สรุปความสำคัญ

“ป้านิด” จิราภรณ์ บุษปะเกศ ประชาชนชาวนนทบุรีวัย 74 ปี ถูกดำเนินคดีในข้อกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ จากการปราศรัยเรียกร้องประชาธิปไตยโดยกล่าวพาดพิงถึงกษัตริย์ ในการชุมนุม THE RETURN OF THAMMASAT #ธรรมศาสตร์จะไม่ทน แสดงจุดยืนต่อ 8 พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย ในระหว่างการจัดตั้งรัฐบาล ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เมื่อวันที่ 26 ก.ค. 2566 หลัง อานนท์ กลิ่นแก้ว ประธานศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) และพวกเข้ากล่าวโทษให้ดำเนินคดี

กรณีดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาของประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่มีอัตราโทษจำคุกสูงสุดถึง 15 ปี แต่กลับเปิดโอกาสให้บุคคลใดก็ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษแม้ไม่ได้เป็นผู้มีส่วนได้เสีย ทำให้ข้อกล่าวหาดังกล่าวถูกใช้เป็นเครื่องมือในการกลั่นแกล้งบุคคลที่เห็นต่างทางการเมือง

ข้อมูลการละเมิด

  • ผู้ถูกละเมิด
    • จิราภรณ์ บุษปะเกศ
  • ประเด็นการละเมิดสิทธิ
    • เสรีภาพการแสดงออก
    • สิทธิในกระบวนการยุติธรรม
  • รูปแบบการละเมิดสิทธิ
    • การเรียกรายงานตัว / ปรับทัศนคติ
  • ผู้ละเมิด
    • ตำรวจ

พฤติการณ์การละเมิด

22 ส.ค. 2566 ที่ สภ.คลองหลวง “ป้านิด” จิราภรณ์ บุษปะเกศ ประชาชนชาวนนทบุรี อายุ 74 ปี เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ จากการถูกกล่าวหาว่าขึ้นปราศรัยวิพากษ์วิจารณ์สถาบันกษัตริย์ ในการชุมนุม THE RETURN OF THAMMASAT #ธรรมศาสตร์จะไม่ทน ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เมื่อวันที่ 26 ก.ค. 2566

คดีนี้ เมื่อวันที่ 27 ก.ค. 2566 อานนท์ กลิ่นแก้ว ประธานศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) และพวก ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.คลองหลวง ให้ดำเนินคดีกับจิราภรณ์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เมื่อจิราภรณ์ได้รับหมายเรียกผู้ต้องหาครั้งที่ 1 ลงวันที่ 8 ส.ค. 2566 จึงได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาตามนัดหมายในวันนี้

พ.ต.ท.สุชัย แสงส่อง รองผู้กำกับ (สอบสวน) สภ.คลองหลวง ได้แจ้งพฤติการณ์แห่งคดีว่า เมื่อวันที่ 26 ก.ค. 2566 ตั้งแต่เวลา 17.00 น. มีการจัดการชุมนุม #ธรรมศาสตร์จะไม่ทน เพื่อทวงคืนอำนาจให้แก่ประชาชน แสดงจุดยืนต่อ 8 พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย และไม่เอา สว. ที่ลานอนุสาวรีย์สัญญา ธรรมศักดิ์ หน้าคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต

ในการชุมนุมวันดังกล่าว มีการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันขึ้นปราศรัยบนเวที จนกระทั่งเมื่อเวลา 18.40 น. มีบุคคลเป็นหญิงไม่ทราบชื่อ ซึ่งภายหลังสืบสวนทราบว่าเป็นผู้ต้องหา ได้ขึ้นปราศรัยบนเวทีและมีการแสดงออกชู 3 นิ้ว ถ้อยคำปราศรัยที่กล่าวนั้นมีลักษณะวิพากษ์วิจารณ์และแสดงความคิดเห็นในทำนองว่า ต้องการให้ประเทศเป็นประชาธิปไตย ไม่ต้องการให้กษัตริย์อยู่เหนือกฎหมาย วิพากษ์วิจารณ์การทำรัฐประหารในประเทศไทยที่เกิดขึ้นมาแล้วถึง 13 ครั้ง รวมทั้งปัญหาการสนับสนุนและรับรองการรัฐประหาร

ผู้กล่าวหาเห็นว่า ผู้ต้องหามีเจตนาดูหมิ่น หมิ่นประมาท และแสดงความอาฆาตมาดร้ายกษัตริย์รัชกาลปัจจุบัน นั่นคือ รัชกาลที่ 10 ทำให้ผู้ที่ได้รับฟังเข้าใจผิดว่าถ้อยคำปราศรัยเป็นความจริง ทั้งนี้ ผู้กล่าวหายังเห็นว่าภาพเคลื่อนไหวและถ้อยคำปราศรัยของผู้ต้องหานั้นถูกนำไปเผยแพร่ทางสื่อโซเซียลออนไลน์ด้วย

พนักงานสอบสวนจึงได้แจ้ง 2 ข้อกล่าวหาแก่จิราภรณ์ ได้แก่ “หมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ “นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร” ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ม.14 (3) ทั้งนี้บันทึกข้อกล่าวหาไม่ได้ระบุชัดเจนว่าผู้ต้องหาได้นำข้อมูลดังกล่าวเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อย่างไร

จิราภรณ์ได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และจะให้การเป็นหนังสือภายใน 30 วัน โดยพนักงานสอบสวนได้ลงบันทึกประจำวัน และพิมพ์ลายนิ้วมือไว้ ก่อนนัดหมายให้มารายงานตัวอีกครั้งในวันที่ 25 ก.ย. 2566 จากนั้นจึงได้ปล่อยตัวจิราภรณ์กลับไป

(อ้างอิง: บันทึกการแจ้งข้อกล่าวหา สภ.คลองหลวง ลงวันที่ 22 ส.ค. 2566 และ https://tlhr2014.com/archives/58614)

แหล่งที่มา : กรณีที่ศูนย์ทนายความฯ ติดตามสัมภาษณ์