ผู้ถูกดำเนินคดี
ข้อหา
หมายเลขคดี
  • ยุยงปลุกปั่น (มาตรา 116)
  • การชุมนุม
  • พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาฯ (ใช้เครื่องขยายเสียง)

ผู้กล่าวหา
  • พ.ต.ท.ภาสกร ไชยทวีวงศ์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองนนทบุรี (ตำรวจ)
  • หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ (มาตรา 112)
  • ยุยงปลุกปั่น (มาตรา 116)
  • การชุมนุม
  • พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาฯ (ใช้เครื่องขยายเสียง)

ผู้กล่าวหา
  • พ.ต.ท.ภาสกร ไชยทวีวงศ์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองนนทบุรี (ตำรวจ)
  • หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ (มาตรา 112)
  • ยุยงปลุกปั่น (มาตรา 116)
  • การชุมนุม
  • พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาฯ (ใช้เครื่องขยายเสียง)

ผู้กล่าวหา
  • พ.ต.ท.ภาสกร ไชยทวีวงศ์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองนนทบุรี (ตำรวจ)
  • หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ (มาตรา 112)
  • ยุยงปลุกปั่น (มาตรา 116)
  • การชุมนุม
  • พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาฯ (ใช้เครื่องขยายเสียง)

ผู้กล่าวหา
  • พ.ต.ท.ภาสกร ไชยทวีวงศ์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองนนทบุรี (ตำรวจ)
ผู้ถูกดำเนินคดี

ข้อหา

  • การชุมนุม
  • พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาฯ (ใช้เครื่องขยายเสียง)
  • ยุยงปลุกปั่น (มาตรา 116)

หมายเลขคดี

ผู้กล่าวหา
  • พ.ต.ท.ภาสกร ไชยทวีวงศ์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองนนทบุรี

ข้อหา

  • การชุมนุม
  • พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาฯ (ใช้เครื่องขยายเสียง)
  • หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ (มาตรา 112)
  • ยุยงปลุกปั่น (มาตรา 116)

หมายเลขคดี

ผู้กล่าวหา
  • พ.ต.ท.ภาสกร ไชยทวีวงศ์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองนนทบุรี

ข้อหา

  • การชุมนุม
  • พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาฯ (ใช้เครื่องขยายเสียง)
  • หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ (มาตรา 112)
  • ยุยงปลุกปั่น (มาตรา 116)

หมายเลขคดี

ผู้กล่าวหา
  • พ.ต.ท.ภาสกร ไชยทวีวงศ์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองนนทบุรี

ข้อหา

  • การชุมนุม
  • พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาฯ (ใช้เครื่องขยายเสียง)
  • หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ (มาตรา 112)
  • ยุยงปลุกปั่น (มาตรา 116)

หมายเลขคดี

ผู้กล่าวหา
  • พ.ต.ท.ภาสกร ไชยทวีวงศ์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองนนทบุรี

ความสำคัญของคดี

"เพนกวิน" พริษฐ์ ชิวารักษ์, "รุ้ง" ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล, "ไมค์" ภาณุพงศ์ จาดนอก และชินวัตร จันทร์กระจ่าง นักกิจกรรมกลุ่ม "ราษฎร" ถูกดำเนินคดีในข้อหา "ยุยงปลุกปั่น" ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 จากการปราศรัยในการชุมนุม #คนนนท์ท้าชนเผด็จการ บริเวณท่าน้ำนนท์ เมื่อวันที่ 10 ก.ย. 2563 วิพากษ์วิจารณ์รัชกาลที่ 10 รวมทั้งย้ำข้อเสนอปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ต่อมา ภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศบังคับใช้กฎหมายทุกฉบับทุกมาตราต่อผู้ชุมนุม เพนกวิน, รุ้ง และไมค์ ยังถูกแจ้งข้อหา "หมิ่นประมาทกษัตริย์" เพิ่มเติมจากการปราศรัยครั้งดังกล่าวอีกด้วย

นอกจาก 3 นักกิจกรรม ยังมี ธนกร (สงวนนามสกุล) หรือ "เพชร" เยาวชน LGBTQ วัย 17 ปี ถูกดำเนินคดีตามมาตรา 112 และ 116 จากการปราศรัยถึงสถานะของกษัตริย์ในระบอบประชาธิปไตยในการชุมนุมครั้งเดียวกันนี้

พฤติการณ์ของคดีตามเอกสารคดี

พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี ระบุในบันทึกการแจ้งข้อกล่าวหามีเนื้อหาโดยสรุปว่า

เมื่อวันที่ 10 ก.ย. 2563 พริษฐ์ ชิวารักษ์, ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล, ภาณุพงศ์ จาดนอก และชินวัตร จันทร์กระจ่าง ได้ร่วมการชุมนุมบริเวณลานกิจกรรมท่าน้ำนนทบุรี และได้ปราศรัยซึ่งมีประโยคบางช่วงมีเนื้อหา

- พริษฐ์กล่าวถึงการปฏิบัติตนของพระราชวงศ์ เทียบกับหลักทศพิธราชธรรม
- ปนัสยากล่าวถึงสถานการณ์อยู่เหนือกฎหมายของพระมหากษัตริย์ และการจับกุมผู้วิพากษ์วิจารณ์ รวมทั้งย้ำแนวทางข้อเสนอ 10 ข้อ ของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม
- ภาณุพงศ์เรียกร้องให้พระมหากษัตริย์เสด็จกลับมาอยู่ในประเทศไทย

การกระทำดังกล่าวเป็นการสร้างความปั่นป่วนและกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน อีกทั้งกรณีของพริษฐ์, ปนัสยา และภาณุพงศ์ มีลักษณะดูหมิ่น หมิ่นประมาท หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์

ความคืบหน้าของคดี

  • ตำรวจเข้าจับกุม "ไบรท์" ชินวัตร จันทร์กระจ่าง แกนนำเครือข่ายคนรุ่นใหม่ นนทบุรี ระหว่างเดินทางไปร่วมแฟลชม็อบที่ห้างเซ็นทรัลเวสต์เกต ตามหมายจับของศาลจังหวัดนนทบุรีที่ 506/63 ลงวันที่ 17 ต.ค. 2563 ในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 และใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต และหมายจับศาลแขวงปทุมวันที่ 189/2563 ลงวันที่ 17 ต.ค. 2563 ในข้อหาตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ก่อนถูกนำตัวไปที่ บก.ตชด.ภาค 1

    เกี่ยวกับคดีนี้ซึ่งชินวัตรถูกจับตามหมายจับของศาลจังหวัดนนทบุรี เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมซึ่งเป็นชุดสืบจากตำรวจภูธรภาค 1 และภูธรจังหวัดนนทบุรี จัดทำบันทึกจับกุม โดยแจ้งว่าชินวัตรได้กระทำผิดฐาน ร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือหรือวิธีอื่นใดอันมิใช่เป็นการ กระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต (1) เพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในกฎหมายแผ่นดินหรือรัฐบาล โดยใช้กำลังข่มขืนหรือใช้กำลังประทุษร้าย (2) เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร (3) เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน และใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาต

    พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรีแจ้งพฤติการณ์ว่า ชินวัตรได้ร่วมปราศรัยในการชุมนุมที่ท่าน้ำนนทบุรี เมื่อวันที่ 10 ก.ย. 2563 ซึ่งมีเนื้อหาสร้างความปั่นป่วนและกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน โดยไม่ได้ระบุถึงเนื้อหาคำปราศรัยที่มีลักษณะดังกล่าว

    ชินวัตรให้การปฏิเสธทั้งในชั้นจับกุมและสอบสวน และไม่ลงชื่อในบันทึกการจับกุม แต่เขียนด้วยข้อความว่า ไม่ประสงค์ลงลายมือชื่อเนื่องไม่ได้กระทำผิดตามข้อกล่าวหา ซึ่งเกินความเป็นจริง ผู้ต้องหาเพียงแต่ไปร่วมชุมนุมเพื่อให้ร่างรัฐธรรมนูญใหม่และให้นายกฯ ลาออกเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาจะเปลี่ยนแปลงการปกครอง

    หลังสอบปากคำ เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวที่ บก.ตชด.ภาค 1 เพื่อส่งฝากขังในวันรุ่งขึ้น

    วันเดียวกันนี้มีนักกิจกรรมอีก 6 ราย ถูกจับกุมและนำตัวไปยัง บก.ตชด.ภาค 1 ตามหมายจับของศาลแขวงปทุมวันในข้อหาฝ่าฝืนข้อกำหนดตาม พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ จากการเข้าร่วมการชุมนุมที่แยกราชประสงค์ และแยกปทุมวัน ได้แก่ “ปอ” กรกช แสงเย็นพันธ์ นักกิจกรรมกลุ่มพื้นฟูประชาธิปไตย (DRG), วสันต์ กล่ำถาวร การ์ดดูแลผู้ชุมนุม, สิรภพ พุ่มพึ่งพุทธ นักศึกษากลุ่ม “มศว กลุ่มคนรุ่นเปลี่ยน”, ณวรรษ เลี้ยงวัฒนา บัณฑิตจากมหาวิทยาลัยศิลปากร, ณัฐชนน พยัฆพันธ์ แกนนำเยาวชนตะวันออกเพื่อประชาธิปไตย รวมทั้ง น.พ.ทศพร เสรีรักษ์ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย

    (อ้างอิง: บันทึกการจับกุม บก.ตชด.ภาค 1 ลงวันที่ 18 ต.ค. 2563 และ https://tlhr2014.com/archives/22218)
  • หลังพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ควบคุมตัวชินวัตรและเพื่อนนักกิจกรรมไปขอผัดฟ้องและฝากขังต่อศาลแขวงปทุมวัน ในคดีการชุมนุมที่แยกราชประสงค์ และแยกปทุมวัน โดยศาลแขวงปทุมวันอนุญาตให้ฝากขังและให้ประกันตัว ชินวัตรยังถูกพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี ควบคุมตัวไปที่ศาลจังหวัดนนทบุรี เพื่อยื่นขอฝากขังในคดีนี้อีก โดยอ้างว่าการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น

    ต่อมาศาลอนุญาตให้ฝากขังตามคำร้อง แต่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวชินวัตรระหว่างสอบสวน ในวงเงินประกัน 100,000 บาท โดยไม่ต้องวางหลักประกัน กำหนดเงื่อนไขห้ามกระทำในลักษณะเดียวกับที่ถูกกล่าวหาในคดีนี้อีก มิฉะนั้นถือว่าผิดสัญญาประกัน และนัดให้มารายงานตัวที่ศาลในวันที่ 8 ธ.ค. 2563 เวลา 08.30 น. ต่อไป

    (อ้างอิง: คำร้องขอฝากขังครั้งที่ 1 ศาลจังหวัดนนทบุรี ลงวันที่ 19 ต.ค. 2563 และ https://tlhr2014.com/archives/22218)
  • เวลา 14.15 น. หลังศาลจังหวัดธัญบุรีอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว "เพนกวิน" พริษฐ์ ชิวารักษ์ และ "รุ้ง" ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล พร้อมด้วยณัฐชนน ไพโรจน์ สามนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในคดีการชุมนุม #ธรรมศาสตร์จะไม่ทน ที่ ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 2563 และทั้งสามได้รับการปล่อยตัวที่เรือนจำอำเภอธัญบุรี พนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม เข้าอายัดตัวพริษฐ์และปนัสยาตามหมายจับในคดีชุมนุม #19กันยาทวงคืนอํานาจราษฎร และควบคุมขึ้นรถผู้ต้องขังไปยัง บก.ตชด.ภาค 1

    ต่อมา พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี ได้เดินทางเข้าแจ้งข้อกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 และใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต จากการปราศรัยในการชุมนุมที่ท่าน้ำนนทบุรี เมื่อวันที่ 10 ก.ย. 2563 ระบุว่า มีเนื้อหาสร้างความปั่นป่วนและกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน แต่ไม่ได้ระบุถึงเนื้อหาคำปราศรัยที่มีลักษณะดังกล่าว

    โดยก่อนหน้านี้พนักงานสอบสวนได้ยื่นคำร้องขอออกหมายจับต่อศาลจังหวัดนนทบุรีไปแล้ว และศาลได้อนุมัติหมายจับเมื่อวันที่ 17 ต.ค. 2563

    (อ้างอิง: บันทึกการแจ้งข้อกล่าวหา บก.ตชด.ภาค 1 ลงวันที่ 20 ต.ค. 2563 และ https://www.facebook.com/lawyercenter2014/posts/3352987684751062)
  • ช่วงบ่าย พ.ต.ท.บำเพ็ญ ไวยวรจนา รองผู้กำกับการ (สอบสวน) สภ.เมืองนนทบุรี ได้เดินทางเข้าไปที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาแก่ “ไมค์” ภาณุพงศ์ จาดนอก จากการขึ้นเวทีปราศรัยในการชุมนุม #คนนนท์ท้าชนเผด็จการ เมื่อวันที่ 10 ก.ย. 2563 ที่บริเวณท่าน้ำนนท์ โดยมีทนายความเข้าร่วมกระบวนการด้วย

    ภาณุพงศ์เป็นหนึ่งในผู้ปราศรัยบนเวที วิพากษ์วิจารณ์ถึงกรณีการไต่สวนถอนประกันของตนและอานนท์ นำภา จากคดีการชุมนุมเยาวชนปลดแอก ซึ่งทำให้ทั้งคู่ต้องถูกคุมขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เป็นเวลา 5 วัน เมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา พร้อมประกาศบนเวทีว่าจะมีการชุมนุมใหญ่ #19กันยาทวงคืนอำนาจราษฎร ในวันที่ 19 ก.ย. 2563

    พ.ต.ท.บำเพ็ญ กล่าวหาว่าเนื้อหาการปราศรัยดังกล่าวเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 “ร่วมกันยุยงปลุกปั่น” หรือ ร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่วาจา หนังสือหรือวิธีอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต (1) เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกฎหมายแผ่นดินหรือรัฐบาล โดยใช้กำลังข่มขืนใจหรือใช้กำลังประทุษร้าย (2) เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร (3) เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน

    พนักงานสอบสวนยังแจ้งข้อหา “ร่วมกันโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาต” ตาม พ.ร.บ.ควมคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงฯ อีกด้วย ภาณุพงศ์ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

    สำหรับภาณุพงศ์ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มาเป็นเวลา 3 วัน โดยก่อนหน้านั้นถูกคุมตัวเพื่อสอบสวนอยู่ที่ บก.ตชด.ภาค 1 อีก 2 วัน รวมเป็น 5 วัน หลังถูกจับกุมเมื่อค่ำวันที่ 17 ต.ค. 2563 ตามหมายจับศาลอาญาในคดีการชุมนุม #19กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร บริเวณ ซ.รามคำแหง 26 หลังจากเข้าร่วมกิจกรรมแฟลชม็อบที่มหาวิทยาลัยรามคำแหงในช่วงเย็น

    ขณะทนายความเข้าไปเยี่ยมภาณุพงศ์เมื่อวานนี้ เขาเปรยว่าการถูกขังในเรือนจำระหว่างสอบสวน ขณะที่ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นผู้กระทำความผิด ถือเป็น “การเพิ่มบาดแผลที่ไม่ควรมีให้กับเขา”

    (อ้างอิง: บันทึกการแจ้งข้อกล่าวหา เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ลงวันที่ 21 ต.ค. 2563, https://www.facebook.com/lawyercenter2014/posts/3354705631245934 และ https://www.facebook.com/lawyercenter2014/photos/a.668860109830513/3354375057945658/)
  • หลังศาลอาญาไม่อนุญาตให้ฝากขังปนัสยา, พริษฐ์, ภาณุพงศ์ และแบงค์ -ปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม ต่อในคดีชุมนุม #19กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร ประชาชนได้มารอรับการปล่อยตัวทั้ง 4 คน ที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ แต่พบว่ามีรถเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปภายในเรือนจำ ทำให้เกิดความกังวลเรื่องการถูกอายัดตัวต่อ

    ต่อมา มีการยืนยันว่าทั้งปนัสยา, พริษฐ์ และภาณุพงศ์ ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ประชาชื่น เข้าอายัดตัว โดย พ.ต.อ.อิทธิเชษฐ์ วงศ์หอมหวล ผกก.สน.ประชาชื่น ให้สัมภาษณ์เมื่อ 20.40 น. ว่าการอายัดตัวดำเนินการตามหมายจับของ สภ.เมืองนนทบุรี, สภ.พระนครศรีอยุธยา และ สภ.เมืองอุบลราชธานี โดยสถานีตำรวจต้นทางได้แจ้งอายัดไว้และยังไม่ได้แจ้งยกเลิกหมายจับมา

    ขณะทนายความยืนยันว่าคดีทั้งหมด ทั้ง 3 คนได้ถูกแจ้งข้อหาไปหมดแล้ว ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถอายัดตัวต่อได้ เนื่องจากหมายจับสิ้นผลไปแล้ว พร้อมนำเอกสารบันทึกการแจ้งข้อหาในคดีเหล่านั้นให้ตำรวจตรวจดู และขอให้ประสานตำรวจจากสถานีตำรวจต้นทางเพื่อถอนการอายัด เพื่อจะได้ไม่ต้องควบคุมตัวทั้งสามคนให้สูญเสียอิสรภาพต่ออีก

    21.10 น. ระหว่างทนายตรวจเอกสารกับตำรวจอยู่ด้านนอก เจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบกลับได้คุมตัวพริษฐ์และภาณุพงศ์ขึ้นรถผู้ต้องขังออกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ไป โดยไม่ได้ใช้ประตูหลักที่ผู้สื่อข่าวและประชาชนรอรับอยู่ ทำให้ไม่มีใครเห็นตัว ก่อนเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เองจะยืนยันว่ามีการนำตัวทั้งสองออกไปแล้ว พร้อมกันนั้นที่ทัณฑสถานหญิงกลาง เจ้าหน้าที่จาก สน.ประชาชื่น ได้นำตัวปนัสยาขึ้นรถยนต์ของตำรวจออกไปด้วยเช่นกัน

    21.25 น. ที่ สน.ประชาชื่น ผู้สื่อข่าวและประชาชนพบตัวพริษฐ์และภาณุพงศ์ถูกคุมตัวอยู่บนรถคุมตัวผู้ต้องขังของตำรวจ พริษฐ์แจ้งว่าเจ้าหน้าที่ได้ใช้กำลังล็อกคอพวกตนทั้งสองขึ้นรถ ทำให้ได้รับบาดเจ็บ และภาณุพงศ์ได้หมดสติไปบนรถควบคุมตัวนั้น ทำให้มีเหตุชุลมุนเกิดขึ้น เนื่องจากประชาชนที่ติดตามมาเร่งให้นำทั้งสองคนลงจากรถมารักษาพยาบาล แต่ตำรวจยังไม่ยินยอม

    21.41 น. รถยนต์ตำรวจ สน.ประชาชื่น นำตัวปนัสยามาถึง เจ้าหน้าที่นำตัวปนัสยาแยกขึ้นไปห้องสอบสวน และให้นำพริษฐ์และภาณุพงศ์ลงจากรถคุมตัว โดยต้องอุ้มภาณุพงศ์ซึ่งเป็นลมไม่ได้สติ ขณะที่พริษฐ์ก็มีอาการบาดเจ็บ มีเลือดออก และอิดโรย รวมทั้งมีอาการหอบหืดซึ่งเป็นโรคประจำตัว นพ.ทศพร เสรีรักษ์ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้เข้ามายืนยันว่าต้องนำตัวทั้งสองคนส่งโรงพยาบาล

    21.56 น. ภาณุพงศ์ถูกนำตัวขึ้นรถกู้ภัยไปส่งยังโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ โดยมี นพ.ทศพรและเพื่อนติดตามไปด้วย ส่วนพริษฐ์ซึ่งได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นจนมีอาการดีขึ้นได้แถลงหน้า สน.ประชาชื่น ถึงการถูกควบคุมตัวโดยมิชอบขึ้นรถมาโดยเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบ 4-5 นาย และยืนยันว่าตำรวจไม่มีอำนาจควบคุมตัวพวกตนอีกแล้ว จึงจะอารยะขัดขืนนั่งหน้า สน. จนกว่าตำรวจจะยอมรับว่าไม่มีอำนาจจับกุม หากเจ้าหน้าที่ยืนยันจะอายัดตัวต่อจากหมายจับที่สิ้นผลแล้ว จะดำเนินการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 เรื่องการปฏิบัติหน้าที่มิชอบ

    23.10 น. พริษฐ์ประกาศว่า ได้รับแจ้งว่า สภ.เมืองอุบลฯ และ สภ.เมืองนนทบุรี ถอนหมายจับแล้ว

    (อ้างอิง: https://www.facebook.com/lawyercenter2014/posts/3381108888605608)
  • เวลา 11.00 น. ที่ สภ.เมืองนนทบุรี 3 แกนนำคณะราษฎร ได้แก่ ปนัสยา, พริษฐ์ และภาณุพงศ์ ได้เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามมาตรา 112 เพิ่มเติม หลังพนักงานสอบสวนออกหมายเรียกลงวันที่ 27 พ.ย. 2563 ขณะที่ชินวัตรยังไม่ได้รับหมายเรียก แต่มีชื่อปรากฏอยู่ในหมายเรียกของคนอื่น ทำให้เข้าใจว่าจะถูกแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมด้วย

    นักกิจกรรมทั้งสี่คนได้ใส่เสื้อยืดที่สกรีนเลข “112” สีแดง พร้อมกับขีดทับสีน้ำเงิน และมีประชาชนกว่า 100 คน เดินทางมารอให้กำลังใจ โดยมีการนำรถเครื่องเสียงมาปราศรัยหน้าสถานีตำรวจด้วย

    นอกจากนั้นด้านหน้าสถานีตำรวจ พบว่าเจ้าหน้าที่เพิ่งมีวางเสาไฟ และติดตั้งกล้องวงจรปิด เสาละ 2 ตัว รวม 4 ตัวเอาไว้ ขณะเดียวกันยังมีชุดเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบอย่างน้อย 7 คน คอยติดตามถ่ายภาพและถ่ายวีดีโออยู่ตลอดเวลาในห้องสอบสวน ระหว่างการเข้ารับทราบข้อกล่าวหาของนักกิจกรรม

    พ.ต.ท.บำเพ็ญ พร้อมคณะพนักงานสอบสวน แจ้งพฤติการณ์ที่กล่าวหาในคดี โดยยกคำปราศรัยของทั้งสามคน ในเวทีชุมนุม #คนนนท์ท้าชนเผด็จการ เมื่อวันที่ 10 ก.ย. 2563 เนื้อหาโดยสรุปดังนี้

    - คำปราศรัยของพริษฐ์ มีเนื้อหากล่าวถึงการปฏิบัติตนของพระราชวงศ์ เทียบกับหลักทศพิธราชธรรม
    - คำปราศรัยของปนัสยา มีเนื้อหาเกี่ยวกับสถานการณ์อยู่เหนือกฎหมายของพระมหากษัตริย์ และการจับกุมผู้วิพากษ์วิจารณ์ รวมทั้งย้ำแนวทางข้อเสนอ 10 ข้อ ของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม
    - คำปราศรัยของภาณุพงศ์ มีเนื้อหาเกี่ยวกับการเรียกร้องให้พระมหากษัตริย์เสด็จกลับมาอยู่ในประเทศไทย

    โดยระบุว่า คำปราศรัยของทั้งสามมีลักษณะดูหมิ่น, หมิ่นประมาท พระมหากษัตริย์ นักกิจกรรมทั้ง 3 คน ได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และปฏิเสธจะลงลายมือชื่อในบันทึกการแจ้งข้อกล่าวหา โดยระบุในการบันทึกว่า “ข้าพเจ้าไม่ประสงค์ลงลายมือชื่อ เนื่องจากไม่ยอมรับอำนาจศักดินา ไม่ยอมรับอำนาจเผด็จการ และไม่ยอมรับมาตรา 112 เป็นกฎหมาย” จากนั้นพนักงานสอบสวนได้ให้ปล่อยตัวทั้ง 3 คนไป โดยไม่มีการควบคุมตัวไว้ และไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ประกันตัว

    ในส่วนชินวัตร จันทร์กระจ่าง แกนนำเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี ซึ่งเดิมเข้าใจว่าจะถูกแจ้งข้อกล่าวหามาตรา 112 เพิ่มเติมด้วยนั้น ปรากฏว่าไม่ได้ถูกแจ้งข้อหาในคดีนี้ แต่ พ.ต.ท.บำเพ็ญ ได้แจ้งข้อกล่าวหาในคดีชุมนุมอีกคดีหนึ่ง ได้แก่ คดีข้อหาฝ่าฝืนข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จากการจัดชุมนุม #เด็กนนท์พร้อมชนเผด็จการ ที่ท่าน้ำนนทบุรี เมื่อวันที่ 29 ก.ค. 2563

    วันเดียวกันนี้ชินวัตรยังมีนัดรายงานตัวที่ศาลจังหวัดนนทบุรีตามสัญญาประกัน แต่เนื่องจากครบกำหนดฝากขัง 48 วันแล้ว คดียังไม่มีการยื่นฟ้องต่อศาล ทำให้ไม่มีนัดรายงานตัวครั้งต่อไป

    (อ้างอิง: บันทึกการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม สภ.เมืองนนทบุรี ลงวันที่ 8 ธ.ค. 2563 และ https://tlhr2014.com/archives/23837)
  • ชินวัตรเดินทางไปที่สำนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรี ในนัดส่งตัวให้อัยการ อัยการนัดฟังคำสั่งในวันที่ 9 เม.ย. 2564 เวลา 10.00 น.
  • อัยการยังไม่มีคำสั่ง เลื่อนนัดฟังคำสั่งเป็นวันที่ 1 มิ.ย. 2564 เวลา 10.00 น.
  • อัยการยังไม่มีคำสั่ง เลื่อนนัดฟังคำสั่งออกไป

ชั้นสอบสวน

ผู้ถูกดำเนินคดี :
ชินวัตร จันทร์กระจ่าง

การอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว
อนุญาต
ผู้ถูกดำเนินคดี :
ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล

การอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว
-
ผู้ถูกดำเนินคดี :
พริษฐ์ ชิวารักษ์

การอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว
-
ผู้ถูกดำเนินคดี :
ภาณุพงศ์ จาดนอก

การอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว
-

แหล่งที่มา : กรณีที่ศูนย์ทนายความฯ ติดตามสัมภาษณ์