สรุปความสำคัญ

ปริญญา (นามสมมติ) หนุ่มลูกจ้างชาวจังหวัดหนองบัวลำภู ถูกจับกุมและดำเนินคดีในข้อหา วางเพลิงเผาทรัพย์และทำให้เสียทรัพย์ จากการเผาพระบรมฉายาลักษณ์ ร.10 บริเวณสวนสาธารณะหนองบัว เมื่อวันที่ 30 ม.ค. 2565 หลังจากนั้นอัยการยังมีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(3) เพิ่มเติม อ้างว่า ปริญญาได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวช่วงเดือนมิถุนายน – ธันวาคม 2564 ในลักษณะหมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ รวม 10 โพสต์

ข้อมูลการละเมิด

  • ผู้ถูกละเมิด
    • ปริญญา (นามสมมติ)
  • ประเด็นการละเมิดสิทธิ
    • เสรีภาพการแสดงออก
    • สิทธิในกระบวนการยุติธรรม
  • ผู้ละเมิด
    • ตำรวจ

พฤติการณ์การละเมิด

8 ก.พ. 2565 ตำรวจ 20 กว่านาย ทั้งฝ่ายสืบ สภ.เมืองหนองบัวลำภู, ตำรวจภูธรภาค 4, กองบังคับการปราบปราม และ บก.ปอท. นำหมายจับและหมายค้นออกโดยศาลจังหวัดหนองบัวลำภู ลงวันที่ 7 ก.พ. 2565 เข้าจับกุมปริญญา (นามสมมติ) ที่บ้านในช่วงเช้าตรู่ ข้อหาวางเพลิง และทำให้เสียทรัพย์ โดยตำรวจแจ้งว่าเป็นหมายจับจากเหตุวางเพลิงรูป ร.10 ในสวนสาธารณะ จากนั้นตำรวจได้ถามถึงโทรศัพท์และพาสเวิร์ดเข้าเครื่อง เข้าค้นห้อง ยึดเสื้อผ้า รถกระบะ ก่อนควบคุมตัวปริญญาไปที่ สภ.เมืองหนองบัวลำภู โดยมีแม่ พี่สาว และพี่เขย ติดตามไปด้วย

นอกจากการทำบันทึกการจับกุม แจ้งข้อกล่าวหา “วางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น, ทำให้เสียทรัพย์” และสอบปากคำเกี่ยวกับเหตุการณ์วางเพลิง ตลอดจนถึงตรวจปัสสาวะ เก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อไปตรวจดีเอ็นเอ และทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุโดยตลอดกระบวนการไม่มีทนายความเข้าร่วมแล้ว พนักงานสอบสวนยังนำภาพแคปจากหน้าจอโทรศัพท์หลายภาพ เป็นโพสต์แสดงความเห็นวิจารณ์สถาบันกษัตริย์ในเฟซบุ๊กมาให้เขาเซ็นรับว่า เป็นผู้โพสต์ข้อความเหล่านั้น ทั้งที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์วางเพลิงที่แจ้งข้อกล่าวหา

ช่วงเย็น ปริญญาถูกนำตัวไปศาลจังหวัดหนองบัวลำภูเพื่อขอฝากขัง ก่อนที่จะถูกนำตัวไปขังที่เรือนจำจังหวัดหนองบัวลำภู หลังศาลอนุญาตให้ฝากขัง และญาติไม่ได้ยื่นประกันตัว

คำร้องขอฝากขังของพนักงานสอบสวนระบุพฤติการณ์คดีว่า เมื่อวันที่ 30 ม.ค. 2565 เวลา 03.18 น. พนักงานสอบสวนเวรได้รับแจ้งว่า มีเหตุเพลิงไหม้บริเวณสวนสาธารณะหนองบัว เมื่อเดินทางไปตรวจสอบพบซุ้มเฉลิมพระเกียรติ 1 ซุ้ม ได้รับความเสียหาย จากการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานจากกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุและบริเวณโดยรอบ พบบุคคลต้องสงสัยใช้รถยนต์กระบะขับมาจอดที่ริมถนนรอบบึงสาธารณะหนองบัว แล้วเข้าไปก่อเหตุวางเพลิงเผาซุ้มเฉลิมพระเกียรติ ก่อนกลับมาขับรถยนต์กระบะออกไปทางเดิม ซึ่งจากการสืบสวนทราบว่า บุคคลต้องสงสัยดังกล่าวคือ ปริญญา

10 เม.ย. 2565 ปริญญาได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำ รวมเวลาถูกขังระหว่างสอบสวน 61 วัน โดยเจ้าหน้าที่นัดให้ปริญญาไปรายงานตัวที่สำนักงานอัยการจังหวัดหนองบัวลำภูเดือนละครั้ง เอกสารที่เขาได้รับจากเรือนจำระบุสาเหตุที่ได้รับการปล่อยตัวว่า ครบกำหนดฝากขัง แต่พนักงานสอบสวน/อัยการไม่ยื่นคำร้องขอฝากขังต่อ

อย่างไรก็ตาม ความผิดฐานวางเพลิงเผาทรัพย์ มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน – 7 ปี ซึ่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 87 วรรคห้า ระบุว่า ศาลมีอำนาจสั่งขังได้ไม่เกิน 48 วัน กรณีนี้จึงน่าสงสัยว่า ปริญญาอาจจะถูกขังเกินกว่าที่กฎหมายให้อำนาจเจ้าหน้าที่ไว้

หลังได้รับการปล่อยตัว เจ้าหน้าที่ยังนัดให้ปริญญาไปรายงานตัวที่สำนักงานอัยการจังหวัดหนองบัวลำภู เดือนละครั้ง และต่อมาตำรวจโทรนัดให้เขาไปพบที่ สภ.เมืองหนองบัวลำภู อีกในวันที่ 8 มิ.ย. 2565

เมื่อปริญญาไปพบตำรวจตามนัดตามลำพังคนเดียว พนักงานสอบสวนระบุว่า อัยการมีคำสั่งให้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่ม จากนั้นได้แจ้งพฤติการณ์คดีเพิ่มเติมให้เขาทราบโดยไม่มีทนายความเข้าร่วมเช่นเดียวกับในวันที่เขาถูกจับกุมว่า ในโทรศัพท์มือถือที่ตรวจยึดไปจากปริญญา เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบพบว่า ปริญญาได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กของตนในลักษณะหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ ในช่วงเดือนมิถุนายน – ธันวาคม 2564 รวม 9 โพสต์

จากนั้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาปริญญาว่า “หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ฯ” เพิ่มเติมอีกข้อหา ครั้งนี้เขาให้การปฏิเสธ ระบุว่า เขาไม่ได้โพสต์เฉพาะเจาะจงถึงใคร หลังสอบปากคำเสร็จ ตำรวจปล่อยตัวกลับโดยไม่ได้ให้บันทึกแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมมาด้วย

ไม่ถึง 1 เดือนต่อมา วันที่ 4 ก.ค. 2565 ร.ต.อ.นำพล พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีโทรศัพท์ถึงแม่ นัดปริญญาให้เข้าไปพบในวันถัดมาอีกครั้ง บอกเพียงว่า ไปคุยอะไรนิดหน่อย แต่เมื่อทนายความที่เข้ามาให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ปริญญาโทรสอบถามและขอเลื่อนนัด เนื่องจากติดธุระที่ได้นัดหมายไว้ก่อนแล้ว จึงทราบว่าเป็นการนัดไปแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมอีก โดยพนักงานสอบสวนแจ้งว่า หากไม่มาในวันที่ 5 ก.ค. 2565 ก็จะออกหมายเรียกทุกวัน ถ้าไม่มาอีกก็จะออกหมายจับ ปริญญายืนยันว่า ต้องการให้มีทนายไปด้วย และให้ตำรวจออกหมายเรียกมาก่อน

ต่อมา ปริญญานัดหมาย ร.ต.อ.นำพล ว่าจะไปพบพร้อมทนายความในวันที่ 7 ก.ค. 2565 ก่อนได้รับแจ้งจาก ร.ต.อ.นำพล ว่า อัยการให้แจ้งข้อกล่าวหา “นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคง” ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(3) เพิ่มเติม จากโพสต์ข้อความ 9 โพสต์ ที่ได้แจ้งไปแล้วก่อนหน้านี้

ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนไม่ได้แจ้งถึงรายละเอียดของข้อความที่กล่าวหาทั้ง 9 ข้อความ แจ้งเพียงว่าเป็นโพสต์ในวันใดบ้าง ทนายความจึงขอให้แจ้งรายละเอียดก่อนที่จะสอบคำให้การ เนื่องจากก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาก็ไม่ได้รับบันทึกแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ทำให้ไม่ทราบถึงข้อความที่กล่าวหา จึงไม่ทราบว่าจะให้การอย่างไร รวมถึงทนายความไม่ทราบว่าจะให้คำปรึกษาถึงแนวทางการต่อสู้คดีอย่างไร พนักงานสอบสวนอ้างว่า สำนวนคดีอยู่ที่อัยการแล้ว ก่อนค้นหาสำเนาเอกสารมาให้ปริญญาและทนายความเปิดดู แต่ไม่มอบเอกสารให้

ปริญญาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยขอให้การในรายละเอียดในชั้นศาล หลังลงบันทึกประจำวัน ทนายความได้ขอสำเนาบันทึกประจำวัน แต่ก็ไม่ได้รับอีก โดยพนักงานสอบสวนแจ้งว่า ให้ทำเป็นคำร้องยื่นมาในภายหลัง

(อ้างอิง: บันทึกจับกุม สภ.เมืองหนองบัวลำภู และคำร้องขอฝากขังผู้ต้องหาครั้งที่ 1 ศาลจังหวัดหนองบัวลำภู ลงวันที่ 8 ก.พ. 2565 และ https://tlhr2014.com/archives/45946)

ภูมิหลัง

  • ปริญญา (นามสมมติ)
    ทำงานเป็นลูกจ้างหาเลี้ยงตนเองและแม่ หลังออกจากมหาวิทยาลัยเมื่อ 3 ปีก่อน สนใจติดตามการเมืองตั้งแต่ช่วงก่อนเลือกตั้งปี 2562 ขณะเขายังเป็นนักศึกษาอยู่ และเคยเข้าร่วมชุมนุมที่อุดรฯ จังหวัดใกล้เคียง ในปี 2563 บ้างเป็นบางครั้ง

แหล่งที่มา : กรณีที่ศูนย์ทนายความฯ ติดตามสัมภาษณ์