลวงริมน้ำเมื่อวันที่ 6 เม.ย. 2565 บริเวณอนุสาวรีย์พระเจ้าตากสิน วงเวียนใหญ่
เวลา 14.00 น. ทนายความได้เข้าพบโจเซฟ ซึ่งถูกนำตัวจากศูนย์การค้าแห่งหนึ่งใน จ.นนทบุรี มาควบคุมไว้ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ก่อนตำรวจจะเริ่มทำบันทึกจับกุม
จากนั้น พ.ต.ท.ยุทธนา นังคลา พนักงานสอบสวน สน.บุปผาราม ได้แจ้งพฤติการณ์คดีโดยสรุปว่า โจเซฟได้ปราศรัยกล่าวถึงเหตุการณ์ที่พระเจ้าตากถูกนายทองด้วงประหาร ก่อนปราบดาภิเษกขึ้นเป็นกษัตริย์แทน มีการฆ่าฟันพระญาติ 131 คน ทั้งนี้ การปราศรัยไม่ได้มีข้อความใดที่เกี่ยวข้องกับกษัตริย์รัชกาลปัจจุบัน
ก่อนแจ้งข้อกล่าวหาโจเซฟว่า กระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 “ดูหมิ่น หมิ่นประมาท หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ฯ” และร่วมกันโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยโจเซฟให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และขอให้การเป็นหนังสือภายในวันที่ 10 มิ.ย. 2565
โจเซฟยังให้การไว้ด้วยว่า หนังสือต่างๆ เขียนกันถึงเหตุการณ์ที่ตนปราศรัยไว้มากมาย เช่น หนังสือศิลปวัฒนธรรม นอกจากนี้ยังมีนักคิดนักเขียนหลายรายที่มีการตั้งประเด็นวิเคราะห์เรื่องการถูกประหาร หรือลี้ภัยของพระเจ้าตากไว้หลายท่าน เช่น ส.ศิวรักษ์, นิธิ เอียวศรีวงศ์ หรือสุจิตต์ วงษ์เทศ และได้กล่าวถึงคำพิพากษาของศาลที่ว่า มาตรา 112 ไม่คุ้มครองไปถึงอดีตกษัตริย์
ต่อมา ในเวลา 15.30 น. พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวโจเซฟเดินทางไปยังศาลอาญาธนบุรีเพื่อขออำนาจศาลฝากขังครั้งที่ 1 เป็นเวลา 12 วัน และคัดค้านการประกันตัว ก่อนที่ศาลจะอนุญาตให้ฝากขัง และให้ประกันตัวในเวลา 17.00 น. ด้วยหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 200,000 บาท จากกองทุนราษฎรประสงค์ โดยศาลกำหนดเงื่อนไข 3 ข้อ ได้แก่ ห้ามกระทำการในลักษณะที่ถูกกล่าวหาอีกหรือกระทำการอันเสื่อมเสียต่อสถาบันพระมหากษัตริย์, ห้ามเข้าร่วมกิจกรรมที่ก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง และห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร ศาลนัดรายงานตัวในวันที่ 23 พ.ค. 2565 เวลา 09.00 น.
หลังโจเซฟได้ประกันไม่นาน ราว 17.20 น. “มิ้นท์” นักกิจกรรมกลุ่ม “นาดสินปฏิวัติ” ก็ถูกจับกุมอีกรายตามหมายจับในข้อหาและจากเหตุเดียวกัน ที่ร้านส้มตำแห่งหนึ่งแถวแจ้งวัฒนะ ขณะกำลังเดินทางออกจากร้าน หลังเจ้าหน้าที่แสดงหมายจับ มิ้นท์ได้ขอขับรถไปเอง โดยมีสมยศ พฤกษาเกษมสุข นักกิจกรรม ร่วมเดินทางไปพร้อมกับชุดจับกุม 2 นาย เจ้าหน้าที่แจ้งให้ขับรถไปยัง บช.ปส. เช่นเดียวกับโจเซฟ เมื่อไปถึงตำรวจได้เร่งทำบันทึกจับกุมเสร็จก่อนทนายความจะเดินทางไปถึง
จากนั้น พนักงานสอบสวน สน.บุปผาราม ได้แจ้งพฤติการณ์คดีให้มิ้นท์ทราบ ระบุว่า เมื่อวันที่ 6 เม.ย. 2565 เวลาประมาณ 16.00 – 17.15 น. มีการชุมนุมของกลุ่มโมกหลวงริมน้ำ หัวข้อ “ฟื้นฝอยหาตะเข็บ 240 ปี ใครฆ่าพระเจ้าตาก” ที่บริเวณวงเวียนใหญ่ ในระหว่างการชุมนุม มีโสภณ หรือเก็ท สุรฤทธิ์ธํารง ผู้ต้องหาที่ 1, โจเซฟ ผู้ต้องหาที่ 2 และมิ้นท์ ผู้ต้องหาที่ 3 ขึ้นปราศรัย โดยผู้ต้องหาทั้งสามได้ปราศรัย มีข้อความอันเป็นการหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์
ทั้งนี้ ในส่วนของมิ้นท์ พนักงานสอบสวนได้ยกคำปราศรัย ที่กล่าวถึงการเสียชีวิตของพระเจ้าตากว่า ไม่ได้โดนทุบด้วยท่อนจันทร์ หรือหนีไปบวช ตามที่มีการบันทึกเป็นประวัติศาสตร์ แต่ถูกทองด้วงสั่งประหารชีวิตด้วยการตัดคอ รวมทั้งกล่าวถึงการสร้างอนุสาวรีย์ของรัชกาลที่ 5
พนักงานสอบสวนแจ้ง 2 ข้อกล่าวหาตามหมายจับเช่นเดียวกับโจเซฟ โดยมิ้นท์ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และขอให้การเป็นหนังสือภายในวันที่ 10 มิ.ย. 2565 หลังสอบปากคำ มิ้นท์ถูกควบคุมตัวไว้ที่ บช.ปส. 1 คืน เพื่อจะนำตัวไปขออำนาจศาลฝากขังในวันรุ่งขึ้น
คดีนี้ยังมีผู้ต้องหาอีกราย คือ “เก็ท” โสภณ สุรฤทธิ์ธำรง นักกิจกรรมกลุ่มโมกหลวงริมน้ำ ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกจับกุมและไม่ได้รับอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างการสอบสวนในคดี 112 กรณีปราศรัยในกิจกรรม #ทัวร์มูล่าผัว โดยเก็ทถูกขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มาตั้งแต่วันที่ 2 พ.ค. 2565 โดยตำรวจจะเดินทางเข้าไปแจ้งข้อกล่าวหาคดีนี้กับเก็ทในเรือนจำในวันที่ 17 พ.ค. 2565
(อ้างอิง: บันทึกจับกุม บช.ปส. ลงวันที่ 10 พ.ค. 2565 และ https://tlhr2014.com/archives/43563) -
วันที่: 11-05-2022นัด: ฝากขังมิ้นท์เวลา 10.00 น. พนักงานสอบสวน สน.บุปผาราม ควบคุมตัวมิ้นท์ไปยังศาลอาญาธนบุรีเพื่อขออำนาจศาลฝากขังครั้งที่ 1 หลังพนักงานสอบสวนยื่นคำร้องขอฝากขัง ศาลได้อนุญาตให้ฝากขัง ก่อนทนายความยื่นคำร้องขอประกันตัวระหว่างสอบสวน และศาลอนุญาตให้ประกันด้วยหลักทรัพย์จำนวน 200,000 บาท ใช้เงินจากกองทุนราษฎรประสงค์ โดยศาลกำหนด 3 เงื่อนไข เช่นเดียวกับโจเซฟ
(อ้างอิง: https://tlhr2014.com/archives/43563) -
วันที่: 17-05-2022นัด: แจ้งข้อกล่าวหาโสภณในเรือนจำพนักงานสอบสวน สน.บุปผาราม เข้าแจ้งข้อหา “เก็ท” โสภณ สุรฤทธิ์ธำรง นักศึกษาและนักกิจกรรมจากกลุ่มโมกหลวงริมน้ำ ภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ในคดีตามมาตรา 112 และใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต เหตุกรณีร่วมปราศรัยในกิจกรรม “ฟื้นฝอยหาตะเข็บ 240 ปี ใครฆ่าพระเจ้าตาก” เมื่อวันที่ 6 เม.ย. 2565 บริเวณอนุสาวรีย์พระเจ้าตากสิน วงเวียนใหญ่
ในคดีนี้ ตำรวจ สน.บุปผาราม ได้ขอศาลอาญาธนบุรีออกหมายจับผู้ต้องหา 3 ราย ได้แก่ “โจเซฟ”, “มิ้นท์” และโสภณ เมื่อวันที่ 5 พ.ค. 2565 โดยไม่เคยมีการออกหมายเรียกมาก่อน
ในส่วนของโสภณ พนักงานสอบสวนได้ประสานงานกับทนายความ เพื่อเข้าร่วมฟังการแจ้งข้อกล่าวหาภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดยมีครอบครัวของโสภณ 1 คน ในฐานะผู้ไว้วางใจ เข้าร่วมรับฟังการแจ้งข้อหาด้วย
พ.ต.ท.ยุทธนา นังคลา รองผู้กำกับสอบสวน และ พ.ต.ท.ศุภวุฒิ แป้นชุม สารวัตรสอบสวน สน.บุปผาราม ได้แจ้งพฤติการณ์ข้อกล่าวหาว่า โสภณได้ร่วมขึ้นปราศรัยในกิจกรรม “ฟื้นฝอยหาตะเข็บ 240 ปี ใครฆ่าพระเจ้าตาก” จัดโดยกลุ่มโมกหลวงริมน้ำ เมื่อวันที่ 6 เม.ย. 2565 บริเวณอนุสาวรีย์พระเจ้าตากสิน วงเวียนใหญ่ โดยตำรวจมีการถอดเทปเนื้อหาคำปราศรัยของโสภณราว 1 หน้ากระดาษ ที่มีเนื้อหากล่าวถึงความเป็นมาของวันจักรี นำเสนอประเด็นที่ว่ารัชกาลที่ 1 เป็นคนแรกที่ทำการรัฐประหารยึดอำนาจจากพระเจ้าตากสิน โดยเห็นว่าพระเจ้าตากสินไม่ได้เป็นบ้าตามที่มีการนำเสนอ รวมทั้งยังเชื่อมโยงกับปัญหาของสถาบันกษัตริย์ไทยในรัชกาลที่ 10 ที่มีความเชื่อทั้งทางศาสนาพุทธ ผี และฮินดู
พนักงานสอบสวนกล่าวหาว่า ข้อความปราศรัยของโสภณเข้าข่ายการหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ และเป็นการใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ โสภณได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และจะยื่นคำให้การเพิ่มเติมภายใน 30 วัน
ทั้งนี้ โสภณถูกกล่าวหาคดีมาตรา 112 เป็นคดีที่สองแล้ว โดยมีรายงานว่าเขายังถูกออกหมายจับในคดีที่ สน.นางเลิ้ง อีกคดีหนึ่ง ซึ่งพนักงานสอบสวนกำลังจะประสานงานการเข้าแจ้งข้อกล่าวหาในเรือนจำต่อไป
(อ้างอิง: บันทึกแจ้งข้อกล่าวหา เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ลงวันที่ 17 พ.ค. 2565 และ https://tlhr2014.com/archives/43759) -
วันที่: 31-05-2022นัด: อายัดตัวโสภณในช่วงค่ำ หลังศาลอาญาอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวโสภณในคดี 112 กรณีปราศรัยในการชุมนุม #ทัวร์มูล่าผัว และโสภณกำลังได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ตำรวจ สน.บุปผาราม ได้เดินทางไปอายัดตัวโสภณตามหมายจับในคดีนี้ แม้ว่าก่อนหน้านี้ พนักงานสอบสวนได้เข้าแจ้งข้อกล่าวหาโสภณในเรือนจำแล้ว เมื่อวันที่ 17 พ.ค. 2565 หมายจับจึงควรจะสิ้นผลไป
ตำรวจยืนยันว่าจะนำตัวโสภณไปที่ บช.ปส. โดยอ้างว่าหมายจับที่ออกโดยศาลอาญาธนบุรีนั้นยังไม่สิ้นผล อย่างไรก็ตาม โสภณได้ขอให้รอทนายความก่อน เมื่อทนายความเดินทางไปถึงได้ยืนยันว่า หากมีการอายัดตัวไป ทางครอบครัวของโสภณจะไปแจ้งความดำเนินคดีข้อหาปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ตามมาตรา 157 ที่ สน.ประชาชื่น ทำให้ในท้ายที่สุด ตำรวจไม่ได้ควบคุมตัวโสภณไป ระบุว่า จะออกหมายเรียกโสภณไปในภายหลัง ทำให้โสภณจึงได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ รวมเวลาถูกคุมขังทั้งหมด 30 วัน
(อ้างอิง: https://tlhr2014.com/archives/44337) -
วันที่: 06-06-2022นัด: ไต่สวนคำร้องขอถอนประกันมิ้นท์
สถานะ การอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว หรือ ผลการพิพากษา
ชั้นสอบสวน
ผู้ถูกดำเนินคดี :
โจเซฟ (นามสมมติ)
การอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว
อนุญาต
ผู้ถูกดำเนินคดี :
โสภณ สุรฤทธิ์ธำรง
การอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว
-
ผู้ถูกดำเนินคดี :
มิ้นท์ (นามสมมติ)
การอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว
อนุญาต
แหล่งที่มา : กรณีที่ศูนย์ทนายความฯ ติดตามสัมภาษณ์