สรุปความสำคัญ

7 มี.ค. 2558 ชาญวิทย์ ถูกทหารนอกเครื่องแบบจับกุมและถูกควบคุมตัวตามกฎอัยการศึกเป็นเวลา 6 วัน เพราะถูกกล่าวหาว่ามีส่วนร่วมในกรณีปาระเบิดใส่บริเวณลานจอดรถศาลอาญา รัชดา ขณะชาญวิทย์ถูกขังระหว่างสอบสวนในคดีปาระเบิดศาลอาญาอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ เขาก็ถูกนำตัวไปศาลจังหวัดนนทบุรีเพื่อเริ่มพิจารณาคดีตามมาตรา 112 อีกครั้ง หลังจากถูกจำหน่ายคดีชั่วคราวไปกว่า 6 ปี

ชาญวิทย์ถูกดำเนินคดีหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ จากการนำเอกสารที่ถูกกล่าวหาว่ามีเนื้อหาเข้าข่ายเป็นความผิดไปแจกจ่ายในการปราศรัยที่ท่าน้ำนนท์เมื่อปี 2550 ชาญวิทย์รับว่าเป็นผู้แจกเอกสาร แต่ไม่มีเจตนาที่จะใส่ร้ายบุคคลที่กล่าวถึงในเอกสาร ศาลจำหน่ายคดีชั่วคราวและออกหมายจับในปี 2552 หลังเขาไม่ไปศาลตามนัด คดีกลับถูกหยิบขึ้นมาพิจารณาอีกครั้งภายใต้บริบทของการรัฐประหารของ คสช.

ข้อมูลการละเมิด

  • ผู้ถูกละเมิด
    • นายชาญวิทย์
  • ประเด็นการละเมิดสิทธิ
    • เสรีภาพการแสดงออก
    • สิทธิในกระบวนการยุติธรรม
  • ผู้ละเมิด
    • ตำรวจ

พฤติการณ์การละเมิด

9 มี.ค. 2558 เวลาประมาณ 19.00 น. ชาญวิทย์ (สงวนนามสกุล) ถูกทหารนอกเครื่องแบบ 3 นาย จับกุมที่บริเวณปากซอยกิ่งแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ล็อกตัวเขาไว้โดยใช้กุญแจมือและปิดตาจับขึ้นรถฟอร์จูนเนอร์สีดำไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง ซึ่งอาจเป็นค่ายทหาร แต่เขาไม่ทราบแน่ว่าเป็นที่ใด

ชาญวิทย์ถูกเจ้าหน้าที่ทหารควบคุมตัวตามกฎอัยการศึกเป็นเวลา 6 วัน เพราะต้องสงสัยว่าพัวพันในกรณีที่มีบุคคลขว้างวัตถุระเบิดใส่บริเวณลานจอดรถด้านหน้าอาคารศาลอาญา รัชดา เมื่อวันที่ 7 มี.ค. 2558 โดยระหว่างการควบคุมตัวในค่ายทหาร ซึ่งศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้รับการร้องเรียนจากชาญวิทย์ว่า เขาถูกซ้อมทรมานด้วยนั้น เขาถูกเจ้าหน้าที่สอบปากคำทั้งประเด็นที่เกี่ยวกับการวางระเบิดศาลอาญา และประเด็นเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยเฉพาะหมายจับชาญวิทย์ในคดี 112 ซึ่งออกโดยศาลจังหวัดนนทบุรี ในปี 2550 ด้วย

คดีดังกล่าวชาญวิทย์ถูกกล่าวหาว่า แจกใบปลิวที่มีเนื้อหาเข้าข่ายเป็นการหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ เหตุแห่งคดีเกิดเมื่อวันที่ 25 พ.ย. 2550 ได้มีการชุมนุมคัดค้านคำพิพากษายุบพรรคไทยรักไทยที่ท่าน้ำนนทบุรี ชาญวิทย์ได้จัดทำใบปลิววิเคราะห์สถานการณ์การเมืองประเทศไทยในระยะเปลี่ยนผ่านไปแจกจ่ายให้กับประชาชนที่เข้าร่วมการชุมนุมดังกล่าว ตำรวจนอกเครื่องแบบที่เข้าแฝงตัวสังเกตการณ์การชุมนุมพบชาญวิทย์ขณะกำลังแจกใบปลิวอยู่ และเห็นว่าข้อความในใบปลิวดังกล่าวน่าจะเข้าข่ายเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จึงโทรศัพท์แจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นผู้บังคับบัญชาได้เดินทางมาที่เกิดเหตุ และควบคุมตัวชาญวิทย์ไปสอบสวนที่สถานีตำรวจภูธรเมืองนนทบุรี

18 ก.พ. 2551 พนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรีได้ยื่นฟ้องชาญวิทย์เป็นจำเลยในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และคำสั่งคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 42 ข้อ 2(1) ต่อศาลจังหวัดนนทบุรี เป็นคดีหมายเลขดำที่ อ. 837/2552 โดยกล่าวหาว่า ชาญวิทย์กระทำความผิดรวม 4 กรรม เนื่องจากข้อความในใบปลิวที่ชาญวิทย์แจกในวันที่ 25 พ.ย. 2550 มีเนื้อหาหมิ่นประมาท ดูหมิ่น และแสดงความอาฆาตมาดร้ายบุคคล 4 ตำแหน่ง ที่มาตรา 112 ครอบคลุมถึง ได้แก่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระมหากษัตริย์, สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระราชินี, สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช รัชทายาท และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา รัชทายาท

ต่อมาในวันที่ 21 เม.ย. 2551 ศาลนัดสอบคำให้การและตรวจพยานหลักฐาน ชาญวิทย์ยืนยันให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่เมื่อถึงวันนัดสืบพยาน ชาญวิทย์ไม่มาศาลและไม่แจ้งเหตุขัดข้องให้ศาลทราบ ศาลจึงระบุว่ามีเหตุสงสัยว่าชาญวิทย์จะหลบหนี จึงได้ออกหมายจับชาญวิทย์และจำหน่ายคดีชั่วคราวออกจากสารบบ

หลังชาญวิทย์ถูกทหารจับกุมเมื่อวันที่ 9 มี.ค. 2558 และควบคุมตัวตามกฎอัยการศึกเป็นเวลา 6 วัน เขาถูกส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีหลายข้อหา โดยกล่าวหาว่า เขามีส่วนร่วมวางแผนเตรียมการปาระเบิดลานจอดรถศาลอาญา ชาญวิทย์ให้การปฏิเสธข้อหาร่วมกันวางระเบิด แต่รับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับในคดีหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ ตามมาตรา 112 ของศาลจังหวัดนนทบุรี ระหว่างที่ชาญวิทย์ถูกคุมขังระหว่างสอบสวนในคดีปาระเบิดศาลอาญาอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ เขาก็ถูกนำตัวไปศาลจังหวัดนนทบุรีเพื่อเริ่มพิจารณาคดีตามมาตรา 112 อีกครั้งในวันที่ 2 เม.ย. 2558 หลังจากถูกจำหน่ายคดีชั่วคราวไปกว่า 6 ปี

(อ้างอิง: https://tlhr2014.wordpress.com/2015/11/27/chanwit-112-verdict/ และ https://freedom.ilaw.or.th/case/660#detail)

สถานะของเรื่อง

วันที่ : 01-12-2015
หลังศาลจังหวัดนนทบุรีนำคดีกลับมาพิจารณาอีกครั้ง และสืบพยานจนเสร็จสิ้น ศาลได้นัดฟังคำพิพากษา โดยพิพากษาว่า ข้อความในใบปลิวที่จำเลยแจกจ่ายเป็นการหมิ่นประมาท ดูหมิ่นพระเกียรติยศ และกล่าวอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ จึงเป็นความผิดตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 112 แม้ข้อความจะกล่าวถึงพระบรมวงศานุวงศ์หลายพระองค์ แต่ก็เป็นการกล่าวข้อความในเอกสารฉบับเดียวกัน ในคราวเดียวกัน จึงเป็นการกระทำกรรมเดียว และไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยในปัญหาที่ว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ถือเป็นรัชทายาทตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 หรือไม่

พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 112 ให้ลงโทษจำคุก 6 ปี ริบของกลาง ข้อหาอื่นให้ยก

ต่อมา โจทก์และจำเลยไม่ยื่นอุทธรณ์ คดีจึงถึงที่สุด
 
วันที่ : 21-06-2019
ชาญวิทย์ได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ หลังถูกจำคุกจนครบกำหนดโทษในคดี 112 และทนายความได้ยื่นประกันตัวในคดีปาระเบิดศาลอาญา ซึ่งยังอยู่ในชั้นพิจารณาคดี

ภูมิหลัง

  • นายชาญวิทย์
    เป็นชาวควนขนุน จ.พัทลุง โดยกำเนิด เข้าศึกษาคณะเทคนิคการแพทย์ ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในปี 2516 แต่เรียนไม่จบ เพราะเข้าร่วมเคลื่อนไหวกับขบวนการนักศึกษาในยุคนั้น รวมทั้งพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย หลังจากกลับออกจากป่า ชาญวิทย์ก็ร่วมเคลื่อนไหวกับขบวนสหภาพแรงงาน ปี 2535 เขายังเข้าร่วมชุมนุมในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ปี 2539 ก็เข้าร่วมเป็นคณะทำงานรณรงค์รัฐธรรมนูญ 2540 ชาญวิทย์มักไปแจกใบปลิวเพื่อเผยแพร่แนวคิดในประเด็นต่างๆ เป็นประจำ

แหล่งที่มา : ข้อมูลจากการติดตามในสื่อต่างๆ