ผู้ถูกดำเนินคดี
ข้อหา
หมายเลขคดี
  • อื่นๆ (ไต่สวนชันสูตรพลิกศพ, เลิกจ้าง(คดีแรงงาน), แจ้งความเท็จ, ซ่อนเร้นพยานหลักฐาน)
  • หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ (มาตรา 112)
  • อั้งยี่ (มาตรา 209)
ดำ 366/2561
แดง 945/2561

  • อื่นๆ (ไต่สวนชันสูตรพลิกศพ, เลิกจ้าง(คดีแรงงาน), แจ้งความเท็จ, ซ่อนเร้นพยานหลักฐาน)
  • หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ (มาตรา 112)
  • อั้งยี่ (มาตรา 209)
ดำ 366/2561
แดง 945/2561

ผู้ถูกดำเนินคดี

ข้อหา

  • หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ (มาตรา 112)
  • อั้งยี่ (มาตรา 209)
  • อื่นๆ (ไต่สวนชันสูตรพลิกศพ, เลิกจ้าง(คดีแรงงาน), แจ้งความเท็จ, ซ่อนเร้นพยานหลักฐาน)

หมายเลขคดี

ดำ 366/2561
แดง 945/2561

ข้อหา

  • หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ (มาตรา 112)
  • อั้งยี่ (มาตรา 209)
  • อื่นๆ (ไต่สวนชันสูตรพลิกศพ, เลิกจ้าง(คดีแรงงาน), แจ้งความเท็จ, ซ่อนเร้นพยานหลักฐาน)

หมายเลขคดี

ดำ 366/2561
แดง 945/2561

ความสำคัญของคดี

จำเลย 2 คน เป็นผู้ชักจูงให้นายหนูพินและฉัตรชัยตระเตรียมก่อเหตุเผาซุ้มเฉลิมพระเกียรติใน อ.เปือยน้อย แล้วถูกดำเนินคดีในข้อหา อั้งยี่ ตระเตรียมวางเพลิงเผาทรัพย์ และ ม.112 หลังถูกจับกุมและถูกควบคุมตัวโดยพลการในค่ายทหาร รวม 7 วัน อันเป็นการละเมิดสิทธิในความมั่นคงปลอดภัย อีกทั้งการดำเนินคดีโดยตั้งข้อหาตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 112 ถือเป็นการขยายขอบเขตการใช้กฎหมายดังกล่าวออกไปอย่างกว้างขวาง และในการพิจารณาคดี ศาลดำเนินกระบวนการพิจารณาโดยไม่แจ้งทนายจำเลยและญาติให้ทราบก่อนล่วงหน้าและเข้าร่วมกระบวนการ แม้จำเลยจะให้การรับสารภาพมาตั้งแต่ในชั้นสอบสวน และในที่สุดศาลจะยกฟ้องจำเลยทั้งสองในข้อหา ม.112 ก็ตาม

พฤติการณ์ของคดีตามเอกสารคดี

1. ระหว่างวันที่ 11-12 พ.ค. 60 จำเลยทั้ง 2 กับพวก ได้เข้าเป็นสมาชิกของคณะบุคคลที่มุ่งประสงค์จะวางเพลิงเผาซุ้มเฉลิมพระเกียรติซึ่งประดิษฐานพระบรมฉายาลักษณ์ของรัชกาลที่ 9, พระราชินีใน ร.9 และรัชกาลที่ 10 โดยประชาชนทั่วไปไม่อาจรู้ได้ อันเป็นการปกปิดวิธีการ และมีความมุ่งหมายเพื่อการอันมิชอบด้วยกฎหมาย
2. ตามวัน เวลาข้างต้น จำเลยทั้ง 2 กับพวก ได้ร่วมกันตระเตรียมถุงบรรจุน้ำมันจำนวนหลายถุง ผ้าพันไม้ชุบน้ำมันจำนวนหลายอัน ไฟแช็ค รถยนต์กระบะส่วนบุคคล จำนวน 1 คัน เพื่อตระเตรียมจะไปวางเพลิงเผาซุ้มดังกล่าวในเขต อ.เปือยน้อย อันเป็นการตระเตรียมวางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น และหมิ่นประมาท ดูหมิ่น แสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์

ความคืบหน้าของคดี

  • ศาลเบิกตัวจำเลยทั้งสองมาจากเรือนจำมาอ่านฟ้องให้ฟัง และถามคำให้การ จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ และโจทก์จำเลยไม่ติดใจสืบพยาน ศาลได้นัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 22 พ.ค. 61 โดยให้พนักงานคุมประพฤติสืบเสาะและพินิจจำเลยทั้งสองก่อนมีคำพิพากษา
  • ศาลเลื่อนอ่านคำพิพากษาออกไปเป็นวันที่ 18 มิ.ย. 61 โดยระบุว่า เนื่องจากยังเรียงคำพิพากษาไม่เสร็จ
  • ก่อนอ่านคำพิพากษา ศาลได้ให้จำเลยทั้งสองอ่านรายงานการสืบเสาะและพินิจ ซึ่งพนักงานคุมประพฤติจัดทำมาตามคำสั่งของศาล จำเลยทั้งสองอ่านแล้วไม่คัดค้าน ศาลอ่านทบทวนคำฟ้องและถามคำให้การในคดีทั้งสามอีกครั้ง จำเลยทั้งสองยืนยันให้การรับสารภาพ ศาลจึงอ่านคำพิพากษา พิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตาม ม.209 วรรคแรก, 217, 219 การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิด ฐานเป็นอั้งยี่ จำคุกคนละ 1 ปี, ฐานร่วมกันตระเตรียมวางเพลิงฯ จำคุกคนละ 4 ปี รวมจำคุกคนละ 5 ปี จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพลดโทษให้ครึ่งหนึ่ง คงจำคุกคนละ 2 ปี 6 เดือน ข้อหาอื่นนอกจากนี้ให้ยก (http://www.tlhr2014.com/th/?p=7816)
  • ทนายจำเลยคดีเผาซุ้มเฉลิมพระเกียรติใน จ.ขอนแก่น เข้ายื่นอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์ภาค 4 คัดค้านคำพิพากษาศาลชั้นต้น โดยคำอุทธรณ์ระบุว่า ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามโจทก์ฟ้อง ลงโทษฐานเป็นอั้งยี่ จำคุกคนละ 1 ปี, ฐานร่วมกันตระเตรียมวางเพลิงฯ จำคุกคนละ 4 ปี รวมจำคุกคนละ 5 ปี จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพลดโทษให้ครึ่งหนึ่ง คงจำคุกคนละ 2 ปี 6 เดือน ยกฟ้องข้อหาตาม ม.112 และให้นับโทษต่อจากโทษในสองคดีแรกนั้น จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ขอให้ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์ในข้อหาอั้งยี่ด้วยเหตุผลเดียวกับที่อุทธรณ์คดีเผาซุ้มในอำเภอชนบท และขอให้ศาลอุทธรณ์พิพากษาลดโทษและรอการลงโทษทางอาญาแก่จำเลยทั้งสองเช่นกัน

    ศาลจังหวัดพลมีคำสั่งรับอุทธรณ์ของจำเลยในทั้ง 3 คดี ส่งศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิจารณาต่อไป

ชั้นสอบสวน

ผู้ถูกดำเนินคดี :
ปรีชา

การอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว
-
ผู้ถูกดำเนินคดี :
สาโรจน์

การอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว
-

ศาลชั้นต้น

ผู้ถูกดำเนินคดี :
ปรีชา

ชื่อองค์คณะผู้พิพากษา :
  1. นายเพิ่มศักดิ์ สุริยวนากุล
  2. นายพิทักษ์ พันธุ์วัฒนะสิงห์

ผลการพิพากษา
ลงโทษ
การอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว
-
พิพากษาวันที่ : 18-06-2018
ผู้ถูกดำเนินคดี :
สาโรจน์

ชื่อองค์คณะผู้พิพากษา :
  1. นายเพิ่มศักดิ์ สุริยวนากุล
  2. นายพิทักษ์ พันธุ์วัฒนะสิงห์

ผลการพิพากษา
ลงโทษ
การอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว
-
พิพากษาวันที่ : 18-06-2018

ข้อสังเกต

คดีนี้ อาจไม่ใช่กรณีที่จำเลยใช้เสรีภาพในการแสดงออกโดยสันติ แต่ถือเป็นผลพวงของความขัดแย้งทางการเมืองในสังคมไทยอยู่ในปัจจุบัน โดยฝ่ายที่ตรงข้ามกับรัฐ ถูกกดปราบ ปิดกั้น ไม่ได้รับการส่งเสริมให้แสดงออกอย่างสันติ และเท่าเทียมกับฝ่ายรัฐ โดยเฉพาะในช่วงหลังรัฐประหาร ทำให้คนกลุ่มแรกหันไปเลือกใช้วิธีการที่ไม่ได้อยู่ในกรอบของกฎหมาย

แหล่งที่มา : กรณีที่ศูนย์ทนายความฯ ติดตามสัมภาษณ์