สรุปความสำคัญ

รุ่งเรือง (นามสมมติ) ผู้ป่วยจิตเภทจากการใช้สารเสพติดเป็นเวลานาน ขณะเข้ารับการตรวจรักษาได้โพสต์ข้อความที่เข้าข่ายหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว เมื่อวันที่ 5 มี.ค. 2559 และถูกเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมนำตัวไปดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ รุ่งเรืองถูกคุมขังในเรือนจำเรื่อยมาตั้งแต่ถูกจับกุมโดยไม่เคยได้ยื่นประกันตัว เนื่องจากญาติไม่มีหลักทรัพย์ และให้การรับสารภาพ ก่อนศาลพิพากษาจำคุกในที่สุด

รุ่งเรืองถือว่าเป็นผู้ป่วยจิตเวชหนึ่งในหลายคนที่ได้รับผลกระทบ ต้องมีภาระในการต่อสู้คดี และถูกคุมขัง จากการใช้มาตรา 112 มาดำเนินคดีกับประชาชนที่ใช้เสรีภาพในการแสดงความเห็นจำนวนมากหลังการรัฐประหาร ทั้งนี้ การดำเนินคดีและพิพากษาลงโทษจำคุก โดยยกคำขอให้รอการลงโทษจำคุกเนื่องจากรุ่งเรืองมีอาการเจ็บป่วยทางจิต เพราะการกระทำของรุ่งเรืองเป็นการล่วงละเมิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ที่ประชาชนเคารพเทิดทูนและเป็นผู้ทรงคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติ และศาลลงโทษสถานเบาแล้วนั้น อาจไม่สอดคล้องกับหลักการคุ้มครองด้านความรับผิดทางอาญาของผู้กระทำผิดที่มีอาการเจ็บป่วยทางจิต

ข้อมูลการละเมิด

  • ผู้ถูกละเมิด
    • นายรุ่งเรือง (นามสมมติ)
  • ประเด็นการละเมิดสิทธิ
    • เสรีภาพการแสดงออก
    • สิทธิในกระบวนการยุติธรรม
  • รูปแบบการละเมิดสิทธิ
    • จับกุม / ควบคุมตัว

พฤติการณ์การละเมิด

6 มี.ค. 2559 เจ้าหน้าที่เข้าควบคุมตัวนายรุ่งเรือง พร้อมทั้งยึดโทรศัพท์มือถือ และนำตัวไปแจ้งข้อหากล่าวหา หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ และนำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ โดยกล่าวหาว่า รุ่งเรืองเป็นผู้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวมีเนื้อหาพาดพิงถึงพระมหากษัตริย์ จากนั้น พนักงานสอบสวนได้ขออำนาจศาลมณฑลทหารบกที่ 18 ฝากขัง รุ่งเรืองจึงถูกคุมขังในเรือนจำจังหวัดสระบุรีเรื่อยมา โดยญาติไม่ได้ยื่นประกันตัว เนื่องจากไม่มีหลักทรัพย์

สถานะของเรื่อง

วันที่ : 27-05-2016
อัยการศาลมณฑลทหารบกที่ 18 ยื่นฟ้องนายรุ่งเรือง ต่อศาลมณฑลทหารบกที่ 18 ในฐานความผิด หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร
 
วันที่ : 21-07-2016
นัดสอบคำให้การ ทนายจำเลยได้ยื่นคำร้องต่อศาลมณฑลทหารบกที่ 18 ขอให้ส่งตัวนายรุ่งเรืองไปตรวจรักษาอาการทางจิต เนื่องจาก ทนายความได้เข้าเยี่ยมนายรุ่งเรืองพบว่าจำเลยมีอาการผิดปกติทางจิต ดวงตาเหม่อลอย พูดคนเดียวเป็นครั้งคราว หวาดระแวง ไม่สามารถเล่าเหตุการณ์ตามข้อเท็จจริงที่ตนเองถูกกล่าวหา และตอบคำถามไม่รู้เรื่อง ทั้งยังทราบข้อมูลจากญาติว่า นายรุ่งเรืองเคยเสพยาเสพติดที่มีฤทธิ์กระตุ้นประสาทและเคยมีอาการหวาดระแวง หลงผิดคิดว่ามีคนจะมาทำร้าย แต่ไม่เคยได้รับการรักษาจากแพทย์ เพราะครอบครัวมีฐานะยากจน และจำเลยไม่ยอมรับและปฏิเสธรับการรักษา จนกระทั่งต้นปี 2559 จำเลยเพิ่งเข้ารับการรักษา แพทย์วินิจฉัยว่าป่วยเป็นโรคจิต ชนิดจิตเภท ศาลพิจารณาแล้วว่ามีเหตุอันควรเชื่อว่าจำเลยอาจเป็นผู้วิกลจริตและไม่สามารถต่อสู้คดีได้ จึงให้เลื่อนถามคำให้การจำเลยออกไปก่อน และให้ส่งตัวจำเลยไปให้แพทย์จิตเวช โรงพยาบาลพระพุทธบาท
 
วันที่ : 24-07-2017
ศาลมณฑลทหารบกที่ 18 นัดพร้อมเพื่อฟังรายงานความเห็นแพทย์ ซึ่งแพทย์โรงพยาบาลพระพุทธบาท วินิจฉัยว่าเป็นโรคจิตเภทและต้องรักษาด้วยยาอย่างต่อเนื่อง หลังเข้ารับการรักษา ปัจจุบันอาการเป็นปกติ มีสติสัมปชัญญะดีแล้ว แม้ต้องทานยาอย่างต่อเนื่อง ก็สามารถให้การในชั้นศาลได้ สามารถต่อสู้คดีได้
 
วันที่ : 18-08-2017
นัดสอบคำให้การ จำเลยให้การรับสารภาพ โดยทนายจำเลยได้ยื่นคำให้การและคำร้องประกอบคำรับสารภาพมาก่อนหน้านี้แล้ว ศาลจึงมีคำพิพากษาในวันเดียวกันนี้ว่า จำเลยมีความผิดฐานหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ และนำเข้าระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคง เป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ จำคุก 8 ปี จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 4 ปี เพิ่มโทษที่ศาลจังหวัดสระบุรีรอการลงโทษไว้ในคดีอื่น มีกำหนดโทษจำคุก 6 เดือน คงให้จำคุกจำเลย 4 ปี 6 เดือน พิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีซึ่งเป็นการล่วงละเมิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ที่ประชาชนเคารพเทิดทูน จึงไม่รอการลงโทษ
 
วันที่ : 13-12-2017
ศาลมณฑลทหารบกที่ 18 นัดอ่านคำพิพากษาศาลทหารกลางตามที่จำเลยได้ยื่นอุทธรณ์ไว้ โดยศาลทหารกลางพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น อุทธรณ์ของจำเลยที่ให้ลงโทษจำเลยสถานเบา และรอการลงโทษจำคุกฟังไม่ขึ้น
 
วันที่ : 20-07-2019
รุ่งเรืองได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำจังหวัดสระบุรีก่อนครบกำหนดโทษ ตามที่มีพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. 2562 รวมเวลาที่รุ่งเรืองถูกคุมขัง 3 ปี 4 เดือน 15 วัน

ภูมิหลัง

  • นายรุ่งเรือง (นามสมมติ)
    เป็นเสาหลักของครอบครัว ต้องดูแลแม่และน้องสาวที่ป่วยจิตเวช เนื่องจากพ่อแยกตัวไปมีครอบครัวใหม่ตั้งแต่รุ่งเรืองอายุ 12 ปี อีกทั้งรุ่งเรืองป่วยเป็นโรคจิต มีอาการประสาทหลอน หูแว่ว จนกระทั่งต้นปี 2559 แพทย์วินิจฉัยว่าเป็นโรคจิตเฉียบพลัน และเมื่อวันที่ 4 มี.ค. 2559 เขาเข้ารับการรักษากับจิตแพทย์ และได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคจิตจากแอลกอฮอล์ ต้องรักษาด้วยยาอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่จะมาถูกจับกุมดำเนินคดีในอีก 2 วันต่อมา

แหล่งที่มา : กรณีที่ศูนย์ทนายความฯ ติดตามสัมภาษณ์